ไอเดียจากจีน แต่ฮิตที่ไทย! “สุกี้จินดา” ร้านอาหารของอดีตมัคคุเทศก์ ที่ตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบ ราคาเริ่มต้นไม้ละ 5 บาท สร้างรายได้เดือนละ 6 หลัก

อยากทานน้ำซุปหม่าล่า สูตรจีนแท้ๆ ไม่ต้องบินไกลถึงประเทศจีน เพราะมีเสิร์ฟที่ไทยมานานกว่า 3 ปี ในร้าน “สุกี้จินดา” ที่เริ่มต้นโดย คุณดา-นพรดา วาวีเจริญสิน อดีตมัคคุเทศก์นำเที่ยว เจอวิกฤตโควิดเล่นงานจนกรุ๊ปทัวร์หาย ต้องเริ่มต้นอาชีพใหม่ด้วยร้านสุกี้หม่าล่าสายพานร่วมกับพี่น้อง โดยนำชื่อพี่สาวมาตั้งชื่อร้าน เพราะในภาษาจีน คำว่า จิน แปลว่า ทอง

เสน่ห์ของร้านสุกี้จินดาที่ทำให้ลูกค้าแวะมากินไม่ขาดสาย และยอมต่อคิวยาว นอกจากน้ำซุปตำรับจีนแท้ๆ มีให้เลือกสั่งถึง 7 รสชาติแล้ว ยังมีเมนูให้เลือกทานมากถึง 50 รายการ ในราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้นไม้ละ 5 บาท อีกทั้งน้ำจิ้มกับน้ำซุปก็เติมได้ไม่อั้น กินแค่ไหนจ่ายแค่นั้น 

ย้อนไปเมื่อ 7 ปีก่อน คุณดาเคยทำงานเป็นมัคคุเทศก์นำนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย ทว่าเกิดโควิดระบาด ส่งผลให้กรุ๊ปทัวร์หาย ทำให้เธอต้องหันหลังกลับต่างจังหวัดและคิดหาอาชีพใหม่ โดยนึกได้ว่า เคยเห็นร้านสุกี้หม่าล่าสายพานที่ประเทศจีน ซึ่งร้านแบบนี้ยังไม่ค่อยได้เห็นในไทยเท่าไหร่นัก เธอจึงได้นำไอเดียดังกล่าวมาสร้างร้านสุกี้จินดา

จุดเด่นของร้านสุกี้จินดา อย่างแรก คือการเสิร์ฟเมนูด้ายสายพาน คุณดานำไอเดียนี้มาจากประเทศจีนเช่นเดิม ซึ่งสายพานช่วยให้ลูกค้าสนุกเมื่อได้หยิบจับเมนู ไม่ต้องลุกเดินบ่อยๆ ส่วนวัตถุดิบนั้น ก็นำเสียบไม้และใส่ถาด

“ในช่วงแรกเราขายบุฟเฟ่ต์สายพาน แต่เสียงตอบรับจากลูกค้าไม่ดี บอกไม่คุ้มบ้างอะไรบ้าง ก็ยกเลิกไป แล้วมาขายแบบเสียบไม้กับใส่ถาดแทน มีเมนูให้เลือก 40-50 รายการ สีม่วง ไม้ละ 5 บาท สีเขียว ไม้ละ 10 บาท สีส้ม ไม้ละ 20 บาท และแบบถาด 30 บาท 50 บาท ลูกค้ากินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้นเลยค่ะ

ถ้าไม่รู้จะเลือกกินอะไร ขอแนะนำเมนูเด็ดขายดีประจำร้าน คือ ฟองเต้าหู้ เส้นหม่าล่า ไส้เป็ด และซิกเนเจอร์ตอนนี้ คือ หมูทอดสมุนไพรจีน กลมกล่อม อร่อย วัตถุดิบทุกอย่างคัดสรรมาอย่างดี หลายๆ อย่างนำเข้าจากจีน สด สะอาด ถ้าเรากินไม่ได้ก็ไม่ให้ลูกค้ากิน ทุกอย่างต้องผ่านสายตาเรา” คุณดา ย้ำชัด

