“ที่หลายคนพูดว่า ทำอาชีพอิสระ แล้วจะอิสระนั้น จริงๆแล้ว ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ เพราะถ้าเราอิสระ ไม่มีวินัย กิจการเราก็เสียหาย บางทีเสาร์ อาทิตย์ก็ต้องทำ หรือแทบจะไม่มีวันหยุด แต่ถ้าเราสามารถวางระบบงานมีลูกน้องที่รันงานต่อไปได้ นั่นล่ะ เราถึงจะพอมีเวลาหายใจ มีเวลาพัก หรืออิสระกับชีวิตได้บ้าง ของแบบนี้ ก็ต้องเลือกเอา”

ใครจะไปคิดว่า การหัดทำเค้กจากอินเตอร์เน็ต จากการเปิดหนังสือ ทำออกมาแรกเริ่มวันละ 10-20 ชิ้น วางขายก๊อกๆแก๊กๆ ตามร้านกาแฟโบราณ  ผ่านไป 2 ปี จะยอดขายจะพุ่งพรวดเป็นวันละนับพันชิ้น

ความสำเร็จนี้ ไม่ได้ลอยมา หากแต่ ผ่านอุปสรรค ผ่านการแก้ไขปัญหา การคิดค้น และที่สำคัญ ความพยายามอย่างไม่ลดละ

นี่เป็น งานอาชีพ ร้านชิฟฟ่อนมงคลชัย ของสองพี่น้อง จากจังหวัดกาญจนบุรี  คุณลลิดา ภัทรพงษ์กาญจน์ และคุณณัฐธยาน์ ภัทรพงษ์กาญจน์

คุณณัฐธยาน์ ภัทรพงษ์กาญจน์

คุณณัฐธยาน์  เปิดเผยกับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ว่า แรกเริ่มเดิมที ก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน  เป็นพนักงานขายคอนโดมีเนียม หลังจากที่คอนโดมีเนียมแห่งนั้น ประสบความสำเร็จ ขายได้ครบทุกห้องแล้ว ก็ปิดการขาย และเลิกจ้างพนักงานโดยจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงานทุกประการ  แต่พนักงาน คงต้องมาคิดต่อว่าจะทำอะไร

“พี่สาว (คุณลลิดา)  ทำเค้กชิฟฟ่อนอยู่ก่อน แต่ทำไม่มาก เริ่มต้นทำเล็กๆน้อยๆ เอาไปฝากวางขายที่ร้านกาแฟ วันละ 10-20 ชิ้น แต่ทำไปทำมาก็ขายดีขึ้นมา ลูกค้าบอกกันปากต่อปาก ด้วยรสชาติที่อร่อย และราคาไม่สูงเกินไปนัก ทำให้ต้องขยายกำลังการผลิตไปเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบัน มียอดขายวันละนับพันชิ้น มีพนักงานในครัว ถึง 8 คน”  คุณ ณัฐธยาน์  เล่าให้ฟัง

ชิฟฟ่อนของที่ร้านแห่งนี้ มีไส้ต่างๆให้เลือกซื้อ ได้แก่ มะพร้าว ช็อคโกแลต ส้ม บลูเบอรี่ วานิลลา กาแฟ และสตรอว์เบอรี่ ในราคาชิ้นละ 15 บาท มีบรรจุกล่องละ 4 ชิ้น และ 8 ชิ้น ขายปลีกและขายส่ง(ในราคาขายส่ง) 

นอกจากขายหน้าร้าน และขายส่งแล้ว สองพี่น้องยังรับจัดเป็นของว่าง คอฟฟี่เบรกอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้มาใช้บริการจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นงานประชุม งานบุญ งานศพ ฯลฯ

คุณณัฐธยาน์  เคยผ่านงานประจำ งานออฟฟิศ มาราว 10 ปี และในที่สุดก็หันมาจับธุรกิจของตัวเอง ดังนั้น “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จึงถามคุณณัฐธยาน์ ในแง่ของความแตกต่างของชีวิตมนุษย์เงินเดือนและกิจการตัวเอง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจอาชีพอิสระ

