จากเด็กไร้บ้าน ได้พี่ชายใจดีรับดูแล ให้อาชีพตั้งตัว เปิดร้าน กะเพราอ้วนตรึ้ม

ชีวิตในวัยเด็กของ “ทีน-สดายุ ศุภผลศิริ” ไม่ได้ราบรื่นเหมือนเด็กทั่วไป เพราะมีจุดพลิกผัน ต้องกลายเป็นเด็กไร้บ้าน ตั้งแต่อายุ 13 ปี จนได้ “พี่ต่อ” พี่ชายใจดีที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกันรับเลี้ยงดู ถึงวันนี้ 7 กว่าปีแล้ว ที่ดูแลกันมา ไม่เพียงแค่ให้ชีวิตใหม่ แต่พี่ชายคนนี้ที่น้องทีนนับถือเหมือนพ่อ ยังให้อาชีพตั้งตัว คือ ร้านกะเพราอ้วนตรึ้ม ตะหลิวตัด ถึงปัจจุบันเปิดขายมานาน 3 ปี มีลูกค้ารุมซื้อตั้งแต่เปิดร้าน และพีกสุด เคยขายได้วันละ 6,000-7,000 บาท

ทีน เด็กหนุ่มสุดขยัน เล่าเรื่องราวชีวิตให้ฟังว่า “ผมอาศัยอยู่กับย่ามาตลอด กระทั่งย่าป่วย ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผมได้ติดต่อญาติให้มาช่วยดูแล เพราะยังนั่งรถไปนู่นมานี่ไม่คล่อง พอญาติมาถึงก็จัดการขายบ้านให้คนอื่น โดยที่ผมไม่รู้มาก่อน คนซื้อก็ไม่รู้ว่าญาติจะทิ้งผมไว้ ทำให้ผมกลายเป็นคนไม่มีบ้าน ต้องออกมานอนในซอย 2 วัน

มีผู้ใหญ่แถวนั้น เดินผ่านไปผ่านมาเยอะครับ มาถามไถ่ แต่ไม่มีใครช่วย จนได้เจอพี่ต่อ ผมไม่รู้มาก่อนว่าเราอาศัยอยู่ซอยเดียวกัน เขาให้ที่นอน ให้อาบน้ำ ให้ข้าว ตอนนั้นคิดว่าพี่เขาคงช่วยแค่วันเดียว ถึงวันนี้ 7 ปีแล้วครับ

ผมอยู่กับเขาเหมือนพี่น้อง แต่นับถือเขาเหมือนพ่อครับ เขาให้ทุกอย่าง มีบัตรประชาชน ทำกับข้าวเป็น ขับรถเป็น มีร้านกะเพราอ้วนตรึ้มได้ ก็เพราะพี่เขา ขอบคุณจริงๆ ที่รับผมมาเลี้ยงในวันนั้น ไม่ได้พี่เขา ไม่รู้เลยว่าชีวิตจะเป็นยังไง” ทีน เล่าให้ฟัง

ก่อนเล่าต่อ “พี่ต่อขายอาหารตามสั่งครับ ผมไปเป็นลูกมือเขา จนได้วิชาติดตัว และเขายังสอนเคล็ดลับการขายผมมาด้วยว่า ต้องทำร้านให้สะอาด และใส่ใจลูกค้าทุกคน ผมถึงเปิดร้านได้อย่างทุกวันนี้ ขายมา 3 ปีแล้วครับ ทุกวันนี้ลงทุนวันละเกือบ 4,000 บาท”

โดยมีเมนูเดียวให้สั่ง คือ ผัดกะเพรา แต่มีเนื้อสัตว์ให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หมูสับ หมูกรอบ ไก่ ปลาหมึก ราคาขาย กะเพราหมูสับ กะเพราไก่ กะเพราปลาหมึก กล่องละ 40 บาท กะเพราหมูกรอบ 50 บาท โปะไข่ ใบละ 10 บาท

