ส่องราคาบัตรคอน แบล็กพิงก์ ศิลปินเกาหลีที่ซ่อนปรากฏการณ์ Soft Power ของไทย

ส่องราคาบัตรคอน แบล็กพิงก์ ศิลปินเกาหลีที่ซ่อนปรากฏการณ์ Soft Power ของไทย

สิ้นสุดการรอคอย คอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] BANGKOK ENCORE ในวันที่ 27 และ 28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะจัดที่ ราชมังคลากีฬาสถาน 

หลังแฟนๆ แบล็กพิงก์ (BLACKPINK) เรียกร้องให้จัดคอนเสิร์ตที่ราชมังคลากีฬาสถานเมื่อช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมา แต่ก็ติดคอนเสิร์ตใหญ่จากทางเกาหลีใต้ที่หอบศิลปินมาทั้งประเทศ แต่วันนี้สิ้นสุดการรอคอย แบล็กพิงก์ได้กลับมาโชว์อีกครั้งในสถานที่ใช่

โดยการแสดงจะจัดขึ้น 2 รอบ ในวันที่ 27 และ 28 พฤษภาคมนี้ และจะเริ่มจำหน่ายบัตรในวันที่ 4 มีนาคม 2023 ซึ่งราคาบัตรต่ำสุดจะอยู่ที่ 2,800 บาท และราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 14,800 บาท

ไม่เพียงแค่จะเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่คนในประเทศไทยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ แบล็กพิงก์เองก็สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในหลายๆ ด้าน หรือที่เรียกว่า ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) 

วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพากลับไปย้อนรอย ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เมื่อ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” (Lisa) สมาชิกชาวไทยแห่งเกิร์ลกรุ๊ปวง “แบล็กพิงก์” (BLACKPINK) หยิบจับอะไรไทยๆ ก็ดังระเบิดไปทั่วประเทศไทย และได้เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ลิซ่าฟีเวอร์” 

ปรากฏการณ์ ลิซ่าฟีเวอร์ นี้ ได้สร้างแรงกระเพื่อมทางด้านเศรษฐกิจไทยอย่างมหาศาล เราจะพาย้อนถึงกระแสดังกล่าวที่ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

รัดเกล้า ชฎา

หลังจากลิซ่าปล่อยเพลงเดี่ยวแรก “LALISA” ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงชฎาสร้างสรรค์ที่ใส่ใน MV ไปต่างๆ นานา แต่กระแสนั้นก็กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าย่านคลองถม สำเพ็ง ที่ขายรัดเกล้า ชฎา ได้เพิ่มยอดขายกันอย่างล้นหลาม

ภาพจาก มติชน
ภาพจาก มติชน

ลูกชิ้นยืนกิน

ในช่วงเดือนกันยายน ลิซ่าให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีว่าตนอยากกลับไปกินลูกชิ้นยืนกินที่จังหวัดบ้านเกิด ทำให้ในประเทศไทยเกิดกระแสขึ้นมาทันที

จากบทสัมภาษณ์เพียงแค่การพูดถึง ทำให้พ่อค้าแม่ขายลูกชิ้นยืนกินในจังหวัดบุรีรัมย์มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมหลายสิบเท่า บ้างก็ว่าจากเดิมที่ขายได้ในแต่ละวันไม่กี่พันบาท หลังเกิดกระแสลิซ่า ลูกชิ้นยืนกินก็เพิ่มยอดขายได้วันละเป็นหมื่น นับได้ว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับประเทศหลังจากภาวะโรคระบาด ได้เหนือความคาดหมาย 

เมื่อกระแสดังกล่าวยังไม่หยุดพัก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการจัดงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด และได้กล่าวขอบคุณถึงลิซ่าที่ไม่ลืมบ้านเกิดของตน

ภาพจาก มติชน
ภาพจาก มติชน

โรตีสายไหม

กระแสลิซ่ายังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เมื่อเธอได้ลงสตอรี่ภาพในอินสตาแกรมส่วนตัว @lalalalisa_m เป็น โรตีสายไหม ทำให้คนไทยที่ติดตามออกมาพูดถึงภาพในครั้งนี้ 

หลังจากการพูดถึงภาพดังกล่าวก็เกิดกระแส และคอนเทนต์ตามรอยโรตีสายไหมลิซ่า ขึ้นมาทันที โดยจุดเริ่มต้นของโรตีสายไหมนี้ได้เริ่มที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งร้านขายประจำอยู่ที่นั่นมียอดขายจากเดิมเพิ่มขึ้นหลายเท่า เรียกได้ว่าเร่งผลิตกันไม่ทันตามความต้องการของผู้บริโภคเลยทีเดียว

แม้ว่าในปีนี้ กระแสลิซ่าจะมากระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในช่วงเวลาอันสั้น แต่ก็สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับพ่อค้าแม่ค้ารายเก่าและรายใหม่กันทั่วหน้า ไม่เพียงแค่นั้น ยังรวมถึงเรื่องการท่องเที่ยว และเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงยิ่งขึ้น 

ในปี 2023 ที่จะถึงเราก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าลิซ่าจะสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจไทยอีกในด้านใด