เปิดมุมมองตลาดต้นไม้ กับ เคน ภูภูมิ ในประเทศไม่พอขาย ส่งออกไม่ต้องพูดถึง

ด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ลากยาวมาเป็นเวลานาน สร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ให้กับทุกภาคส่วน ซึ่ง คนบันเทิง เอง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เราจึงได้เห็นดาราหลายๆ คน หันไปทำอย่างอื่นฆ่าเวลาหรือหันมาให้เวลากับธุรกิจอาชีพเสริมที่ทำมาก่อนแล้วมากขึ้น

ซึ่งพระเอกหนุ่ม เคน-ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค นอกจากจะเป็นนักแสดง เจ้าของร้านคาเฟ่ K+E Cafe ที่ร่วมลงทุนทำกับแฟนสาว เอสเธอร์-อารีรัตน์ สุปรีย์ลีลา (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) แล้ว ก็ยังเป็นนักทำเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายที่มีดีเจระดับโลกอยู่ไปแล้ว ล่าสุดคุณเคนก็หันมาเอาดีทางด้านธุรกิจต้นไม้อีกด้วย!

คุณเคน ให้สัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า ตนเข้ามาในวงการต้นไม้มาได้ 1 ปีแล้ว โดยเริ่มจากการหาซื้อต้นพันธุ์ที่ชื่นชอบมาเลี้ยง สะสมไปเรื่อยๆ จนล้นเต็มบ้าน จึงได้ริเริ่มทำเป็นธุรกิจซื้อขาย

“ผมเริ่มจากพวกไม้เขียวแล้วก็อัลโบ (Albo) จากนั้นก็สะสมมาเรื่อยๆ เพราะชอบ ก็ตามเก็บ และหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องต้นไม้ว่า ประวัติความเป็นมาของต้นไม้ ว่ามันมาจากประเทศอะไร มันอยู่ตรงไหน การเป็นอยู่ของมันที่อยู่ในป่าจริงๆ มันเป็นยังไง ต้นที่เราปลูก เราก็จะไปหาข้อมูล ไปถามคนที่เขาเชี่ยวชาญ ไปเอามาจากแหล่งที่มันเกิดจริงๆ ปลูกได้ประมาณ 1 ปี ก็ไม่ได้ตัดทิ้งอะไรเลย ซื้อเข้ามาเพิ่มอย่างเดียว จนรู้สึกว่า มันเต็มแล้ว ไม่มีที่จะปลูกเพิ่ม ก็เลยเอาออกมาขายบ้าง” คุณเคน เล่าอย่างนั้น

ต้นไม้ที่ดาราหนุ่มขาย มีทั้งจากส่วนที่มีอยู่แล้ว และส่วนที่เป็นการนำเข้า ไม่ว่าจะเป็น Monstera (มอนสเตอร่า), Philodendron (ฟิโลเดนดรอน), Syngonium (ซิงโกเนียม), Alocasia (อโลคาเซีย), Rhaphidophora (ราฟิโดฟอร่า) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ดาราหนุ่มชื่นชอบเสียส่วนใหญ่นั่นเอง

โดยคนที่เป็นทั้งโค้ชเรื่องต้นไม้และที่ปรึกษา คือ คุณโฮม ซึ่งถือเป็นคนที่ไปนำต้นไม้พวกนี้ถึงแหล่งกำเนิด เช่น ประเทศในอเมริกาใต้ อย่าง เปรู ในป่าอเมซอน เม็กซิโก รวมถึง อเมริกา ทั้งยังเป็นผู้นำพันธุ์ไม้เข้ามาในประเทศไทยเป็นคนแรกๆ อีกด้วย

“สายพันธุ์ที่กำลังฮิตๆ ตอนนี้ มันไม่ใช่แค่คนไทยเล่น แต่ทั่วโลกก็เล่นเช่นกัน พวกนี้เขาก็จะมีราคาตลาดโลกอยู่แล้ว การเอาไปขาย มันก็ไม่ใช่ราคาที่ไทยตั้งขึ้นมาได้เอง แต่มันคือราคาที่อิงจากตลาดโลก อาจถูกกว่าแพงกว่าเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ดีอย่างหนึ่ง”

“ในแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีแฟนคลับของเขาอยู่ การลงทุนของผมก็คือการสะสมไม้ที่ผมชอบนั่นแหละครับ ลงทุนไปในตัวโดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านี่คือการลงทุน อารมณ์แบบผมไม่ต้องกังวลว่าเรื่องราคา ไม่ต้องกังวลว่าจะเอาไม้พวกนี้ไปไว้ไหน ถ้าเราไม่ได้ชอบมัน ไม่ได้รักมัน เราก็อาจจะต้องมาขายเททิ้ง แต่ถ้าเราชอบมัน เราก็ยังคงมีความสุขกับมันอยู่” คุณเคน ว่าอย่างนั้น

ถามถึงเรื่องการเปิดประมูลต้นไม้เพื่อนำเงินไปบริจาค หนุ่มเคน เล่าว่า ตอนโควิดรอบแรก ตนก็ได้ทำการเปิดประมูลต้นไม้และนำเงินไปบริจาคให้โรงพยาบาลรามาธิบดี เพราะรู้สึกว่าโควิดครั้งนี้น่าจะหนัก จึงคิดอยากช่วยเหลือ ซึ่งตนมีต้นแม่พันธุ์สวยๆ อยู่แล้ว เลยเป็นที่มาในการเปิดประมูลนำเงินไปช่วยเหลือ

แต่โควิดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น เมื่อเกิดการระบาดหนักในรอบที่ 2 คุณเคนก็ได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากลูกของคนที่ทำงานอยู่ในสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ที่ส่งมาบอกว่า ผู้ป่วยก็มีมามากขึ้นเรื่อยๆ และโรงพยาบาลสนามก็น่าจะเต็มในไม่ช้านี้ ทำให้ด่านหน้าของปัตตานี ขาดแคลนชุด PPE และอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจผู้ป่วย

ผนวกกับคุณโฮม ที่ปรึกษาคนสนิท เกิดที่จังหวัดปัตตานี เมื่อคุณโฮมโทรไปสอบถามเพื่อนๆ หมอที่ปัตตานี ก็พบว่ามันเป็นเรื่องจริง 2 หนุ่มจึงตัดสินใจที่จะบริจาคอีกครั้ง โดยหาต้นแม่พันธุ์สวยๆ มาเปิดประมูลอีกครั้ง

“รอบ 2 ที่เปิดประมูล ผมมีเวลาน้อยกว่าเดิมมาก เพราะมีเวลาเตรียมตัวแค่ 2 วันเท่านั้น ซึ่งก็ได้ต้นไม้บางส่วนมาเพิ่มอีกนิดหน่อยจากพี่ๆ เจ้าของสวนที่รู้จักกัน ถือเป็นการร่วมกันทำบุญ เพราะรู้สึกว่า ครั้งนี้เราได้รับการตอบรับที่ดีจากพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เอามาประมูลก็มีพวก มอนสเตอร่า และ ฟิโลเดนดรอน คือคนที่มาร่วมประมูลก็จะได้ต้นไม้แม่พันธุ์สวยๆ ไปแน่ๆ เพราะเราเชื่อว่า ถ้าต้นไม้มันสวย คนก็จะใส่ราคากันอย่างเต็มที่”

“ซึ่งราคาใน live การประมูลอาจจะสูงกว่าราคาตลาดได้บ้าง เพราะคนประมูลจะบอกว่ามันสวย และก็ได้ทำบุญไปด้วย มันก็เลยเป็นการได้สองต่อ คือได้ต้นไม้ด้วย ได้ทำบุญด้วย ก็ใส่ราคาสู้กัน โดยที่ไม่ต้องกังวลเพราะเราคัดแต่ต้นสวยๆ มาจริงๆ ทำให้กระแสตอบรับของการประมูล 2 ครั้งที่ผ่านมา มันก็เลยค่อนข้างดี ซึ่งต้นที่ประมูลได้สูงสุดคือพวกฟิโลเดนดรอน หรือ ก้านส้มด่างครับ ครั้งที่แล้วน่าจะได้อยู่ที่ 400,000 กว่าบาท” คุณเคน ว่าอย่างนั้น

