ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
จานกาบหมาก ดีต่อโลก จีนตื่นตัวมาก แต่สะดุดเพราะโควิด หวังรัฐช่วยต่อยอด
จานกาบหมาก ภาชนะธรรมชาติทำจากกาบของต้นหมาก สามารถดัดแปลงเป็นรูปทรงต่างๆ ตามแต่ลักษณะการใช้งาน นับวันจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เหตุเพราะผู้คนเริ่มหันมาตระหนักเกี่ยวกับปัญหาขยะพลาสติก อีกทั้งระดับนโยบาย โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผน ลด-เลิกผลิตขยะพลาสติก ตั้งเป้าห้ามใช้ พลาสติก 4 ชนิด ได้แก่ โฟม ถุงหิ้ว แก้ว และหลอดพลาสติก แบบเด็ดขาดในปี 2565
คุณอี๊ด-เพ็ญรัตน์ สหธารา อายุ 50 ปี คือ เจ้าของผลิตภัณฑ์จานกาบหมาก ที่ส่วนใหญ่ใครก็ทราบว่าดีต่อโลก แต่กว่าจะก่อร่างสร้างแบรนด์ จนมีลูกค้ายอมรับถึงทุกวันนี้ เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ ก่อนบอกกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า แสนเข็ญเลยทีเดียว
“พื้นเพเป็นคนระนอง เรียนจบจากรามคำแหง คณะบริหารธุรกิจ เคยทำงานบริษัทเฟอร์นิเจอร์ อยู่หลายปี พอมีแฟนเลยชวนกันลาออกมาค้าขาย” คุณอี๊ด เริ่มต้นให้ฟังอย่างนั้น ก่อนคุยให้ฟังต่อ เริ่มต้นจากการเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสองที่สะพานพุทธ เป็นพวกยีนส์มือสอง รับมาจากตลาดโรงเกลือ เธอกับแฟน ทำเป็นเจ้าแรกๆ ทำให้ขายดีมาก หยิบอะไรมาก็ขายได้หมด จึงต่อยอดมาเรื่อยๆ
กระทั่ง ช่วงก่อนเกิดโควิด ตลาดออนไลน์ยังไม่มี มาได้แผงขายแถวเมเจอร์ปิ่นเกล้า ยีนส์มือสองมีคนทำกันเยอะขึ้น จึงเปลี่ยนสินค้ามาเป็นเสื้อผ้า-รองเท้า มือหนึ่ง ที่รับมาจากประตูน้ำ ซึ่งค่าเช่าแผงขายแพงมาก เดือนหนึ่ง 3-4 หมื่นบาท แต่ยังพอมีกำไร เพราะจำได้ว่าเป็นช่วงก่อนปฏิวัติ เศรษฐกิจยังไม่พัง

“แต่พอหลังเหตุการณ์ปฏิวัติ 2549 การเมืองไม่นิ่ง การค้าการขายสะดุด และลดลงเรื่อยๆ ทุกอย่างกระทบ ไปหมด สามีจึงชวนกลับบ้าน ไปทำมาหากินที่บ้านดีกว่า” คุณอี๊ด เล่าเสียงหม่น
หลังตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จังหวัดระนอง คุณอี๊ด ซึ่งมีญาติอยู่ฝั่งเมียนมา จึงพาสามีไปเปิดหูเปิดตา กระทั่งไปเห็นว่า ประเทศเพื่อนบ้าน มีกาบหมากเยอะ น่าจะเอามาทำประโยชน์ได้ เพราะเคยเห็นในทีวี ว่ากาบหมากสามารถนำมาทำเป็นภาชนะใส่อาหารได้
เมื่อเกิดความคิด อยากทำภาชนะจากกาบหมาก ทั้งคุณอี๊ดและสามี จึงช่วยกันค้นหาข้อมูล กระทั่งพบว่า ในพื้นที่จังหวัดระนอง บ้านเกิดของเธอนั้น มีกาบหมากเหลือทิ้งไม่น้อยไปกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้โล่งใจไปหนึ่งเปลาะ เกี่ยวกับประเด็นวัตถุดิบที่ไม่น่าจะหายาก
จากนั้นจึงพยายามหาแหล่งศึกษาดูงานเกี่ยวกับการทำ ปรากฏเห็นว่ามีเอกชนรายหนึ่งอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ทำจานกาบหมากขายอยู่ จึงติดต่อไป แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงลองติดต่อไปที่ ศูนย์เรียนรู้การทำถ้วยจานกาบหมาก จังหวัดเลย ปรากฏยินดีถ่ายทอดประสบการณ์ให้

เมื่อกลับมาบ้าน สองสามีภรรยา จึงลองผิดลองถูก อยู่พักใหญ่ พอเริ่มเข้าที่เข้าทาง จึงลงทุนสั่งซื้อเครื่องจักร และเปิดรับซื้อกาบหมากจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง
“ทำมา 2 ปีกว่าแล้ว ลงทุนไปเยอะพอสมควร ยังถอนทุนไม่ขึ้น กว่าจะมาถึงวันนี้ แสนเข็ญเลย บางครั้งก็ท้อ เลยอยากให้รัฐบาล มาช่วยสนับสนุนบ้าง แต่ยังไม่เห็นมาช่วยต่อยอดให้เท่าไหร่” คุณอี๊ด บอกกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ยิ้มๆ
เจ้าของเรื่องราวท่านเดิม เผยอีกว่า สำหรับช่องทางจำหน่ายทุกวันนี้ มีทั้งออนไลน์ และออกอีเว้นต์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ผลตอบรับดี มีลูกค้าสั่งเรื่อยๆ แต่พอโควิด มา ยอดก็ลดลงเรื่อยๆ เหมือนกัน
“ตอนนี้ ช่องทางจำหน่ายยังไม่นิ่ง พอโควิดมา จะไปเปิดตัวตรงไหนก็ยาก การท่องเที่ยวชะงัก ยากไปซะหมด รู้สึกมืดแปดด้าน ก่อนหน้านี้ มีออร์เดอร์จากจีน เพราะคนจีน ตื่นตัวกันมาก พวกเขาพยายามลดขยะพลาสติก แต่พอโควิดมา ทุกอย่างระงับหมดเลย” คุณอี๊ด บอกอย่างนั้น

เมื่อถามถึงความตั้งใจในธุรกิจ คุณอี๊ด เผยจริงจัง ถึงท้อก็ขอเดินต่อ เพราะคิดว่ามาถูกทาง มันเป็นผลิตภัณฑ์ดีต่อโลกจริงๆ แต่ที่ผ่านมา คนไทยไม่ค่อยได้ใช้ เพราะรายใหญ่จะส่งออกต่างประเทศหมด
“ถ้าจะทำให้คนไทย เข้าถึงจานกาบหมากง่ายขึ้น ต้องพยายามลดต้นทุนการผลิต เพื่อทำให้ราคาขายต่ำกว่านี้ แต่ถ้ารับซื้อทางกาบหมาก ในราคาต่ำมาก ก็ไม่มีชาวสวนคนไหนมาขายให้อีก” คุณอี๊ด ระบายมาอย่างนั้น

จาน-ชาม กาบหมาก แบรนด์ S&D มี 5 แบบ ไม่มีสารฟอกขาว สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 085-134-2802 หรือ เพจ จานกาบหมาก ระนอง