| ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
4 ทศวรรษ โรม่าอุตสาหกรรม อาณาจักรกระเป๋า Top 3 แบรนด์ไทย ที่เริ่มจากการซื้อมา-ขายไป
หากจะพูดถึง ธุรกิจ ที่อยู่มานานกว่าหลัก 10 ปีขึ้นไป เรามักเจอแต่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 หรือ 5 กันเสียเป็นส่วนใหญ่ อาทิ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ แต่ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจ ที่แม้ไม่ใช่ปัจจัย 4 หรือ 5 ในการดำรงชีวิต แต่ก็ดำเนินกิจการมานานกว่า 4 ทศวรรษแล้ว
เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ คุณอูม-ฐานิดา รัถยาพิมล Managing Director (MD) วัย 34 ปี MD รุ่นที่ 2 ของ บริษัท โรม่าอุตสาหกรรม จำกัด 1 ใน 3 ผู้ผลิตกระเป๋าแบบครบวงจรรายใหญ่ของเมืองไทย ที่ใจดีมาพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นมาของธุรกิจให้ฟัง
“บริษัท โรม่าอุตสาหกรรม จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2524 โดยคุณพ่อนะคะ ปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ 42 แล้ว แรกเริ่มธุรกิจที่เป็นรุ่นคุณพ่อท่านทำ เป็นร้านขายกระเป๋าแบบซื้อมาขายไปค่ะ ทำไปได้สักพักท่านก็จับพลัดจับผลูมาทำเป็นโรงงานทำกระเป๋า ก็รับผลิตกระเป๋าแบบต่างๆ เอง อย่างพวกกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยม กระเป๋าเมสเซนเจอร์ แล้วก็พัฒนามาเรื่อยๆ เริ่มเห็นว่า ธุรกิจมันไปได้ ก็เริ่มทำแบรนด์ตัวเองแล้วส่งขายบ้าง อย่างแบรนด์ Romar แล้วก็ทำกระเป๋าพรีเมียม และก็ OEM”
“ด้วยความที่ทางบ้านทำธุรกิจอยู่แล้ว และคุณพ่อท่านก็อายุเยอะ ถ้าเราเลือกเรียนอย่างอื่นแล้วจบมาต้องไปทำงานข้างนอกเพื่อหาประสบการณ์ แล้วค่อยกลับมาสืบต่อกิจการ มันก็ต้องนับหนึ่งใหม่ถึง 2 ครั้ง เลยเลือกเรียนและจบมาทางด้านการตลาดและบริหาร จบมาก็เข้ามาทำต่อจากคุณพ่อเลยดีกว่า พอเข้ามาก็พัฒนาต่อ ทำพวกกระเป๋าเดินทางไฟเบอร์ ที่มีความแข็งแรงขึ้น และทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น ทำให้โรงงานเป็นโรงงานผลิตกระเป๋าแบบ One Stop Service ครบ จบในที่เดียว คือ ดูแลทั้งการออกแบบ จัดหาวัตถุดิบ และด้านโลจิสติกส์ สะดวกสบายทั้งลูกค้าและเราที่เป็นผู้ผลิตก็ได้ยอดเพิ่มขึ้น” คุณอูม เล่าอย่างนั้น
นอกจากนั้น เจ้าของรุ่นที่ 2 ยังเล่าต่อว่า ปัจจุบัน บริษัท โรม่าอุตสาหกรรม จำกัด มีแบรนด์สินค้าในเครือทั้งหมด 3 แบรนด์ด้วยกัน คือ แบรนด์ Romar ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ, แบรนด์ Romar POLO ที่ถือเป็นจุดแข็งและอยู่มานานพอๆ กัน และ Cba แบรนด์กระเป๋าเดินทางและกระเป๋ากีฬา เน้นเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์ การันตีเรื่องคุณภาพที่ดี มีความแข็งแรง ใช้ได้นาน และคุ้มค่า