ทีเด็ดของร้านที่ลูกค้าติดใจ ทีน บอกเขินๆ ว่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน “เรื่องการปรุงพูดตรงๆ ผมไม่หวงเครื่องเลยครับ ใครชอบเผ็ด ไม่เผ็ด บอกได้ ผมทำให้ หรือจะนำวัตถุดิบที่อยากกินมาให้ผมทำ ก็ได้ครับ เคยมี บางคนเอาไก่ทอด เอากุ้ง หอย กั้ง มาให้ผัด ผมยินดีมาก สนุกที่ได้ทำ ที่สำคัญ ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารเพิ่มด้วย”

หากมีออร์เดอร์ลูกค้า สั่งซื้อพร้อมกันหลายเจ้า ทีนไม่เคยให้ลูกค้าจดออร์เดอร์แต่ใช้วิธีการจำหน้าลูกค้า ส่วนเมนู มีกะเพรายืนหนึ่ง ทำให้จำออร์เดอร์ได้ง่าย และหากต้องผัดครั้งละมากๆ ในกระทะเดียว รสชาติก็ไม่ผิดเพี้ยน เพราะปรุงตามความรู้สึก และประสบการณ์ที่พ่อครัววัยทีนมีมา 3 ปี

“ตอนแรกคิดว่าฟลุก แต่ไม่เลย ผมกะประมาณนี้กำลังดี ถ้าลูกค้าคนไหนมาซื้อครั้งแรก หรือซื้อซ้ำ ผมจะถามตรงๆ ตลอด ถ้ารสชาติเพี้ยน บอกผมได้จะนำไปปรับปรุง ผมอยากให้กินด้วยความอร่อย ไม่อยากให้ทนกิน หรือมาซื้อด้วยความสงสาร” ทีน บอกอย่างนั้น

สำหรับลูกค้าที่มาอุดหนุนมีทั้งขาจรและขาประจำ นอกจากสั่งข้าวแล้ว บางคนยังช่วยดูแลเหมือนทีนเป็นคนในครอบครัว “มีพี่คนหนึ่งเขามาซื้อครั้งแรก เจอแจ๊กพอตเลยครับ ข้าวหมด เขาต้องวิ่งไปช่วยเอาข้าวมาให้ เลยได้คุยและสนิทกัน เขาซื้อเสื้อ รองเท้ามาให้ ส่งข้าว ส่งน้ำก็ด้วย เอาร่มมาติดให้อีก ผมเคยเปิดใจกับเขานะ พี่ให้ผมเยอะจัง ไม่รู้จะตอบแทนยังไง เขาบอกผม ไม่เป็นไร พี่เต็มใจช่วย ดีใจครับที่มีคนเมตตา” ทีน แชร์ให้ฟังถึงเรื่องราวความประทับใจ

จากการขายกะเพรา ทีนเคยสร้างยอดขายพีกสุด วันละ 6,000-7,000 บาท ส่วนยอดขายเฉลี่ยทุกวันนี้ประมาณ 4,000-5,000 บาท หักแล้วเหลือกำไร 1,000-2,000 บาท รายได้ส่วนนี้ นำไปแบ่งเบาภาระค่าบ้าน แถมมีกินมีใช้ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม และหากหนี้สินที่มีอยู่หมด ตั้งใจไว้ อยากเปิดหน้าร้านให้ลูกค้านั่งกิน หลบแดด หลบฝนได้

ถ้าอยากอุดหนุน กะเพราอ้วนตรึ้ม ตะหลิวตัด เปิดให้บริการ ตั้งแต่ 09.00 น. จนกว่าของจะหมด หมดเร็วสุด ช่วง 14.00 น. หรือ 15.00 น. หมดช้าสุดอาจจะลากยาวไปถึง 16.00 น. หรือ 17.00 น. ร้านตั้งอยู่ที่ แยกพัฒนาการ ทางเข้าเส้นเทอดไท หรือที่รู้จักกันคือ แยกท่าเกษตร โทรฯ : 0640913493