รวมที่สุดแห่งความประทับใจ ไปกับ แรลลี่เส้นทางเศรษฐีสัญจร เรียนรู้และแบ่งปัน ครั้งที่ 7

ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับกิจกรรมดีๆ ที่จัดต่องเนื่องเป็นปีที่ 7 แรลลี่เส้นทางเศรษฐีสัญจร กรุงเทพฯ-พัทยา ซึ่งเริ่มต้นกันตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมแรลลี่กว่า 30 คัน ทยอยเดินทางมายังจุดลงทะเบียน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) 

    

ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่นและเป็นกันเอง เพื่อนัดแนะการทำกิจกรรม พร้อมรับประทานอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมูปิ้งเฮียนพ ฮ่องเต้ กุยช่ายบางกรอบ Snack box จาก S&P จบด้วยกาแฟหอมๆ และชาไทย จาก All Cafe

เมื่อถึงเวลาปล่อยตัว คณะแรลลี่เดินทางจุดนัดพบแรก มูลนิธิคุณพ่อเรย์ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท กม.145 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความน่ารักสดใสของน้องๆ ในมูลนิธิกว่า 650 ชีวิตมาคอยต้อนรับ พร้อมขับร้องบทเพลงขวานบิ่น เพลงกำลังใจ และเพลงแค่หลับตา

  

จากนั้น คุณพ่อสุขุม ธนะสิงห์ ประธานมูลนิธิคุณพ่อเรย์ ได้กล่าวต้อนรับว่า “ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่เราสร้างมูลนิธินี้ขึ้นมา เราหาทุนให้น้องๆ ได้เรียนหนังสือ มีงานทำ และทุนเหล่านั้นก็ได้มอบโอกาสให้กับน้องๆ หลายชีวิต วันนี้รู้สึกขอบคุณทุกท่านที่มอบโอกาส และแบ่งปันให้กับน้องๆ ทุกคน”

นอกจากนี้ทางโครงการชุมชนอุดมปัญญามติชน ยังได้มอบหนังสือให้กับน้องๆ พร้อมกันนั้นเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ได้มอบเช็คมูลค่ากว่า 5,000 บาท เพื่อเป็นทุนสนับสนุนเพิ่มเติม  

จากนั้น มูลนิธิฯ ได้พาชมโบสถ์ประจำศูนย์พระมหาไถ่ พัทยา พร้อมเล่าให้ฟังถึงประวัติความเป็นมาว่า ไอเดียเกิดจากคุณพ่อเรย์ พระสงฆ์อเมริกันที่เดินทางเข้ามาเผยแพร่ศาสนาในประเทศไทย ท่านได้เดินทางไปทั่วประเทศไทย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ คุณพ่อเรย์ได้เห็นโบสถ์ของศาสนาพุทธมากมาย และเกิดความประทับใจ โดยเฉพาะ โบสถ์ของวัดอรุณฯ

เมื่อท่านได้ที่ดินตรงพระมหาไถ่ตรงนี้ จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างโบสถ์ โดยสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1985 โดยใช้ระยะเวลา 2 ปี ลักษณะภายนอกของโบสถ์แห่งนี้จะเหมือนวัดไทย แต่ภายในเป็นจิตรกรรมฝาผนังแสดงเรื่องราวตามคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่ได้จิตรกรชาวพุทธและชาวคริสต์ช่วยกันสร้างสรรค์

ซึ่งจิตรกรรมที่โดดเด่นที่สุดจะเป็นรูป พระเยซูคริสต์นั่งราชรถขึ้นสู่สวรรค์ มีนัยแฝง สื่อถึงการเชิญชวนให้ทุกคนทุกท่านทำความดีกันเยอะๆ ซึ่งสอดคล้องกับความเชื่อของทั้งศาสนาพุทธและคริสต์นั่นเอง

