บอกลาเวทีนางงาม เปิดร้าน ก๋วยเตี๋ยวไก่ 2 ปี คืนทุน ยอดขายปัง 5 หมื่น ต่อวัน

“การเป็นดาราหรือนางงามที่ใช้ความสวยความงามทำมาหากิน ใช้ความสามารถก็จริง แต่มันมีระยะเวลาของการทำงานอยู่ ใช้ความสวย สักวันความสวยก็ลดลง ความสามารถของเราเท่าเดิมนะ แต่มีคนใหม่ๆ เข้ามาทั้งสวยและเด็กกว่าด้วยแทนที่ ย้ายกลับมาที่การทำธุรกิจเหนื่อยมาก เครียดมาก ความเสี่ยงสูง แต่ว่าได้เงินเยอะ แล้วมันสามารถกินได้ระยะยาว ถ้าเราไม่ลดคุณภาพใดๆ หากเป็นอย่างนี้สืบไป จะอยู่ได้ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน”

คำพูดอดีตนางงาม ที่เลือกเส้นทางการทำธุรกิจ ของ คุณปอไหม-รัตติกร มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2015 เจ้าของร้าน “เตี๋ยวไก่นางงาม” แม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้ทางด้านธุรกิจ แต่เธอก็มุ่งมั่นให้ระยะเวลาพิสูจน์ความสำเร็จให้กับชีวิตของเธอเอง 

คุณปอไหม เล่าว่า แรงบันดาลใจของเธอ เกิดจากการที่เธอเคยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีงานเล่นละคร ถ่ายแบบโชว์ตัวเข้ามา แต่รู้สึกว่ารายได้ไม่พอใช้ อีกทั้งยังไม่มั่นคงจึงมีความคิดอยากจะเข้าสู่การทำธุรกิจสักธุรกิจ ที่ต้องเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบด้วย

“แรงบันดาลใจเหรอคะ เกิดจากการใช้เงินไม่พอ (หัวเราะ) ตอนนั้นปอไหมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์บริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง มีเล่นละคร ถ่ายแบบ โชว์ตัวอะไรแบบนี้ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่รายได้ที่มั่นคง ก็เลยคิดว่าจะทำธุรกิจที่เราชอบ หาอยู่นานมากเลยนะ กว่ามันจะเจอธุรกิจที่เลือกได้จริงๆ อะ ปอไหมสังเกตตัวเองว่ามีพฤติกรรมยังไง การกินนี่แหละ ที่มันไม่ใช่เทรนด์ ไม่ฉาบฉวย เลยหยิบอะไรที่ทานได้ทุกวัน ทำได้ทุกวัน ซึ่งคำตอบมันคือ ก๋วยเตี๋ยว นี่แหละ และเป็นสิ่งที่เราชอบด้วย”

“แต่จริงๆ ปอไหมชอบหลายก๋วยเตี๋ยวมากเลยนะ แบบเลิกถ่ายละครมาดึกๆ ก็จะแวะร้านก๋วยเตี๋ยว บังเอิญเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ พอได้กินแล้วชอบรสชาติ ปอไหมก็เลยไปขอซื้อสูตรเขา ก็ไปอ้อนนานมากเลยนะ กว่าเขาจะขายสูตรให้ แต่เราก็ไม่ใช่แม่ค้า เราเป็นนักแสดง ซึ่งมันเป็นอาชีพที่อยู่หน้ากล้อง ไม่มีสกิลเรื่องการขายอะไรเลย ก็ต้องให้เขามาสอนขายด้วย” คุณปอไหม เล่าอย่างนั้น

เปิดร้านขาย “เตี๋ยวไก่นางงาม”

“ตอนนั้นปอไหมเก็บเงินลงทุนได้ประมาณ 850,000 บาท แล้วก็หาพื้นที่ที่จะหาสร้างร้าน คือตอนนั้นเราโลภมาก อยากหาพื้นที่เยอะๆ เพื่อที่จะได้ทำร้านให้มันตั้งโต๊ะได้เยอะ แต่จริงๆ แล้ว มันควรจะเป็นตึกแถวที่ไม่ต้องทำอะไรมากเลย แต่ปอไหมดันหยิบเงินมาลงทุนใหม่หมด ก็ต้องสร้างร้านขึ้นมาเป็นปูนเป็นอะไรขึ้นใหม่ เหมือนทำให้ทุนไปอยู่ที่การก่อสร้างซะเยอะ”

“อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ครั้งต่อไป จะไม่ทำแบบนี้อีก ถ้าเงินลงทุนเราไม่หนาพอ แล้วก็ไม่คุ้มทุน เพราะพอใช้เงินลงทุนไป ไม่นานมันก็กลายเป็นช่วงโควิด ยอดขายเลยติดลบมาเรื่อยๆ เลย เดือนละ 20,000-30,000 บาท อะไรแบบนี้ เป็นอย่างนั้นอยู่ 2 ปี ถ้าเป็นคนอื่นก็คงที่จะถอดใจไปแล้วอะ ถูกไหม แต่เราสู้” คุณปอไหม เล่า

เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจ ความคิดในใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณปอไหมได้ให้โอกาสตัวเองในการคิดบวก ทำความเข้าใจกับตัวเองว่า เธอไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจมาก่อน 

“เราจะให้โอกาสตัวเองว่า เราไม่ได้เก่งทางนี้นะ อาจมีระยะเวลาที่มากขึ้นกว่าคนที่เขาเชี่ยวชาญทางด้านนี้ หรือมีสกิลทางด้านนี้ แต่เราจะใช้แรงงาน ใช้ประสบการณ์ในการทำ ซึ่งเราไม่เคยค้าขายมาก่อน มันเลยแบบโอเค คิดเสียว่ามันคือต้นทุนชีวิตแล้วกัน เราไม่ได้มีสกิลทางด้านนี้ เราต้องทน” เจ้าของร้านเตี๋ยวไก่นางงาม ว่าอย่างนั้น

มรสุมสร้างนักสู้

ในช่วงที่กำลังสร้างธุรกิจเป็นไปไม่ได้ที่ทุกอย่างจะราบรื่น คุณปอไหมเธอเริ่มทำธุรกิจในช่วงโควิด ใช้เวลาถึง 2 ปีที่อดทนเพื่อรอคอยจังหวะชีวิต

“ตอนนั้นมันเป็นช่วงโควิดพอดี คนไม่ค่อยใช้จ่ายเงิน และก็จะทำอาหารกินเองที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นมันเป็นช่วงแรกๆ ของร้านอะเนาะ ทุกอย่างปอไหมก็จ้างหมดเลย เราก็แบบไม่กล้าที่จะทิ้งงานประจำของเรา แล้วก็จ้างคุณแม่เก็บเงิน จ้างน้องชายต้ม จ้างเด็กเสิร์ฟ จ้างทุกอย่างเลย จนกลายเป็นว่า กว่าจะคืนทุน มันนาน ใช้เวลาตั้ง 2 ปีเลยนะคะ”

“ตอนนั้นเงินลงทุนมันเยอะ แล้วก็ไม่อยากให้เงินลงทุนตรงนั้นมันเสียไป เลยเลือกที่จะสู้ แล้วยุคนี้มันอาจจะเป็นยุคที่ทุกคนทุกอาชีพก็หืดขึ้นคอเหมือนกัน เลยคิดกับตัวเองว่า เราลองสู้สักตั้งไหม เพราะก๋วยเตี๋ยวไก่ มันเป็นอะไรที่ทานง่ายนะ  ถ้าเกิดเราทำก๋วยเตี๋ยวไก่ ไม่ประสบความสำเร็จ คือฉันก็คงทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จแล้วนะในชีวิต (หัวเราะ) แต่พอมันผ่านพ้นในช่วงคืนทุนมาได้ มันเป็นกำไรที่ทำให้เราชื่นใจเลย ตอนนี้ก็ขอบคุณตัวเองนะ ที่เลือกที่จะอดทนทุกอย่าง” คุณปอไหม เล่า

 

ยุคสมัยเปลี่ยนไป จุดเด่น จึงเป็นสิ่งสำคัญในการแข่งขันดึงดูดลูกค้า โดยร้านเตี๋ยวไก่นางงามคือ การให้เยอะ ให้ถึงขนาดที่ว่า ทานเพียง 1 ชามก็อิ่มได้เลย ไม่ต้องหาของทานเล่นต่อ ทั้งยั้งให้ข้อไก่ ที่เป็นข้อเต็มๆ ยาวๆให้ หากเป็นตีนไก่ก็เป็นตีนเบอร์ใหญ่ น่องก็เป็นน่องเบอร์ใหญ่เช่นกัน

