ปลูกไม้ด่าง ในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่โดนแดดครึ่งปี ก็งามดี ช่วงพีก ต้องต่อคิวแย่งซื้อ

ปลูกไม้ด่าง ในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่โดนแดดครึ่งปี ก็งามดี ช่วงพีก ต้องต่อคิวแย่งซื้อ
ปลูกไม้ด่าง ในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่โดนแดดครึ่งปี ก็งามดี ช่วงพีก ต้องต่อคิวแย่งซื้อ

ปลูกไม้ด่าง ในตู้คอนเทนเนอร์ ไม่โดนแดดครึ่งปี ก็งามดี ช่วงพีก ต้องต่อคิวแย่งซื้อ

คุณนัท-ณัฐพงศ์ จินดารักษ์ ปัจจุบัน อายุ 30 ปี จบการศึกษาจากคณะนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยรังสิต เคยทำงานประจำ ตำแหน่งช่างภาพของนิตยสารหัวหนึ่งมาก่อน จากนั้นลาออก มาลงทุนร่วมกันกับเพื่อน เปิดบริษัทของตัวเอง ทำโปรดักชั่นเฮ้าส์รับงานโฆษณา ดำเนินกิจการได้พักใหญ่ เกิดสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพเร็วขึ้น

“ความจริงผมทำงานมาตั้งแต่สมัยเรียน มีประสบการณ์มาพอสมควร เลยรู้สึกอิ่มตัวกับงานโฆษณาแล้วประมาณหนึ่ง พอมาทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ของตัวเอง เจอช่วงขาลงอีก เลยให้เพื่อนทำบริษัทต่อ ส่วนผมออกมาทำต้นไม้” คุณนัท เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังอย่างนั้น ก่อนหัวเราะอารมณ์ดี

และว่า เขาชอบต้นไม้เป็นทุนเดิม มีงานอดิเรก คือ เป็นนักสะสมต้นไม้หลายแบบ พอคิดหันมาทำแบบจริงจัง ก็ได้คำแนะนำจากเพื่อนว่า “ไม้ด่าง” กำลังมา

คุณนัท-ณัฐพงศ์ จินดารักษ์

“เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา เพื่อนชวนไปเดินสวนจตุจักร เห็นตลาดคึกคัก มีคนจับจ่ายใช้สอย ซื้อขายกันเยอะ เลยซื้อไม้ด่างมาเลี้ยงดูบ้าง กระทั่งเดือนมีนาคม เริ่มสะสมจริงจัง แต่บ้านทาวน์เฮ้าส์ย่านพญาไท ไม่ได้มีพื้นที่อะไรมาก เลยต้องปลูกแถวริมระเบียงห้องเป็นแค่มุมเล็กๆ” คุณนัท เล่าให้ฟัง

ใช้เวลาสะสมไม่นาน ระเบียงห้องในบ้านของเขา ก็เต็มไปด้วยไม้ด่าง ที่ซื้อหามา จึงถึงเวลาต้องขยับขยาย แต่ครั้นจะไปซื้อหรือเช่าที่ดินชานเมือง เพื่อทำสวนอย่างที่หลายคนทำ คงเป็นเรื่องยากเกินไป จึงลองมองหาสิ่งรอบตัว อะไรที่พอจะเป็นไปได้

“จุดเริ่มกระแสไม้ด่าง เห็นต่างประเทศเขานิยมกัน เลยมีคำถามว่า ทำไมคนที่อยู่ยุโรป ไม่ได้มีพื้นที่เยอะเท่าบ้านเราด้วยซ้ำ ยังสามารถปลูกในอพาร์ตเมนต์ แล้วทำขายส่งทั่วโลกได้ พอดีในซอยบ้าน มีตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 15 ตารางเมตร ที่ดัดแปลงมาทำเป็นออฟฟิศว่างอยู่ เลยไปขอเช่าต่อ แล้วลงทุนปรับปรุง ทำชั้นวาง ติดพัดลม ติดแอร์ ติดไฟ LED วางระบบน้ำ ทำเป็นโรงปลูกไม้ด่าง” คุณนัท เผย เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ อย่างนั้น