จากนั้นช่วงเที่ยง ออกเดินทางสู่ ร้านอาหารปูเป็นซีฟู้ด ซึ่งตั้งอยู่ริมหาดจอมเทียน พัทยาใต้ นับเป็นร้านอาหารทะเลชื่อดัง และความอร่อยเป็นที่เลื่องลือ ชิมเมนูเด็ดที่ยกมาเสิร์ฟให้เต็มโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็น ไข่เจียวหมูสับ เนื้อปูผัดผงกะหรี่ แกงเหลืองปลายอดมะพร้าวอ่อน ปลากะพงทอดราดน้ำปลา ยำถั่วพู น้ำพริกไข่ปู ยอดมะระไฟแดง และปิดท้ายด้วยของหวาน ทับทิมกรอบสยาม สละลอยแก้ว และบงกช 3 สี

หลังจากอิ่มท้องแล้ว สถานีต่อไปคือลุยหนึ่งในสวนสวยที่สุดในโลกกับ สวนนงนุช แหล่งเรียนรู้พฤกษศาสตร์ โดยไฮไลต์ ที่เรียกเสียงฮือฮา จากคณะแรลลี่ไม่น้อย คือ “มะพร้าวทะเล” ลูกละแสนบาท ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้หายาก มีต้นกำเนิดจากเกาะซีเชล แห่งมหาสมุทรอินเดีย

คุณดิเรก ไม้ทอง รองผู้จัดการทั่วไป ด้านพัฒนาธุรกิจ สวนนงนุช พัทยา บรรยายให้ฟังเกี่ยวกับ มะพร้าวลูกละแสน ว่า ใช้เวลา 30 กว่าปี กว่าจะออกลูก และหากนำเมล็ดไปปลูก ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี จึงจะงอกเป็นต้น ราคาซื้อขายกันนั้น ต้นละ 4-5 แสนบาท

“คุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช มีนโยบายเก็บพันธุ์ไม้ต่างๆ ไว้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ แนวทางการทำธุรกิจ จึงเน้นการไปในเรื่องของการศึกษา เป็นแหล่งเรียนรู้ ส่วนรายได้อีกด้านหนึ่ง คือ การรับจัดแลนด์สเคปให้กับผู้สนใจทั่วไป เพราะสวนนงนุช นั้นมีความเชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้เป็นหลัก” คุณดิเรก กล่าว

และว่า ปัจจุบันสวนนงนุชมีพนักงานอยู่ราว 3,000 คน ช่วงโควิด แม้ธุรกิจจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ไม่มีการปลดพนักงานออกแม้แต่คนเดียว เพราะทางผู้บริหารต้องการกัดฟันสู้ไปด้วยกัน

“องค์ความรู้ในเรื่องต่างๆ ของสวนนงนุช ผู้ที่สนใจมาศึกษาดูงาน สามารถถ่ายรูปได้ เรียนรู้ได้ตลอด เพราะคุณกัมพล ท่านมักบอกเสมอ คนเราตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้” ตัวแทนสวนนงนุช กล่าว 

เสร็จทุกกิจกรรม ในช่วงเย็น คณะแรลลี่เดินทางเข้าพักที่ โรงแรม อมารี พัทยาเหนือ และร่วมดินเนอร์ปาร์ตี้ในธีมมูไนท์ ซึ่งจัดขึ้นบริเวณการ์เด้นโซนหน้าโรงแรม มองเห็นวิวทะเลและท้องฟ้าอันสวยงาม

บรรยากาศภายในงานสุดคึกครื้น เพราะมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย เช่น ปาลูกโป่งรับของรางวัล และได้ลองลิ้มชิมรสอาหารทะเลเลิศรสครบทั้งคาวหวาน คลอไปกับวงดนตรีที่มาช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานตลอดช่วงค่ำ

และเอ็กคลูซีฟกับกิจกรรมสำหรับสายมู(เตลู) อย่าง การดูดวง กับ แม่หมอพิมพ์ฟ้าและแม่หมอแอลเรียล ที่มาเผยภาพรวม ดวงของแต่ละราศี ทั้งการงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก

พร้อมปิดท้ายค่ำคืนด้วยกิจกรรมการประกาศรางวัลการแข่งขันแรลลี จำนวน 5 รางวัล โดยรางวัลใหญ่ในงานเป็นไอโฟน 14 มูลค่า 32,900 บาท และรางวัลร่วมสนุกในงานอื่นๆ อีกมากมาย