ถอดความสำเร็จ “อ๊อตเทริ” ร้านสะดวกซักที่เคยเจ๊ง ก่อนเติบโตเกือบ 600 สาขา

พูดถึงร้านสะดวกซัก ชั่วโมงนี้ต้องยกให้ Otteri wash and dry ของ คุณกวิน นิทัศนจารุกุล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ที่ยืนหยัดสร้างความสะดวก 24 ชั่วโมง ดูแลความสะอาดเสื้อผ้าของลูกค้ามานานกว่า 5 ปี เปิดให้บริการแล้วเกือบ 600 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้มาจากการที่ชายหนุ่มเคยยึดอาชีพเป็นเซลส์ขายเครื่องนอน และเครื่องซักผ้ามาก่อนนั่นเอง 

จุดเริ่มต้น Otteri wash and dry

คุณกวิน เล่าว่า เส้นทางธุรกิจขายเครื่องซักผ้าไม่ได้ราบรื่นเพราะถูกดิจิทัลดิสรัปต์ และอาลีบาบา ค้าปลีกยักษ์ใหญ่เข้ามาบุกตลาด เพื่อทางรอดจึงรีบเปลี่ยนแผนธุรกิจจาก B2B เป็น B2C คือการเปิดร้านสะดวกซักที่เห็นไอเดียมาจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ 

ชายหนุ่ม ได้ฉวยโอกาสเริ่มธุรกิจนี้ เป็นผู้เล่นรายแรกและเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในเวลาเดียวกัน ทำให้การเปิดร้านสาขาแรก เจ๊งไม่เป็นท่า 

“ผมใช้อีโก้มากเกินไป คิดว่าลูกค้าต้องมาซักผ้าด้วยเครื่องหยอดเหรียญ แต่ไม่ใช่เลย แรงงานในนิคมอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นคนประหยัด ซักผ้าด้วยมือกันทั้งนั้น ทำให้เจ๊งทันที แต่ผมไม่หยุดนะ ขอเดินหน้าต่อเพราะเห็นแล้วว่าโมเดลธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จมากในต่างประเทศ จนได้เข้าร่วมโครงการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถึงได้เริ่มสร้างแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก Otteri wash and dry ขึ้นมา” 

สำหรับร้านอ๊อตเทริ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง มีตัวนากญี่ปุ่นเป็นโลโก้แบรนด์ คุณกวิน บอกว่า เลือกสัตว์ชนิดนี้เพราะน่ารัก ขี้เล่น ชอบอยู่ในน้ำ และอะไรก็ตามที่เป็นญี่ปุ่นจะสะท้อนภาพความสะอาดได้ดี ที่สำคัญ น่าจะถูกใจลูกค้าผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มหลักเรื่องซักผ้า 

โดยอ๊อตเทริชูจุดเด่น 3 เรื่อง ได้แก่ 1. Functional benefit สามารถเซตเครื่องให้ซักผ้าได้สะอาด แล้วอบผ้าให้แห้งได้โดยไม่ทำลายเนื้อผ้า 2. Emotional Benefit ดีไซน์ร้านให้น่านั่ง ปลอดโปร่งโล่งสบาย เป็น Instagramable มุนไหนก็ถ่ายรูปสวย 3. Social Benefit ไม่ใช่แค่ร้านซักผ้าแต่ยังใส่ใจปัญหาสังคมด้วย เช่น สร้างงานให้ผู้สูงวัยได้ซักอบพับผ้าในโครงการชูมณี และโครงการ Wash & Share ซักเพื่อให้ 

รวมถึงสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยแอพพลิเคชั่น Otteri wash and dry ไว้ดูโลเกชั่นร้าน ดูสถานะของเครื่อง รวมไปถึงจ่ายเงินออนไลน์และสะสมแต้ม 

ขยายแฟรนไชส์ ตั้งแต่สร้างแบรนด์ 

คุณกวิน แชร์ไอเดียธุรกิจให้ฟังว่า หลังเปิดร้านอ๊อตเทริของตัวเอง ก็เริ่มขยายสาขาในลักษณะแฟรนไชส์ทันที เพราะมีทุนไม่เยอะ หากขายแฟรนไชส์ได้สัก 4-5 สาขา ก็จะสามารถนำทุนมาหมุนเปิดร้านของตัวเองได้ 1 ร้าน 

“ปัจจุบันอ๊อตเทริเปิดให้บริการเกือบ 600 สาขาทั่วประเทศ มีทั้งแบบสแตนด์อะโลน ใต้อาคารหอพัก อพาร์ตเมนต์ แล้วแต่พื้นที่ รวมเครื่องซักผ้า เครื่องอบราวๆ 1 หมื่นกว่าเครื่อง โดยมีทีมดูแลร้านแฟรนไชซีทั้งทีมอินเฮ้าส์ และเอาต์ซอร์สประจำทุกภาค ภาคเหนืออยู่เชียงใหม่ ภาคกลางอยู่นครสวรรค์ กรุงเทพฯ ภาคอีสานอยู่ขอนแก่น อุบลราชธานี และภาคใต้อยู่หาดใหญ่ ภูเก็ต” คุณกวิน อธิบาย 

