ถือเป็นผู้นำค้าปลีกสีเขียวตัวจริง กับ เทสโก้ โลตัส ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยตลอด และในปีนี้ได้ทุ่มงบประมาณ 450 ล้านบาท ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซลล์บนหลังคาร้านค้าและศูนย์กระจายสินค้ารวม 13 แห่ง บนพื้นที่ 65,000 ตารางเมตร คาดว่าจะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 56 ล้านบาท ต่อปี ตั้งเป้าลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์  ในปี 2020

คุณเกษมสุข บุญเจริญ รองประธานกรรมการฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน เทสโก้ โลตัส กล่าวถึงความมุ่งมั่นตั้งใจกับการเป็นผู้นำค้าปลีกสีเขียว ว่า

“เทสโก้ โลตัส มีความมุ่งมั่นกับการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก โดยดำเนินธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน เป้าหมายของ เทสโก้ โลตัส คือลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์ ให้ได้ในปี 2563 จึงมีโครงการประหยัดพลังงานต่างๆ เกิดขึ้นและใช้จริง”

กับจุดเริ่มต้นแห่งแรก สาขาพระราม 1 ในปี 2547 ได้นำพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา แม้ต้องใช้งบประมาณสูง แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี นำมาซึ่งการเป็น “กรีนสโตร์” แห่งแรก

กระทั่งในปี 2551 เปิดกรีนสโตร์แห่งที่ 2 สาขาศาลายา จังหวัดนครปฐม โดยนำพลังงานลมมาใช้ รวมไปถึงการรีไซเคิลในรูปของไบโอแก๊ส และไบโอดีเซล หมุนเวียนใช้ในสาขา

ปี 2554 “สโตร์ปลอดคาร์บอนฯ” แห่งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียได้เกิดขึ้นที่สาขาบางพระ จังหวัดชลบุรี โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากการใช้ไฟฟ้า และชดเชยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เหลือด้วยพลังงานทดแทนที่ได้จากแหล่งผลิตภายในสาขา จนมีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับศูนย์

ในปี 2558 เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพลส สาขาถนนนวมินทร์ ลงทุนปรับเปลี่ยนระบบจนได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ว่าเป็นสโตร์ “คาร์บอนนูทรัล” หรือเครื่องหมายรับรองการชดเชยคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นศูนย์

มาถึงก้าวสำคัญ ในปี 2559 เทสโก้ โลตัส กำเงินลงทุน 450 ล้านบาท สู่การเป็นผู้นำค้าปลีกสีเขียวอย่างภาคภูมิใจ ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ กับร้านค้าทั้งหมด 8 สาขา และศูนย์กระจายสินค้า 5 แห่ง บนพื้นที่รวมราว  65,000 ตารางเมตร หรือเทียบเท่าสระว่ายน้ำโอลิมปิก 52 สระ ซึ่งมีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าประมาณ 15 ล้านกิโลวัตต์ ต่อชั่วโมง เท่ากับการใช้ไฟฟ้ากว่า 30,000 ครัวเรือน โดยคาดว่าจะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 56 ล้านบาท ต่อปี ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 7,925 ตัน ต่อปี

กับการดำเนินโครงการดังกล่าว คาดว่ากระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จะช่วยประหยัดพลังงานให้แต่ละสาขา เฉลี่ยราว  20 เปอร์เซ็นต์ โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้นั้นจะถูกนำมาใช้ในช่วงเวลากลางวัน ทุกส่วนของพื้นที่ โดยเฉพาะ ระบบตู้แช่ แผนกผลิตเบเกอรี่และอาหาร เครื่องปรับอากาศ แสงสว่าง ซึ่งถือเป็นส่วนที่ใช้กำลังไฟสูง

สำหรับสาขาที่ได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ได้แก่ สาขาบ้านบึง, อุดรธานี 1, อุดรธานี 2 นาดี, ขอนแก่น 2, ปากช่อง, อรัญประเทศ, ปราจีนบุรี, สระบุรี และศูนย์กระจายสินค้า 5 แห่ง ได้แก่ วังน้อย สามโคก บางบัวทอง ลำลูกกา  ขอนแก่น

“เทสโก้ โลตัส มีพื้นที่หลังคารวมกันทั้งหมด 1 ล้านตารางเมตร ใน 1,800 สาขา กับศูนย์กระจายสินค้า 6 แห่ง หากติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์เต็มพื้นที่ จะสามารถมีกำลังผลิตไฟฟ้าได้ถึง 150 เมกะวัตต์ ซึ่งในปีนี้ เราเริ่มต้นที่ 10 เมกะวัตต์ จึงวางแผนในปี 2560 จะติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์เพิ่ม โดยตั้งเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าไว้ 20 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 35 สาขา”

กับการอนุรักษ์พลังงาน การทำธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะยังคงเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเทสโก้ โลตัส ผู้นำธุรกิจค้าปลีกสีเขียวตัวจริง