เด็กหญิงเงินล้าน ประธานบริษัท อายุ 14 มี ขนมคีโต เป็นอาวุธหารายได้

เด็กหญิงเงินล้าน ประธานบริษัท อายุ 14 มี ขนมคีโต เป็นอาวุธหารายได้
เด็กหญิงเงินล้าน ประธานบริษัท อายุ 14 มี ขนมคีโต เป็นอาวุธหารายได้

เด็กหญิงเงินล้าน ประธานบริษัท อายุ 14  มี ขนมคีโต เป็นอาวุธหารายได้

“ทำแล้วอร่อย หนูชอบ หนูเลยทำออกมาขายค่ะ” คือ เหตุผลง่ายๆ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจในแบบของ เด็กหญิงมาริสา เวชสุภาพร เจ้าของเรื่องราวนับจากนี้

ด.ญ.มาริสา ที่อนุญาตให้เรียกแบบกันเองว่า น้องริสา สละเวลาช่วงพักทำขนมตามออร์เดอร์ลูกค้า มานั่งคุยกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ด้วยกิริยาเรียบร้อย น่ารักสมวัย แนะนำตัวให้รู้จัก ปัจจุบันอายุ 14 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างปิดเทอมใหญ่ รอขึ้นชั้น ม.4 แต่ถึงแม้กำลังอยู่ในวัยเรียน เธอก็มีธุรกิจของตัวเองแล้ว นั่นคือ ขายอาหารออนไลน์

ย้อนถึงที่มาของฝีไม้ลายมือในการทำอาหารหลากหลายชนิด น้องริสา ยิ้มเขินๆ ก่อนเล่าให้ฟัง

หนูชอบทำอาหารทานเองค่ะ

“หนูชอบกิน แต่คนอื่นทำแล้วไม่ถูกใจ เลยทำอาหารกินเอง ตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ ที่จริงเริ่มช่วยคุณพ่อ-คุณแม่ ทำอาหารตั้งแต่ 4-5 ขวบแล้ว อาหารที่หนูชอบ คือ ชีส สปาเกตตี ออมเล็ตใส่ชีสเยอะๆ คุณพ่อคุณแม่ ปล่อยให้ทำค่ะ รอชิมอย่างเดียวเลย”

ฝึกปรือจากความชอบ จนมีฝีมือพอตัว ทำอาหารให้คนในครอบครัว ช่วยกันชม ช่วยกันชิม อยู่หลายปี กระทั่งมีรายการแข่งขันทำอาหารระดับอินเตอร์ เข้ามาออกอากาศในประเทศไทย คุณพ่อคุณแม่ จึงสนับสนุนให้ลูกสาว สมัครเข้าร่วมด้วย ซึ่งน้องริสา ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถเข้ารอบ 28 คน จากผู้สมัครทั่วประเทศ

ด.ญ.มาริสา เวชสุภาพร

หลังได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการดัง แม้จะมีคนรู้จักมากขึ้น แต่ยังไม่ได้คิดขายอาหารเป็นเรื่องเป็นราว กระทั่งปีก่อน เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้องริสา คิดนำอาหารฝีมือของเธอออกขาย เพื่อลองหารายได้ดูบ้าง

“คุณแม่ เอาขนมที่หนูทำไปให้เพื่อน แล้วเพื่อนคุณแม่ ก็ให้ขนมอย่างอื่นกลับมา เป็นพวกเค้ก ขนมไทย เป็นตะกร้าๆ มันเยอะมาก กินไม่หมด ทิ้งก็เสียดาย เลยเกิดความคิดว่า ถ้าเอาขนมไปให้ แล้วพวกเขาให้เงินกลับมา หนูเอาเงินนั้น ไปซื้อขนมกินเองคงดี เลยคิดทำขายดีกว่า หนูน่าจะได้เงินด้วย” น้องริสา เล่าที่มา ก่อนยิ้มกว้าง

สำหรับรูปแบบธุรกิจของน้องริสานั้นคือ ขายอาหารออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทำตามออร์เดอร์ลูกค้า ไม่มีขั้นต่ำ สั่งล่วงหน้า 1 วัน รุ่งขึ้นส่งของให้ได้ ในกรุงเทพฯ คิดค่าส่งออร์เดอร์ละ 50 บาท

“พอมาทำเป็นธุรกิจ ยากเหมือนกันค่ะ แต่มีคุณพ่อคุณแม่ช่วย ความยากคือ การจัดการออร์เดอร์ ที่เข้ามาเยอะมาก คุณแม่ คุณย่า เลยมาช่วยเรียงออร์เดอร์ ก่อนส่งให้ลูกค้าตอนเช้า เพราะหนูต้องไปโรงเรียน ส่วนขั้นตอนการผลิต หนูทำเองหมดค่ะ” น้องริสา บอกอย่างนั้น

เริ่มจากทาร์ตสับปะรด ต่อยอดแนวคีโต

แม้จะทำอาหารได้หลายอย่าง ทั้งคาว-หวาน แต่ด้วยข้อจำกัดของการขายออนไลน์ อาหารบางอย่าง กว่าจะส่งถึงมือลูกค้า ความอร่อยอาจลดลง เลยคิดว่า ขนม หากส่งออกไป คุณภาพน่าจะไม่ลดลง น้องริสา จึงเลือกทำขนม ออกมาขายเป็นหลัก เริ่มต้นตัวแรก เป็น ทาร์ตสับปะรด สูตรออริจินอล