ก่อนบอกต่อ มีแฟรนไชส์ 2 ไซซ์ คือ M และ L มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าจากจีน รับประกัน 2 ปี จากอเมริการับประกัน 3 ปี เงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านกว่าบาท สูงสุด 3 ล้านกว่าบาท ราคานี้ยังไม่รวมค่าตกแต่งก่อสร้าง ส่วนนี้ต้องพิจารณากันอีกทีว่าเปิดในสถานที่แบบไหน โดยทีมของอ๊อตเทริเข้าไปสำรวจและฟันธงให้ว่าโลเกชั่นนี้เหมาะสมหรือไม่ 

“มีเหมือนกัน ลูกค้าเอาโลเกชั่นในบ้านมาเสนอเรา และถามว่าเปิดได้มั้ย พอดูแล้วไม่มีคนเดินผ่านเลยเงียบมากนะ ก็บอกตรงๆ ว่าถ้าเปิด ก็ได้ แต่จากที่คืนทุนใน 3-4 ปี อาจจะกลายเป็น 5-6 ปี คุณรับได้มั้ย ถ้ารับได้เปิดเลย ถ้าไม่ได้มาหาที่กันใหม่”

“ผมอยากแนะนำโลเกชั่นที่เหมาะสม คือแหล่งชุมชนที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างถาวร หรือมีประชากรอยู่กันหลายกลุ่ม จะทำให้คืนทุนเร็ว เขตมหา’ลัยเปิดได้มั้ย เปิดได้ แต่ไม่ใช่พื้นที่ที่คนอาศัยอยู่ถาวร เมื่อเกิดโควิด มหาวิทยาลัยปิด คนกลับบ้าน ยอดก็ตกฮวบ แต่ยังดีว่าร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจที่ไม่โดนปิด และยังมีการเติบโตมากตั้งแต่ปี 2019 และยังเติบโตได้ดีในปี 2021 และปีต่อๆ ไป” คุณกวิน เล่าเสริม 

อ๊อตเทริ คือ ฟาสต์ฟู้ดเรสเตอรองต์ 

ถามว่าทำไมร้านสะดวกซักถึงเริ่มต้น 40 บาท คุณกวิน อธิบายให้ฟังว่า คนให้ความสำคัญกับเวลามากกว่าเงิน เมื่อก่อนเคยซักผ้าด้วยเครื่องหยอดเหรียญ 20 บาท หากจ่ายเงินเพิ่มอีก 20 บาทเพื่อซักผ้าในร้านอ๊อตเทริราคา 40 บาท แล้วได้เวลาเพิ่มมาครึ่งชั่วโมง กับจ่ายเงินเพิ่มอีก 40 บาทเพื่ออบแห้งโดยไม่ต้องตากแดด จะทำให้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่น 

“มิชชั่นของอ๊อตเทริ คือทำให้ร้านสะดวกซักที่มีมาตรฐานระดับสากลสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในราคาประหยัดและเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของทุกๆ ชุมชน เพราะเรามองว่าการซักผ้าเป็นปัจจัยพื้นฐาน เหมือนกับการที่มีน้ำสะอาดใช้ มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต มีไฟฟ้าใช้ ฉะนั้น ราคาไม่ควรจะแพง เราพยายามเต็มที่เพื่อรักษาราคานี้ให้ได้” 

ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ย้ำอีกว่า มองร้านอ๊อตเทริเหมือนฟาสต์ฟู้ดเรสเตอรองต์ไม่ใช่ลักชัวรี่แบรนด์ 

“ผมไม่ได้บอกว่าเราซักผ้าสะอาดที่สุด แต่เราทำให้การซักผ้ามีมาตรฐานเหมือนๆ กันทุกสาขา ไม่ว่าไปซักสาขาไหนก็เหมือนกัน ผมทำแบรนด์ให้เป็นฟาสต์ฟู้ดเรสเตอรองต์เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงง่ายในมาตรฐานเดียวกัน”

ก่อนจาก คุณกวิน ทิ้งท้าย ถึงกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จไว้ว่า การสร้างแบรนดิ้งคือสิ่งสำคัญ ไม่ใช่การสร้างร้าน หรือโลโก้สวยๆ แต่ลึกซึ้งกว่านั้น คือสื่อสารยังไงให้คนเข้าใจว่าอ๊อตเทริคือร้านสะดวกซัก และทำยังไงให้ลูกค้ารักแบรนด์นี้ 

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ วันพฤหัสที่ 6 มกราคม พ.ศ.2565