และว่า “สมัยนี้ 5 บาท แทบหาซื้อที่ไหนไม่ได้ แต่ร้านสุกี้จินดา 5 บาท ยังมีค่า บางคนมาทานไม้เดียวก็มี เหมือนมาชิมโดยเฉพาะ หรือกินเยอะสุดเท่าที่เคยเห็นมา ประมาณ 700 บาท แต่ถ้าเฉลี่ย 190-250 บาทก็อิ่มท้องแล้ว”

จุดเด่น อย่างที่สอง ขาดไม่ได้คือ น้ำซุป เจ้าของร้านแนะนำ สูตรนี้ตำรับจีนแท้ๆ มีให้เลือกถึง 7 รสชาติ คือ ซุปกระดูกหมู ซุปกระดูกไก่ ซุปเห็ดหอม หม่าล่าเผ็ดน้อย หม่าล่าเผ็ดลิ้นชา ซุปต้มยำกุ้ง ซุปมะเขือเทศ และในเร็วๆ นี้เตรียมชิมรสชาติออกใหม่เรียกว่า หม่าล่าน้ำข้น

“เราพัฒนาสูตรเอง แล้วส่งให้ครัวกลางที่จีนผลิตให้ เพราะเครื่องเทศ วัตถุดิบทุกอย่างมีครบ เรียกว่าต้นตำรับจากจีนแท้ๆ ราคา 49 บาท เติมได้เรื่อยๆ ค่ะ และน้ำจิ้ม ทางร้านมีสูตรที่ปรุงให้แล้ว ถ้ารู้สึกว่าเผ็ด เปรี้ยว หวาน ไม่พอ เติมได้เลย ราคา 30 บาท เติมไม่อั้นเช่นกัน”

และจุดเด่นข้อสาม ถ้าใครมาคนเดียว ไม่ต้องกลัวเหงาหรือเขิน เพราะร้านสุกี้จินดา ให้บริการหม้อคนเหงา เจ้าของร้านอธิบาย “ร้านชาบูสไตล์จีนที่อื่นส่วนใหญ่ใช้หม้อใหญ่ โต๊ะใหญ่ ถ้าไปคนเดียว จะรู้สึกเขินๆ อายๆ แต่ร้านเราให้บริการสุกี้สไตล์หม้อเดี่ยว มาคนเดียวก็กินได้ ไม่เหงาเพราะมีเพื่อนร่วมโต๊ะเต็มไปหมด เป็นสิบๆ คนได้”

ถึงปัจจุบัน ร้านสุกี้จินดา เปิดให้บริการทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ สาขาแรกซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 9-11 สาขาสอง ลาดพร้าว-วังหิน ซอย 26 สาขาสาม ซอยประชาราษฏร์บำเพ็ญ 5 เปิดเวลา 11.00-04.00 น. ทุกสาขา และสาขาสี่ ซอยนวลจันทร์ 36-38

อย่างไรก็ตาม จากธุรกิจนี้ ร้านสุกี้จินดาสามารถสร้างรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายราวๆ 6 หลักต่อเดือนต่อสาขา “เรียกว่าประสบความสำเร็จมาก ก่อนหน้านี้ไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะมีลูกค้ารู้จักร้านสุกี้จินดามากมายขนาดนี้ และไม่นึกมาก่อนว่าจะเปิดได้หลายสาขา แต่ในเมื่อโอกาสมาแล้ว เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ

และในอนาคต ก็หวังอยากเปิดสาขาจังหวัดละที่ เพราะลูกค้าเราอยู่ทั่วประเทศ หลายๆ คนเรียกร้องกันมา ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปค่ะ ตอนนี้เปิดสาขาที่เชียงใหม่แล้ว ส่วนสาขาอื่นรอติดตามได้เลยค่ะ” คุณดา ทิ้งท้าย 

ใครอยากแวะไปทาน ติดตามได้ที่เพจ สุกี้จินดา金达火锅