อดีตสาวโรงงาน ผันตัวขาย ข้าวเหนียวไก่ทอด ขายถูก ให้เยอะ ยอดเฉลี่ยต่อวัน หลักหมื่น!

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสได้คุยกับ คุณภัทร–ณัฐภัทร ไศลภูมิ วัย 34 ปี อดีตสาวโรงงานที่ผันตัวมาเป็นนายตัวเอง ยึดอาชีพแม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่ทอด อย่าง ร้านเจ๊ภัทร ข้าวเหนียวไก่ทอด ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพ แต่ขายราคาถูก และให้เยอะแบบไม่กลัวขาดทุน

“ตอนทำงานโรงงาน ก็มีความฝันว่าอยากมีธุรกิจกิจการเล็กๆ สักธุรกิจหนึ่งเป็นของตัวเอง เพราะเราก็คิดว่า อาชีพลูกจ้างไม่มั่นคงและไม่ใช่ตัวของตัวเองเท่าไหร่ ซึ่งอาชีพค้าขาย มันก็ค่อนข้างตอบโจทย์ความต้องการของเรา ณ ตอนนั้น เพราะพี่เคยขายไก่ทอดหาดใหญ่ มันก็มีวิชาความรู้ติดตัวอยู่”

“ก็ตัดสินใจลาออก มาขายของโดยใช้เงินที่เก็บจากตอนทำงานนั่นแหละมาตั้งต้น ก็ขายมาหลายอย่างเลยนะ แต่ไม่เวิร์ก เลยมาเลือกขายของกินเพราะคนเราต้องกินอยู่แล้ว และเลือกมาขายข้าวเหนียวไก่ทอด เพราะลูกชอบกิน พี่เองก็ชอบกิน อีกอย่างคือการทำไม่ยุ่งยากมาก วิชาติดตัวตอนขายไก่ทอดหาดใหญ่ก็มี เลยเอามาปรับใช้” คุณภัทร ว่าอย่างนั้น

คุณภัทร ยังเล่าต่อว่า ในช่วงแรกๆ ที่เปิดร้านขาย ก็ไม่ได้ขายดีเท่าไหร่หนัก เพราะเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป ด้วยความที่ลูกสาวคนโตของคุณภัทร ชอบอาหารทอดที่คลุกผงปรุงต่างๆ จึงได้แนะนำไอเดียให้คุณภัทรทำไก่ทอดคลุกผงปรุงรสให้มีหลายๆ สูตร

“ด้วยความที่ลูกสาวชอบกินพวกอะไรทอดๆ คลุกชีสผง เขาก็แนะนำว่า แม่ลองเอาไก่ทอดมาคลุกชีสดูสิ พอลองทำก็เห็นว่ามันเข้ากัน เลยต่อยอดรสชาติอื่นๆ มาเรื่อยๆ ก็ได้กระแสจากการบอกปากต่อปาก จนตอนนี้ก็ขายมาได้กว่า 7 ปีแล้วค่ะ”

“วันหนึ่งพี่ขาย 2 ที่ แบ่งเป็น 2 กะ เช้า–เย็น ขายได้เฉลี่ยประมาณ 40,000 บาท ยังไม่หักต้นทุนนะ ช่วงที่ขายดีสุดจะเป็นกะที่ 2 คือ บ่าย 2 โมง ถึง 6 โมงเย็น กะนี้จะขายได้ประมาณ 32,000 บาท หักทุนแล้วก็กำไรประมาณ 1,200 บาท” คุณภัทร ว่าอย่างนั้น

โดยใน 1 วัน คุณภัทรลงทุนประมาณ 35,000 บาท รวมข้าวเหนียวที่นึ่งพร้อมขาย ส่วนไก่ใช้ประมาณ 500 กิโลกรัม นอกจากไก่ ก็มีหมู, ตับ และกึ๋นทอดด้วย แต่เนื่องจากหมูราคาสูงจึงถัวเฉลี่ยสัดส่วนกับเนื้อไก่และวัตถุดิบอื่นๆ

“ข้าวเหนียวไก่ทอดของร้านพี่ จะต่างจากร้านอื่นตรงที่ ข้าวเหนียวของเราจะนิ่มกว่าของร้านอื่น ไก่กับหมูเราหมักสด ทอดใหม่ทุกวัน เลือกใช้แต่ส่วนนิ่มๆ ทำให้พวกเนื้อไก่เนื้อหมูเราไม่แข็ง นอกจากนั้น เราก็มีรสชาติให้เลือกกว่า 13 รสชาติ ซึ่งที่ขายดีสุด จะเป็น ตับ กับ กึ๋น และรสชาติดั้งเดิมขายดีสุด แต่รสอื่นๆ ก็ขายหมดทุกรสค่ะ”

“โดยการขายของร้านเราจะให้ลูกค้าชิมก่อนว่า เขาอยากกินรสไหน ถูกใจค่อยซื้อ เรียกว่าเป็นเทคนิคมัดใจลูกค้าทำให้เขาได้เลือกก่อน โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อในของที่ไม่ถูกใจ จริงๆ กำไรพี่ได้น้อยมาก แต่อาศัยขายเอาจำนวน มันก็ทำให้พออยู่ได้” คุณภัทร ว่าอย่างนั้น

คุณภัทร ยังทิ้งท้ายไว้ว่า เธอไม่มีการขายแฟรนไชส์ แต่หากใครสนใจก็จะสอนสูตรให้แบบไม่หวง

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ (061) 128-4612 และ (090) 794-3827

 

เผยแพร่เมื่อ วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ.2566