“พอออกมาทำงานของตัวเอง เราก็ได้ลุยมากกว่า  เหมือนกับว่า ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย  ถ้ามองไประยะยาวการทำงานออฟฟิศมันก็ได้เท่าเดิม  แต่อันนี้เราสามารถขยายเพิ่ม หรือทำให้มันเติบโตขึ้นมาได้  แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงความเครียด งานของตัวเองมันก็เครียดกว่านะ เพราะเราต้องคิดตลอดว่าเราจะทำอะไรต่อไป จะขยายอย่างไร ต้องคงคุณภาพไว้อย่างไร ยิ่งมีลูกน้อง ยิ่งต้องคิดล่วงหน้าเยอะๆ หรือกระทั่งความอิสระที่หลายคนพูดว่า ทำอาชีพอิสระ แล้วจะอิสระนั้น จริงๆแล้ว ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะ เพราะถ้าเราอิสระ ไม่มีวินัย กิจการเราก็เสียหาย บางทีเสาร์ อาทิตย์ก็ต้องทำ หรือแทบจะไม่มีวันหยุด แต่ถ้าเราสามารถวางระบบงานมีลูกน้องที่รันงานต่อไปได้ นั่นล่ะ เราถึงจะพอมีเวลาหายใจ มีเวลาพัก หรืออิสระกับชีวิตได้บ้าง  ของแบบนี้ ก็ต้องเลือกเอา”

ทางด้าน  คุณลลิดา ภัทรพงษ์กาญจน์ ผู้เป็นพี่สาว ที่อยู่ในไลน์การผลิต ก็เผยว่า เดิมเคยขายมอเตอร์ไซค์เงินผ่อนมาก่อน แต่ปัญหาเยอะ  ตามหนี้ไม่ได้  บางทีเอารถไปขนยาบ้างล่ะ ไปชนเกิดอุบัติเหตุบ้างล่ะ  ก็เลยค่อยๆ ถอยออกมาจากธุรกิจนั้น แม้ว่าจะเคยทำรายได้ ปีละ 9-10 ล้านบาท

แต่ช่วงที่กำลังจะถอยออกมา ก็เริ่มทำเค้กชิฟฟ่อน ไปวางขายหน้าร้านขายมอเตอร์ไซค์ และค่อยๆ ขยายกิจการชิฟฟ่อนไปพร้อมๆ ลดระดับธุรกิจมอเตอร์ไซค์ เพื่อมาทำในสิ่งที่ชอบ

แต่การที่หันมาทำเค้กชิฟฟ่อน โดยเริ่มจากความสนใจเป็นอันดับแรก จนนำไปสู่การขวนขวาย ศึกษาเองจากอินเตอร์เน็ต ก็ลงทุนทั้งเรื่องเวลาและตัวเงินไปค่อนข้างเยอะ ดังที่กล่าวไว้ในหัวเรื่องว่า ความสำเร็จนี้ ไม่ได้ลอยมา หากแต่ต้องผ่านอุปสรรค และฝ่าฟันมาด้วยความพยายาม

“ช่วงที่ทำ ฝึกจากในอินเตอร์เน็ต และเปิดหนังสือด้วย  ทิ้งไปเยอะนะคะ เพราะตอนที่ทดลองทำ ก็มีตัวเค้กยุบตัวบ้าง ไฟแรงไป ไหม้บ้าง บางครั้งก็ไม่ขึ้นฟู ใช้เวลาฝึกถึง 3 เดือนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง”  คุณลลิดา ว่าอย่างนั้น