คุณเคน ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวแล้ว ตนยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะ หนึ่ง ต้นไม้ต้องใช้เวลาโต ต้นแม่พันธุ์ที่สวยๆ ไม่ได้มีเยอะ หรือหากันได้ง่ายๆ เพราะต้นไม้พวกนี้ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มันไม่สามารถก๊อบวางได้ มีโอกาสตาย มีโอกาสที่จะไม่สวย และกว่าจะโตพร้อมขายก็ต้องใช้เวลา จึงไม่เพียงพอกับจำนวนคนที่อยากได้ และยิ่งคนรู้จักมากขึ้น อยากได้มากขึ้น จึงทำให้ราคาแพงขึ้น ถือเป็นธรรมดาของการตลาดอยู่แล้ว

“ต้นไม้ มันก็เป็นเหมือนงานศิลปะ มันมีเสน่ห์ของตัวมันเอง และมันก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่า แล้วสาเหตุที่ช่วงนี้ต้นไม้พวกนี้ได้รับความนิยมมาก ผมมองว่า ที่เมื่อก่อนต้นไม้ไม่ได้รับความนิยมเท่าตอนนี้ เพราะมันต้องปลูกนอกบ้าน มันต้องโดนแสงแดด ต้องดูแลเยอะแยะ ซึ่งมันก็ยากพอสมควร แต่ต้นไม้พวกนี้ สามารถเลี้ยงในคอนโดได้ ใช้ตกแต่งในบ้านบริเวณริมหน้าต่างได้ อาจจะมีบางส่วนที่เข้ามาตามกระแสบ้าง แต่ก็มีส่วนที่เลี้ยงมาตั้งแต่ราคายังถูกๆ ยังไม่แพงมาก ที่ชอบจริงๆ ก็เยอะ” คุณเคน เล่า

ถามถึงอาชีพในวงการบันเทิง คุณเคน กล่าวว่า สำหรับตอนนี้ก็ไม่ต้องแบ่งเวลาอะไรเลย เพราะยังถ่ายละครไม่ได้ เลยหันมาลุยธุรกิจต้นไม้อย่างเต็มที่ แต่หากเปิดกล้องแล้วจริงๆ ดาราหนุ่มก็รับเล่นทีละเรื่องอยู่แล้ว จึงไม่น่ามีผลกระทบกันกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เลยเป็นอะไรที่ไม่ต้องฝืนตัวเองจนเกินไป และก็ไม่ต้องเหนื่อยใจในสิ่งที่จะทำ

“ปกติแล้ว ต้นไม้จะมีวงจรของมัน เพียงแต่วงจรรอบนี้ มันไม่ใช่แค่ประเทศในเอเชีย ไม่ใช่แค่ประเทศฝั่งยุโรปหรืออเมริกา แต่มันเป็นวงจรที่ใหญ่มาก อย่างเมื่อก่อนมันก็จะมีพวกสับปะรดสี พวกชวนชม ซึ่งจะเล่นในแถบไม่กี่ประเทศ แต่อันนี้มันคือทั่วโลกมาร่วมเล่นต้นไม้สายพันธุ์แบบนี้ ผมก็ตอบไม่ได้ว่าจะฮิตอีกนานแค่ไหน แต่ตอนนี้มันถือเป็นวงที่ใหญ่มาก ตั้งแต่ที่วงการต้นไม้เคยเจอมาและยังมีคนก็เข้ามาเล่นกันเรื่อยๆ เรื่องขายต่างประเทศเลยไม่ได้มองไว้เลย เพราะแค่ในไทย ก็มีไม่พอขายแล้วครับ” ดาราหนุ่ม ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น

สนใจดูต้นไม้หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เพจ We Plant

 

เผยแพร่ครั้งแรก วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2564