“บริษัทเรามีการคำนึงถึงเรื่องคุณภาพมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานแล้วค่ะ ทำให้เรามักแข่งกับตัวเองมากกว่าการกังวลเรื่องคู่แข่ง เราคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้พัฒนาไปเรื่อยๆ ให้แบรนด์เราเดินหน้าไปได้ด้วยดี ตอนที่เกิดโควิด เราก็กระทบนะคะ แต่โชคดีที่เราทำการตลาดเน้นลูกค้าคนไทย ทำให้มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบนำเข้าที่นำมาใช้ทำกระเป๋ามากกว่า”
“เอาจริงๆ ช่วงนั้นเราขายกระเป๋าเดินทางไม่ได้เลยสักใบนะคะ เราก็หันไปหาทางออกอื่น อย่างการไปเป็นสปอนเซอร์ให้คนอื่น อย่างเวทีประกวดนางงาม เพื่อทำให้คนรู้ว่า เออ กระเป๋าเรายังขายอยู่นะ มีหลายแบบด้วย นอกจากนั้นก็กลับมานั่งดูว่าในมือเรามีอะไร ก็เอามาทำเป็นสินค้าเพิ่มเติม ให้มันมีของขายให้ได้เงินมาเลี้ยงพนักงานทั้ง 700 คนของเรา ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมด และด้วยความที่เราบริหารกิจการที่ค่อนข้าง Back To Basic มันเลยทำให้เราไม่ต้องแบกต้นทุนอะไรเยอะแยะ ทำให้ผ่านวิกฤตมาได้ และมันทำให้เราคิดได้ว่า การทำธุรกิจต้องใช้คติใจเขาใจเรา และใช้หลากหลายวิธีการด้วย เพื่อให้ธุรกิจเรามีความยืดหยุ่น จะตึงจะผ่อนยังไงก็ทำได้ รับมือได้ทุกสถานการณ์” คุณอูม เล่าอย่างนั้น
ปัจจุบัน กระเป๋าของ โรม่าอุตสาหกรรม มีทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 200 sku ราคาเริ่มต้นที่หลักสิบไปจนถึงหลักพันบาท โดยเป็นสัดส่วนธุรกิจ 60% และอีก 40% เป็นการผลิตแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทเองเพื่อขายส่งและขายปลีก โดย ‘โรม่าอุตสาหกรรม’ จะจำหน่ายสินค้าในทุกช่องทางตลาดและธุรกิจทั้งแบบ B2B, B2C, C2C เป็นต้น
“จุดแข็งของโรม่าอุตสาหกรรม เอาจริงๆ เราว่ามันเป็นเรื่อง เวลา คือ ถ้าลูกค้าสั่งกระเป๋าจากต่างประเทศ มันใช้เวลานาน ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ หรือมากกว่านั้น กว่าเขาจะได้กระเป๋าที่สั่ง แต่ที่บริษัทเราใช้เวลาผลิตประมาณ 30 วัน และอย่างที่บอกว่าเราทำแบบ One Stop Service ครบ จบในที่เดียว คือ ดูแลทั้งการออกแบบ จัดหาวัตถุดิบ และด้านโลจิสติกส์ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องรอนานมาก”
“มูลค่าการตลาดในไทย เอาจริงๆ มันก็ยังพอที่จะให้บริษัทเรายังดำเนินธุรกิจต่อไปได้นะคะ แต่เราก็วางแผนเรื่องการส่งออกหรือทำงานกับลูกค้าต่างชาติเหมือนกัน เพราะเขาก็มีติดต่อเข้ามาทำธุรกิจด้วยเหมือนกัน แต่ด้วยความต้องการของลูกค้าไทยที่ไว้ใจเราค่อนข้างเยอะ เราเลยไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายขนาดนั้น แต่ยินดีมากๆ ที่จะร่วมงานด้วยกัน หากเขามีศูนย์อยู่ที่ไทย ก็เป็นเรื่องของอนาคตที่เราต้องกลับไปวางแผน” คุณอูม ทิ้งท้ายอย่างนั้น
สอบถามเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก Romar Co.,Ltd โรงงานรับผลิตกระเป๋าทุกชนิด และ เว็บไซต์ www.romar.co.th
