“ถูกดี มีมาตรฐาน” โมเดลธุรกิจทางเลือกใหม่ ฟื้นชีวิตโชห่วยเดินต่อได้

ในยุคที่ธุรกิจร้านขายของชำ หรือ “ร้านโชห่วย” ต้องหาวิธีการมาปรับใช้เพื่อความอยู่รอด หนึ่งในวิธีการที่กำลังมาแรงคือการจับมือกับ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ภายใต้การบริหารของ “เสถียร เศรษฐสิทธิ์” บอสใหญ่แห่งคาราบาวกรุ๊ป เจ้าของเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” พลิกโฉมร้านใหม่ ภายใต้ชื่อ “ถูกดี มีมาตรฐาน” ซึ่งปัจจุบันมีร้านโชห่วยหลายพันร้านเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับถูกดี มีมาตรฐาน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่เจ้าของร้านโชห่วยมีต่อ “ถูกดี มีมาตรฐาน” 

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านโชห่วย 4 ราย ที่ชีวิตเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหลังร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ “ถูกดี มีมาตรฐาน” บทสัมภาษณ์ของพวกเขาอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าของร้านทั้งหลาย เปิดรับทางเลือกใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมรับการแข่งขันในธุรกิจโลกค้าปลีกสมัยใหม่ที่ขยายตัวมากขึ้น

จากยอดขายไม่กี่พัน สู่ความฝันถึงเงินล้าน

อ้อ-เบญจมาศ มาตรผล อดีตพนักงานขายเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น มีความฝันอยากมีกิจการของตัวเอง หลังลาออกจากงานที่มีความมั่นคงมาเปิดร้านค้าปลีก “ทองคูณพาณิชย์” ที่อำเภอมัญจาคีรี เธอกลับพบว่า การบริหารร้านยากกว่าที่คิด ยอดขายต่อวันโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่มากเท่าที่ควร 

กระทั่งวันหนึ่งมีคนแนะนำให้รู้จัก “ถูกดี มีมาตรฐาน” ด้วยความสนใจเธอจึงร่วมอบรมสัมมนาฟัง เสถียร เศรษฐสิทธิ์ และ ยืนยง โอภากุล หรือ “พี่แอ๊ด คาราบาว” 2 หัวเรือใหญ่แห่งคาราบาวกรุ๊ป ที่ชูจุดขายของ “ถูกดี มีมาตรฐาน” ว่าอยู่ที่ความเป็นครอบครัวเดียวกัน พร้อมยืนยันว่าการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันในครั้งนี้จะไม่มีการทอดทิ้งกันอย่างแน่นอน ทำให้เบญจมาศเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจร่วมครอบครัวเดียวกันทันที

จากร้านเล็กๆ ของขายน้อยในวันนั้น ทองคูณพาณิชย์ภายใต้การสนับสนุนของ ถูกดี กลายเป็นร้านที่ดูสวย สะอาด น่าเข้า มีสินค้าหลากหลาย มีโปรโมชั่นน่าสนใจช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้เป็นประจำ ทำให้นับตั้งแต่เปิดร้านในเดือนมกราคมที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่า และเคยได้ยอดขายต่อเดือนสูงสุดถึง 700,000 บาท 

สำหรับความฝัน ณ ตอนนี้ เบญจมาศตั้งเป้าว่าอยากทำยอดให้ได้เดือนละ 1 ล้านบาท มันอาจดูเยอะพอควร “แต่ทุกคนมันต้องมีความหวังเนอะ ถ้าเราคิดบวก ก้าวเดินต่อไป สักเดือนหรือสักวันต้องทำได้ค่ะ” 

เปลี่ยนเพื่อปลดหนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตดีขึ้น

อีกคนที่คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงคือ ริด-ภัทรวินส์ ศรีชาติ อดีตเจ้าหน้าที่นิติบุคคลประจำคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ที่ต้องกลับศรีสะเกษจังหวัดบ้านเกิด เพื่อช่วยคุณแม่ดูแลกิจการ “ศรีชาติการค้า” ร้านโชห่วยประจำครอบครัวที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

ก่อนร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ ภัทรวินส์ เล่าว่า ปกติแล้วร้านศรีชาติการค้ามียอดขายต่อวันประมาณ 9,000 บาท ซึ่งไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับร้านระดับใกล้เคียงกัน แต่เมื่อเจอข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่า การเข้าร่วมกับ ถูกดี จะทำให้ร้านมียอดขายดียิ่งขึ้น หลังลังเลอยู่บ้างว่าควรเดินทางสายนี้ดีไหม แต่พอตัดสินใจได้ก็ตั้งเป้าหมายไว้ง่ายๆ ก่อนว่าขอเพียงได้ยอดมากกว่าตอนเป็นร้านเดิมก็พอแล้ว ปรากฏว่าสิ่งที่หวังกลายเป็นจริงตั้งแต่เดือนแรก ยอดขายของศรีชาติการค้าดีขึ้นอีกเท่าตัว และตั้งแต่เปิดร้านในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ยอดขายต่อเดือนมากสุดถึงกว่า 600,000 บาท

เจ้าของร้านวัย 32 ปีเชื่อว่า ถ้าเขาไม่กล้าตัดสินใจในวันนั้น ศรีชาติการค้าและชีวิตของเขาคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่พอมีวันนี้ วันที่เขาสามารถปลดหนี้ได้เยอะขึ้น ความเป็นอยู่ของคุณแม่และครอบครัวก็ดีขึ้น บ่งชี้ได้อย่างดีว่าวันนั้นเขาตัดสินใจถูกต้องแล้วที่เข้าร่วมกับถูกดี มีมาตรฐาน