ทาร์ตสับปะรด ฝีมือน้องริสา

จากนั้น จึงขยับมาเป็นขนมรักษ์สุขภาพ แนวคีโต

“การกินคีโต คือ การกินที่ไม่มีแป้ง ไม่มีน้ำตาล ลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่รักษ์สุขภาพ คนป่วยเป็นเบาหวาน และคนที่ต้องการลดน้ำหนัก” น้องริสา อธิบายฉะฉาน

ก่อนบอกที่มา ของการหันมาทำขนมคีโต ว่า

“ขนมคีโต ต้องใช้ช็อกโกแลต 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ซึ่งคุณแม่เคยซื้อมาทานเพราะอยากลดความอ้วน แต่มันแห้งๆ แข็งๆ ไม่อร่อย หนูเลยเริ่มปรับสูตร และทำซอสสตรอว์เบอร์รี่คีโต หยอดไปด้านบน จะได้ไม่ขมเกินไป มีรสเปรี้ยวหวานมาตัด พอชิมแล้วอร่อยถึงจะเอาออกขาย”

น้องริสา บอกด้วยว่า ขนมคีโต ของเธอ เป็นคีโต 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ธัญพืชอื่นๆ แทนแป้ง เช่น แป้งอัลมอนด์  ส่วนความหวานใช้ น้ำตาลคีโต เป็นน้ำตาลที่ไม่กระตุ้นอินซูลิน แทนการใช้น้ำตาลทราย ซึ่งทั้งแป้งและน้ำตาลแนวคีโต มีราคาค่อนข้างสูงกว่าวัตถุดิบทั่วไปหลายเท่าตัว

กับ สตรอว์เบอร์รี่พริกเกลือ คีโต

ล่าสุด ขนมในแบบน้องริสา จึงแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ สูตรออริจินอล เช่น ทาร์ตสับปะรด ชีสเค้กหน้าไหม้  และ บราวนี่นูเทลล่า ส่วนสไตล์คีโต มี ชีสเค้กหน้าไหม้ บราวนี่ คีโตปัง ซอส ชีสทรัฟเฟิล ทูน่าพาเมซาน หอยลายเดรสซิ่ง แยมสตรอว์เบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่พริกเกลือ และ หมูแดดเดียว

“สตรอว์เบอร์รี่พริกเกลือคีโต ของหนูใช้ ลากันโตะ ของญี่ปุ่น ซึ่งราคาแพงมาก มาแทนน้ำตาล ส่วนที่ขายดีที่สุด น่าจะเป็นคีโตบราวนี่” น้องริสา แผยให้ฟัง

ในเมื่อต้นทุนวัตถุดิบ ค่อนข้างสูง ขนมคีโตแต่ละอย่าง ราคาคงไม่เบาเลยทีเดียว น้องริสาขยับแว่นตา ก่อนบอกจริงจัง

“หนูขายไม่แพง ไม่เน้นกำไร เน้นให้ลูกค้า ทานแล้ว…มีความสุขค่ะ”

เตรียมขยายธุรกิจ ขายถึงอเมริกา

เมื่อถามถึงความตั้งใจในธุรกิจนี้ สาวน้อยคนเก่ง บอกว่า ปีหน้าเธอน่าจะได้ไปเรียนต่อไฮสคูล ที่สหรัฐอเมริกา จึงจะขยายสาขาไปที่นั่น

“ตอนนี้หนูตั้งบริษัทแล้ว ชื่อ บริษัท ริสา เอฟ แอนด์ บี จำกัด มีหนูเป็นเจ้าของและเป็นซีอีโอค่ะ” น้องริสา เผยให้ฟัง ก่อนหัวเราะสดใส คนฟังอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

ด้าน คุณจันทิมา กำปั่นทอง คุณแม่ของน้องริสา คุยให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังด้วยน้ำเสียงภูมิใจว่า ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ขนมของน้องริสา สามารถสร้างรายได้หลักหลายล้าน เลยตั้งใจเปิดเป็นบริษัทให้ เพราะจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องภาษีภายหลัง ตอนนี้จึงให้น้องริสา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะยังเซ็นเอกสารไม่ได้มาก ธนาคารไม่ยอมให้ทำธุรกรรม ต้องรอให้อายุ 15 ปีก่อน

น้องๆ ช่วยพี่ริสา ทำธุรกิจ

“ริสา เป็นพี่สาวคนโต มีน้องสาว-น้องชาย อย่างละคน การที่เขาสามารถหารายได้เอง ทำให้น้องๆ ที่เห็นพี่มีธุรกิจ มีงานทำ น้องมีแรงบันดาลใจไปด้วย กลายเป็นว่า น้องๆ อยากหาเงิน อยากทำงานเหมือนกัน ริสายังเป็นตัวอย่างที่ดี ให้เพื่อนๆ หรือคนรู้จัก ที่มักบอกว่า อยากขยันทำมาหากินเหมือน ริสา” คุณจันทิมา เล่าก่อนยิ้มปลื้ม

และวิเคราะห์ให้ฟังว่า สาเหตุที่สินค้าในแบบของน้องริสา ขายดิบขายดีถึงหลักล้าน น่าจะเป็นรสชาติที่ถูกปาก และจับกลุ่มลูกค้าถูกทาง ประกอบกับกระแสคนรักษ์สุขภาพ ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ล่าสุดมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศแล้ว

ฝีมือริสา ทั้งหมดเลยค่ะ

อยากชิมฝีมือทำอาหารของน้องริสา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เพจ Risa Vejsupaporn – MasterChef Junior หรือ Line : @risamasterchef

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ.2565