“รสชาติเราจะเป็นรสชาติมาตรฐาน เป็นรสชาตินี้ตลอดเลย ไม่มีขึ้นไม่มีลง แล้วก็ปริมาณ และราคาที่มัดใจลูกค้า ก็กลายเป็นที่บอกต่อ จนมีคนสนใจมาขอสัมภาษณ์ลงช่องยูทูบ เอาจริงๆ ร้านปอไหม มันไม่ได้ปังเพราะเกิดจากการที่เราเป็นนางงามหรือเกิดจากการที่เราเป็นนักแสดง มันเกิดจากการที่เราทำยอดขายอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้อยู่ๆ พุ่งกระฉุดขึ้นมา ร้านปอไหมเกิดจากการใช้ระยะเวลาและความไว้ใจของลูกค้า”

“ยอดขายต่อวัน ตอนนี้ 50,000 บาท แล้วค่ะ ต่อวันต่อสาขานะคะ ต่อสาขาอันนี้คือสิ่งที่คาดหวังที่สุด ซึ่งเราลงมือทำเอง แล้วเราเห็นว่ามันทำได้ แล้วมันโอเคในละแวกที่เปิดร้าน มันจะทำได้ประมาณตั้งเป้าไว้ แล้วก็เพิ่งประสบความสำเร็จในตอนนี้” อดีตนางงามเจ้าของร้าน ว่าอย่างนั้น

นอกจากประสบความสำเร็จตามยอดที่ตั้งไว้ คุณปอไหม เล่าเสริมอีกว่า ปัจจุบันกำลังเตรียมขยายสาขาเป็นร้านที่เน้นไปทางดีลิเวอรีด้วย

“ตอนนี้กำลังจะเปิดร้านใหม่แล้วนะคะ ร้านนี้จะทำเป็นโมเดลการขายออนไลน์เท่านั้น เพราะเรามองเห็นพฤติกรรมคนรอบข้าง ที่เขาจะชอบซื้อสั่งมาทานที่บ้าน อะไรแบบนี้ ปอไหมก็เลยสังเกตว่า พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้น ไปทำแบบธุรกิจที่มันฟิกซ์คอสต์ ฟิกซ์ต้นทุนทั้งหมด รวมถึงค่าแรงพนักงานด้วย แล้วขายเท่านั้นเท่านี้ มันจะเวิร์กไหม ก็กำลังดูๆ อยู่”

บทเรียนธุรกิจและสิ่งที่อยากแชร์

ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง ความอดทนเก็บเกี่ยวประสบการณ์มักให้สิ่งที่ทรงคุณค่ากับชีวิตเสมอ คุณปอไหม เล่าถึง บทเรียนการทำธุรกิจที่ได้ตลอดเวลา 3 ปีว่า ต้องใช้ความอดทนอย่างมากเลยทีเดียว

“ใช้ความอดทนค่ะ และเป้าหมายที่ชัดเจน แล้วอดทนรอคอย เป็น 3 สิ่งที่ปอไหม เรียนรู้จากประสบการณ์ 2 ปีที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของปอไหมติดลบ มันเป็นเรื่องที่ช่วยสอนให้เราจำได้ขึ้นใจเลย ถ้าเรามีเป้าหมาย ทุกอย่างมันชัดเจน มันเคลียร์ แล้วขอแค่ขอบเขตการทำงานก็จบ ถ้าเราทำได้ก็คือโอเค แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อาจจะไม่ใช่ทางเรานะ ก็เปลี่ยนใหม่อะไรแบบนี้”

“ก็อยากจะแชร์ถึง สิ่งที่ปอไหมยึดมั่นมา คือเราคิดว่า สิ่งที่เราทำมันเวิร์ก ไม่ใช่เทรนด์ ไม่ใช่กระแสนิยม เราแค่ต้องสร้างขอบเขตการทำงาน ให้ระยะเวลาการทำงาน และเป้าหมายที่ชัดเจน มันจะทำให้เราหาวิธีการ มันจะถึงเป้าหมายได้เร็ว ส่วนคนที่ล้มอยู่ตอนนี้ ก็อยากฝากว่า คุณมีเป้าหมายชัดหรือยัง สิ่งที่คุณเลือกมันโอเคแล้วใช่ไหม มันถูกต้องหรือเปล่า ก็ขอแค่ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สักวันมันจะเป็นวันของเราค่ะ” คุณปอไหม ทิ้งท้ายอย่างนั้น

สอบถามเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก เตี๋ยวไก่นางงาม