ก่อนบอกจริงจัง

“คนที่รู้จักชอบถาม ไม่มีสวนแล้วปลูกไม้ด่างได้ยังไง ผมบอกเลย ไปลองซื้อชั้นมาดู ซื้อพัดลม เครื่องพ่นหมอก ไฟ LED มาเลี้ยง ผมกล้าพูดต้นไม้ของผม ไม่โดนแสงอาทิตย์มาเกินครึ่งปี ยังโตใหญ่กว่าของหลายคน มันเลี้ยงได้ ไม่จำเป็นต้องมีที่มีทางใหญ่โต ถ้าคุณอยากทำหารายได้เสริมจากสิ่งที่คุณชอบเชื่อว่าทำได้ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ไม่มีที่ทาง ไม่ใช่ข้อจำกัด มันทำได้หมด ถ้าเราตั้งใจจะทำ”

ไม้ด่าง ใน “สวนมหัศจรรย์”

คุณนัท เล่าอีกว่า  ระหว่าง “ทำไม้” เขาจะดูตลาดไปด้วยว่ามีแนวโน้มเป็นยังไง คนชอบไม้ชนิดไหนบ้าง หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศเขาทำกันแบบนี้ ไปคุยกับรุ่นพี่และผู้รู้หลายๆ ท่าน ก่อนมาประมวลดูแล้ว มีความเป็นไปได้ ที่ ไม้ด่าง จะเข้าถึงคนทั่วไปได้มากขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เล่นกันเฉพาะกลุ่ม

เมื่อมีจำนวน ไม้ด่าง มากพอที่จะแบ่งขายได้แล้ว เขาจึงเปิดการขาย โดยโพสต์เข้าไปในกลุ่มเสนอราคา ซึ่งได้รับความสนใจตามลำดับ เมื่อขายได้ ก็ซื้อเข้ามาเพิ่ม ตัวที่ขายดี ได้รับความนิยมมาก น่าจะเป็น มอนสเตอร่า ด่าง อีพิ มาร์เบิ้ล ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ขายดีแบบพีกสุด ลูกค้าแย่งกัน ต่อคิวซื้อเลยทีเดียว

อยู่กับสิ่งที่รัก

ถามถึงสถานการณ์ค้าขายไม้ด่างยามนี้ มีแนวโน้มลดลง คุณนัท บอกว่า อาจด้วยปัจจัยหลายอย่าง ก่อนหน้านี้ ราคาซื้อขายบางตัวค่อนข้างสูงเกินความจริง เพราะมีคนเข้ามาเล่นเยอะ พ่อค้าก็ตามเข้ามาเยอะ คนปลูกขายให้พ่อค้า พ่อค้าไปขายต่อให้อีกคน คนนั้นก็ขายให้อีกคน พอไม้เปลี่ยนมือหลายทอด ราคาก็จะอัพขึ้น ทีละ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ถ้าผ่านคนกลางหลายทอด ราคาก็ถีบขึ้นสูงตาม

แต่ส่วนตัว เขามองว่า ไม้ด่าง ยังไปได้แน่นอน แต่มันมีวงจร เหมือนไม้หลายๆ ตัว ที่เล่นกันมาหลายสิบปีแล้ว ก็ยังดีอยู่ แต่ต้นละล้าน สองล้าน อาจมีไม่บ่อย ส่วนต้นละหลักหมื่น หลักแสน เขาซื้อขายกันทุกวัน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

บำรุงกันหน่อย

“ใช้ชื่อเพจว่า Magic Garden เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ที่ได้เรียนรู้ธรรมชาติ เรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับต้นไม้ แล้วต้นไม้ก็ตอบแทนเรา บางคนอาจได้การตอบแทนเป็นแค่ความสุข บางคนอาจได้ทั้งความสุข ได้ทั้งเงินเลี้ยงชีพ ได้รู้จักพบปะผู้คน ผมว่าสิ่งเหล่านี้ มหัศจรรย์มาก” คุณนัท ส่งท้าย ก่อนยิ้มกว้าง

เผยแพร่เมื่อ วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2564