อดีตมนุษย์เงินเดือน ผุดทำ ไข่เค็มสมุนไพร เพื่อสุขภาพ การันตีความอร่อยทุกฟอง

อดีตมนุษย์เงินเดือน ผุดทำ ไข่เค็มสมุนไพร เพื่อสุขภาพ การันตีความอร่อยทุกฟอง

จากสถานการณ์โควิด-19 หลายบ้านคงกำลังมองหาอาหารที่สามารถเก็บตุนไว้ทานได้นาน “ไข่เค็ม” จึงเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่หลายบ้านมักมีไว้ติดตู้เย็น โดยเฉพาะไข่เค็มที่ไม่ธรรมดา มีสมุนไพรไทยเป็นส่วนประกอบ นอกจากอร่อยแล้วยังเสริมสุขภาพดีจากภายในอีกด้วย อย่าง ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา ของดีเมืองแม่ย่าโม จังหวัดนครราชสีมา

คุณนัยนา เดชพันธ์ ผู้สร้างแบรนด์ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา เล่าว่า ปัจจุบัน ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา เดินทางมาปีนี้ย่างเข้าปีที่ 3 แล้ว โดยก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กรุงเทพฯ เป็นพนักงานกินเงินเดือนบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง เวลาผ่านไปนานวัน จากความท้าทายความสนุกของงานมันเริ่มอิ่มตัว เริ่มอยากกลับบ้าน หาอาชีพอะไรก็ได้ทำที่บ้านเกิด จังหวัดนครราชสีมา

คุณนัยนา เดชพันธุ์ ผู้สร้างแบรนด์ ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา

“ส่วนตัวชอบทำอาหารอยู่แล้ว จึงตัดสินใจออกจากงานมาเช่าที่เปิดร้านอาหาร ทำอยู่พักหนึ่งปรากฏว่ารายได้ไม่พอรายจ่าย ส่วนหนึ่งเพราะมีค่าเช่าร้าน และอีกส่วนหนึ่งเราขาดประสบการณ์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องทำเลที่ตั้ง สุดท้ายร้านก็ไปไม่รอด คราวนี้ได้กลับไปอยู่บ้านของจริง” คุณนัยนา ว่าอย่างนั้น

คุณนัยนา เล่าต่อว่า เมื่อได้กลับมาพักอยู่บ้าน จึงได้เห็นว่าที่บ้านเลี้ยงเป็ด และไข่เป็ดที่ได้ในแต่ละวันเหลือจากความต้องการในครัวเรือน ซึ่งไข่ที่เหลือที่บ้านก็จะนำไปดองทำไข่เค็มแบบสูตรโบราณ คือการดองน้ำเกลือในขวดแก้ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน สามารถเก็บไว้ทานได้อีกเป็นเดือน จากจุดนี้ คุณนัยนาจึงเริ่มเห็นแสงสว่างในเส้นทางอาชีพใหม่ของตนเอง

“ความคิดแรกคือดองไข่เค็มแบบโบราณมันธรรมดาไป ถ้าจะยึดเป็นอาชีพต้องทำไข่เค็มแบบไม่ธรรมดา ไข่เค็มที่เปิดตลาดแล้วแฟนคลับรู้ โลกของผู้บริโภครู้ จดจำทันที เหมือนง่ายแต่ก็ยาก แต่ยากก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ พยายามอย่างหนัก ฝึกดองไข่เค็มจากสูตรโบราณจนชำนาญ จนรู้หลักสัดส่วนการผสมวัตถุดิบ”

“จากนั้นเริ่มปรับสูตร หาสมุนไพรไทยใกล้ตัว มาลองบดขยี้ต้มเอาเพียงน้ำ ใช้เป็นส่วนผสมดองไข่เค็มแทนน้ำเปล่าปกติ ไม่ว่าจะเป็น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบเตย อัญชัญ นอกจากนั้นยังอาศัยอาจารย์ “ยูทูบ” คือหาสูตรจากคลิปต่างๆ แต่ละสูตรก็จะมีเคล็ดลับแตกต่างกันไป เราก็ดึงเอาจุดแข็งมาผสมผสาน บวกความคิดน่าจะเป็นไปได้ของเรา จนมาจบที่สูตร ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา อย่างทุกวันนี้” คุณนัยนา กล่าวอย่างภูมิใจ

ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา เริ่มเปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อปี 2562 ก่อนช่วงโควิด-19 ไม่นาน จากประสบการณ์ทำร้านอาหารที่ผ่านมา ครั้งนี้ทำให้คุณนัยนาเริ่มเข้าใจแนวทางการทำธุรกิจมากขึ้น ไม่เสี่ยงเปิดตัวใหญ่โตให้ล้มดัง กลับค่อยๆ แง้มประตูตลาดเปิดวางจำหน่ายสินค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป  เริ่มต้นฝากขายตามร้านค้าทั่วไปใกล้บ้าน เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักติดใจในคุณภาพ กลายเป็นที่ยอมรับ มีออร์เดอร์หลั่งไหลเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มขยับขยายวางจำหน่ายในร้านของฝากระดับจังหวัด รวมถึงเริ่มเจาะตลาดออนไลน์ เปิดโอกาสส่งตรงความอร่อยทั่วประเทศ

คุณนัยนาไม่หยุดเพียงเท่านี้  เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มจนได้เข้าร่วมประกวดคว้ารางวัลการันตีคุณภาพมากมาย อาทิ รางวัล SMEs Startup Awards 3 ปีซ้อน (พ.ศ. 2561, 2562, และ 2563), รางวัล SME Provincial Champions 2020 สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. 2563), รางวัลชนะเลิศสุดยอดผลิตภัณฑ์เทศบาลนครราชสีมา เป็นต้น

เมื่อออร์เดอร์เริ่มมากขึ้น คุณนัยนา เล่าด้วยรอยยิ้มว่า ปัญหาอุปสรรคย่อมตามมาติดๆ แน่นอน แต่หากเราสู้ก็ยากจะพบเจอทางตัน

“โจทย์แรกที่มีมาให้แก้คือ วิธีการดองไข่ ซึ่งเดิมจะดองไข่เค็มแบบโบราณคือดองน้ำ ดองครั้งละหลายฟองในถังเดียวกัน เพื่อให้ทันออร์เดอร์ ดังนั้น เมื่อมีไข่ใบหนึ่งเน่าเสีย ไข่ทั้งหมดก็จะพลอยเน่าเสียตามไปด้วย ทำให้สินค้าผลิตไม่ทันส่ง หนำซ้ำยังขาดทุนทันที ปล่อยไว้แบบนี้ธุรกิจตายแน่นอน จึงเร่งศึกษาทดลองหาทางออก จนพบว่าเราสามารถปรับกลยุทธ์ใหม่ จากดองน้ำปรับเป็นวิธีการดองแห้งแบบพอกแทน โดยใช้ดินสอพองเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งดินสอพองที่เราเลือกใช้ มาจากศูนย์การเรียนรู้จังหวัดลพบุรี แหล่งผลิตดินสอพองที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน นำมาพอกไข่เค็มแล้วทำให้รสชาติกลมกล่อม ไข่ไม่เค็มจัดเกินไป”

คุณนัยนา ยังบอกเคล็ดลับเพิ่มอีกว่า การผลิตไข่เค็มให้อร่อยได้มาตรฐาน นอกจากเลือกใช้ดินสอพองที่ดีมีคุณภาพแล้ว สำคัญที่สุดคือการเลือกไข่เป็ด โดยไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา คัดเลือกรับไข่จากฟาร์มใหญ่ที่มีมาตรฐานคงที่ มีความสดใหม่ ฟองใหญ่ และมีขนาดเท่ากัน เมื่อนำไปดองน้ำ หรือดองแห้งแบบพอก รสชาติจะเข้าถึงเนื้อ ได้ไข่เค็มคุณภาพอร่อยเต็มฟอง

เมื่อหันมาใช้วิธีการดองแห้งแบบพอกแทนการดองน้ำ  สามารถลดความเสี่ยงเรื่องกระบวนการผลิต ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย  ผลิตไข่เค็มคุณภาพได้ทันตามออร์เดอร์ โดยสินค้าพระเอกได้รับความสนใจมากที่สุด คือ “ไข่เค็มสมุนไพรต้มสุก”