เจียระไนเพชรเม็ดงาม สร้างมิตรภาพดีๆ

จากฟรีแลนซ์ที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องประดับ เพชรนิลจินดา ซุป-นิปุญญ์ อ่อนศรี จำเป็นต้องเลิกงานสายที่ตัวเองถนัดเพื่อดูแล “ร้านน้ำหวาน” ร้านโชห่วยประจำครอบครัวอายุกว่า 30 ปี ซึ่งชื่อร้านมีที่มาจากชื่อเล่นของพี่สาวของเขา มันอาจเป็นงานที่ยาก แต่เพราะ ถูกดี มีมาตรฐาน ช่วยให้เขาสามารถเจียระไนเพชรเม็ดนี้จนส่องประกายอย่างสวยงาม

นิปุญญ์ เล่าว่า ปัญหาของร้านน้ำหวานในอดีต หากวันไหนของในร้านหมด ก็จำเป็นต้องปิดร้านไปซื้อของมาเพิ่ม ทำให้วันนั้นขาดรายได้ แม้จะไม่กี่พันต่อวัน แต่ก็เยอะในความคิดคนหาเช้ากินค่ำแบบเขา อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเป็นร้าน ถูกดี แก้ปัญหานี้ให้หมดไปโดยสิ้นเชิง เพราะบริษัทจะส่งของมาให้ถึงหน้าร้านเป็นประจำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องปิดร้านไปซื้อของและสูญเสียเวลาและรายได้เหมือนที่ผ่านมา

เมื่อเป็นพาร์ตเนอร์กับ ถูกดี มีมาตรฐาน ผลพลอยได้ที่ตามมาคือคุณภาพชีวิตดีขึ้น ได้พบปะกับผู้คนบ่อยๆ ส่งผลให้นิปุญญ์พูดเก่ง ขายของเก่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังได้ผูกมิตรกับแวดวงคนทำร้านถูกดีด้วยกัน เกิดเป็นมิตรภาพดีๆ และคอยช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

มองย้อนกลับไป นิปุญญ์รู้สึกดีที่วันนั้นไม่ปัดโอกาสเข้าร่วมกับถูกดี “เราก็คนขายของอะเนอะ ถ้ามีโอกาสขายของได้ ทำไมเราจะไม่ทำล่ะ หากวันนั้นลังเลและไม่ยอมเข้าร่วมกับถูกดี ตอนนี้ผมน่าจะล้มไปแล้ว ร้านน่าจะเลิกไปแล้วก็ได้ครับ”

เพราะพี่แอ๊ดจูงใจ ชุบชีวิตใหม่ให้ร้านไก่ทอด 

“ร้านไก่ทอด ร่องส้าว” อาจก่อตั้งขึ้นมาเพื่อขายไก่เป็นหลัก แต่ไปๆ มาๆ ร้านไก่ทอด ณ หมู่บ้านร่องส้าว ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ก็เลิกขายแล้วกำเนิดใหม่กลายเป็นร้านถูกดี มีมาตรฐาน ภายใต้การดูแลของ ต้อม-ชัยวุธ กันทาผาม เจ้าของร้านวัย 34 ปีคนเดิม  

ชัยวุธ ย้อนความว่า เขารู้จักร้าน ถูกดี ครั้งแรกหลังเห็นรูป “พี่แอ๊ด คาราบาว” เชิญชวนพี่น้องโชห่วยมาร่วมสร้างร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ ยกระดับความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น ด้วยความอยากเจอซุป’ตาร์แห่งวงการเพลงเพื่อชีวิต บวกกับสนใจธุรกิจแนวนี้จึงสมัครเข้าร่วมอบรมแบบไม่ลังเล พร้อมเชิญชวนร้านละแวกเดียวกันให้ไปร่วมฟัง “พี่แอ๊ด” ด้วย ปรากฏว่ากลับไม่มีใครไปกับเขา แต่ทางครอบครัวก็สนับสนุนให้เข้าร่วมโครงการ

ด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อว่า ถูกดี จะช่วยพัฒนาร้านเล็กๆ ในชุมชนให้อยู่รอดได้ด้วยการขายของดีมีมาตรฐาน และสร้างระบบระเบียบในการบริหารร้านอย่างเป็นมืออาชีพ ผลคือ ร้านไก่ทอด ร่องส้าว ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ได้เพียง 5 เดือนสามารถทำยอดขายในแต่ละวันแตะถึงหลักหมื่น และสร้างสถิติสูงสุดต่อวันที่ 49,000 บาทเมื่อไม่นานมานี้ ถือว่ามาไกลมากนับจากที่เคยขายได้เพียง 2,000-3,000 บาทต่อวันเท่านั้น

คนเรามักตั้งเป้าความสำเร็จแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันก็คือความสำเร็จมักขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในช่วงเวลาสำคัญ โอกาสยกระดับร้านโชห่วย ยกระดับคุณภาพชีวิตไปพร้อมกันมีไม่บ่อยนัก หากสนใจร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ เปลี่ยนร้านเดิม เป็นร้านถูกดี มีมาตรฐาน สามารถติดต่อ 02-023-8888 กด 1 หรือช่องทางการสมัครข้างล่างนี้

เว็บไซต์ : https://bit.ly/2ZOoLHX

ทักแชต :  https://bit.ly/3B8Phtw

แอดไลน์ : https://bit.ly/3FeAe3M

#เปลี่ยนร้านเดิมเป็นร้านถูกดี #ร้านถูกดีมีมาตรฐาน #ร้านของชุมชน