คุณลลิดา บอกว่า หลังจากทำชิฟฟ่อนในแบบของตัวเอง คือ แบบนุ่มๆ ไส้เยอะๆและไม่หวานมาก พอทำมาแล้วรู้สึกว่าน่าจะให้คนอื่นได้ทานขนมแบบนี้ด้วย  ทำในช่วงแรก ได้ชิฟฟ่อนเนื้อนิ่มแต่ติดคอ แต่พัฒนาจนได้สูตรที่ทำให้ เนื้อขนมนิ่ม และอยากจะเผยแพร่เทคนิค ดังนี้ 

1. การเลือกใช้ไข่  เคล็ดลับใช้ ไข่ไก่สดๆ   ส่งตรงจากฟาร์ม  เพราะชิฟฟ่อนที่อร่อยนุ่มไข่ใหม่มีส่วนสำคัญ

2.แป้งสาลี  เลือกใช้แป้งเกรดพรีเมี่ยม ใช้แป้งที่ใช้ทำเค้กในร้านเบเกอรี ถึงจะเป็นชิฟฟ่อนเค้กที่ขายราคาชิ้นละไม่ถึง 60-70 ก็เลือกที่จะใช้แป้งแบบที่ทำเค้กขายปอนด์ละ300-400บาท   เพื่อให้เค้กนุ่มไม่ติดลิ้นหรือ รู้สึกกระหายน้ำเวลารับประทาน

3.เนื้อมะพร้าวน้ำหอม ใช้มะพร้าวน้ำหอมสดๆ ที่ตัดจากสวน  เลือกอ่อนปนแก่ มาทำไส้เพื่อให้มีเนื้อสัมผัสเวลารับประทาน  เนื่องจากใช้มะพร้าวสดๆ และไม่ใส่สารกันเสีย จึงทำให้รสมะพร้าวจะเก็บได้ไม่นาน

4.วิธีคงความหอมน้ำมะพร้าว  ใช้วิธีนำเนื้อมะพร้าวมาล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมะพร้าวอีกรอบ หลังจากปอกและแกะเนื้ออก เพื่อให้สะอาดและคงความหอมของน้ำมะพร้าว   เพราะไม่ใช้น้ำเปล่าล้างเลย  ทำให้ความหอมของน้ำมะพร้าวยังคงอยู่

5.กระดาษ ห่อขนมชิฟฟ่อน ใช้กระดาษแบบหนา ที่เป็นฟู้ดเกรดสำหรับใส่อาหาร  ที่ช่วยให้เมื่อแช่ตู้เย็นแล้วนำออกมาวางทิ้งไว้สัก15-30 นาทีขนมก็จะยังนิ่มเหมือนเดิม

6. ใช้นมสดเป็นส่วนผสม เพื่อให้ได้เนื้อเค้กที่นิ่มมมากๆ  จะใส่นมสดผสมเข้าไปด้วย    ไม่ใช้ครีมเทียมหรือ น้ำเปล่าเท่านั้น

7.อุณหภูมิที่เหมาะสม  ขนมเค้กที่อร่อยลงตัว ต้องใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมเพราะถ้ามากหรือน้อยเกินไปขนมจะไม่สุกหรือไหม้  ทดลองหลายครั้งให้ได้อุณหภูมิที่ลงตัว

ปัจจุบัน ร้านชิฟฟ่อนมงคลชัยมีสาขาดังนี้ 

ร้านใหญ่ (อยู่ติด7-eleven ตลาดเขต)อยู่ 240 ม.5 บ้านตลาดเขต ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี 

สาขา 2 กาญจนบุรี(เยื้องกับห้างโรบินสัน กาญจนบุรี)

สาขา 3 นครปฐม(ถนนต้นสน) 

สาขา 4 สามพราน(ก่อนถึงโลตัส สามพราน) 

ติดต่อ  คุณลลิดา ภัทรพงษ์กาญจน์ โทร 081-8589055, 098-6939556  และคุณณัฐธยาน์ ภัทรพงษ์กาญจน์  081-8304585

หรือ เข้าไปดูที่เฟซบุ๊ก มงคลชัยชิฟฟ่อนเค้กมะพร้าวน้ำหอม