นอกจากนั้น  คุณนัยนา ต่อยอดพัฒนาไข่เค็ม เพิ่มอายุการเก็บรักษาไข่เค็ม ผ่านความร่วมมือจากภาครัฐ โดยร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) คิดค้นนวัตกรรมใหม่เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “ไข่เค็มผงสำเร็จรูปพร้อมปรุง” ที่มีอายุเก็บไว้ได้นานถึง 6 เดือน ถือเป็นการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า ขยายกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

ธุรกิจเดินทางมาด้วยดี จนเมื่อมาพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ “จากวิกฤตโควิด-19 ระบาด แน่นอนไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภา คงหนีไม่พ้นผลกระทบ  ซึ่งเป็นปัญหาอุปสรรคที่ยากจะก้าวผ่าน สิ่งที่ทำได้คือประคอง เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ดังนั้น เมื่อยอดขายกว่า 80% หายไป คงเหลือเพียงยอดขาย 20% จากตลาดออนไลน์ การบริหารจัดการธุรกิจจึงปรับเปลี่ยนใหม่ พยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด อย่างสินค้าบางตัวจะหันมาผลิตตามออร์เดอร์เท่านั้น  อาทิ ไข่เค็มดองน้ำแบบโบราณ ไข่สด เป็นต้น รวมถึงลดปริมาณการผลิต โดยกำหนดจากยอดการสั่งซื้อของเดือนที่ผ่านมาเป็นหลัก ซึ่งจุดนี้ช่วยให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้ไม่สะดุด”

ทั้งนี้ การฝ่าพายุวิกฤตโควิด-19 คุณนัยนายังบอกอีกว่า พายุลูกใหญ่ขนาดนี้ตนจะสู้ฝ่าฟันเพียงลำพังคนเดียวคงไม่ไหว โชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เข้าร่วมกลุ่มเกษตรกรเปิดตลาดนัดสีเขียวให้ผู้ประกอบการมีช่องทางการจัดจำหน่าย หรือแม้แต่การสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนจากธนาคารของรัฐ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ผ่านสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินต่อไปได้ และ ธนาคารยังได้ช่วยขยายช่องทางการตลาด สร้างโอกาสสนับสนุนให้เข้าร่วม  กิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ที่จัดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง SME D Bank โลตัส และ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) อีกด้วย

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ไข่เค็มบ้านสมุนไพรจิดาภาที่ได้รับความนิยม คือ ไข่เค็มสมุนไพรสูตรไข่แดงเค็มมัน / ไข่เค็มอินเตอร์สูตรใบเตย บรรจุถุงจีบ (5 ฟอง) ราคาส่งถุงละ 40 บาท ราคาปลีกถุงละ 50 บาท, ไข่เค็มอินเตอร์สูตรสมุนไพร  / ไข่เค็มพอกใบเตย บรรจุกล่องกระดาษ (6 ฟอง) ราคาส่งกล่องละ 50 บาท ราคาปลีกกล่องละ 65 บาท, ไข่แดงเค็มผงสำเร็จรูปพร้อมปรุง ขนาดกระปุกละ 150 กรัม ราคา 250 บาท, ไข่แดงเค็มมัน ขนาดถุงละ 200 กรัม ราคา 90 บาท, ไข่เค็มจิดาภาไข่เค็มออร์แกนิก (5 ฟอง) กลิ่น ขิง อัญชัน ใบเตย ราคาถุงละ 80 บาท เป็นต้น

คุณนัยนา ทิ้งท้ายถึงอนาคตไว้ว่า “หากสถานการณ์กลับมาปกติและดีขึ้น อยากจะทำฟาร์มเลี้ยงเป็ดเอง เพื่อผลิตไข่เป็ดวัตถุดิบหลักให้ได้มาตรฐาน สามารถสร้างสรรค์เมนูจากไข่เป็ดที่มีคุณภาพได้หลากหลายยิ่งขึ้น ตอบแทนลูกค้าผู้บริโภคที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดค่ะ”

 

เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564