หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาเกือบทั้งปี ถึงช่วงเดือนนี้หลายคนน่าจะวางแผนให้รางวัลตัวเองกันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทริปท่องเที่ยว ข้าวของที่เป็น Wish List อยากได้มาแสนนาน ส่วนจะเป็นอะไรนั้นก็ขึ้นอยุ่กับรสนิยม รายได้ และเงินในกระเป๋าของแต่ละคน

 การให้รางวัลตนเองเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนและต้องทำ เพราะจะเป็นกำลังใจเสริมที่ช่วยให้เราเดินหน้าต่อไป

การเดินทางท่องเที่ยว น่าจะเป็นตัวเลือกที่คนส่วนใหญ่วางแผนไว้ เพราะ 1. เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว 2. เข้าสู่หน้าหนาว อากาศน่าจะเย็นสบาย 3. เป็นโอกาสที่จะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ระยะหลังเราจะเห็นคนไทยเดินทางออกจากประเทศกันมาขึ้นในช่วงเทศกาลหยุดยาว หากเลือกมองในแง่ดีขึ้น คนไทยรวยขึ้น หรือเปล่า?

แต่ในฐานะที่ผู้เขียนคลุกคลีอยู่กับคนทำงานชนชั้นกลางค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ให้คำตอบว่าถ้าเลือกได้อยากไปต่างประเทศมากกว่า เพราะสนนราคาเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว อาจจะคุ้มค่ากว่าอย่างที่ว่า ก็เก็บหอมรอมริมมาทั้งปี ป่วยไข้อย่างไรก็ไม่ยอมหยุดงาน เพราะจะเก็บวันลาไว้ไปเที่ยว แล้วพอจะเที่ยวทั้งทีก็ไม่อยากต้องเจอประสบการณ์ที่แย่ๆ ถึงตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นความล้มเหลวของระบบการจัดการการท่องเที่ยวของไทยอย่างสิ้นเชิง

กับกรณีที่เกิดขึ้นกับ ปาย เชียงคาน และล่าสุดคือ ภูทับเบิก เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งเข็ดขยาดที่จะต้องเที่ยวไทยในช่วงวันหยุด แต่ถ้ายังเป็นพนักงานทำงานกินเงินเดือนก็คงหลีกเลี่ยงยากกว่าผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งสามารถจัดเวลาท่องเที่ยวได้เอง

เราก็อยากรณรงค์ให้คนไทยเที่ยวไทยนะคะ แต่ก็ไปเจอมาด้วยตัวเอง เมื่อวันหยุดช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาไปเชียงคานมาค่ะ…วางแผนซะดิบดี ด้วยความฝันฟรุ้งฟริ้งว่าจะได้เจอเมืองเล็กๆ คนน่ารักกินอาหารพื้นบ้าน สโลว์ไลฟ์ ชิลชิล

ที่ไหนได้ เอาเข้าจริงด้วยความที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก อย่างกับหนอน ถนนคนเดินกลายเป็นคลื่นมหาชนย่อมๆ ทั้งผลักทั้งดันแบบไม่ต้องเดินเอง ของที่นำมาขายไม่ใช่ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของเมืองเชียงคาน แต่กลายเป็นสินค้าที่หาได้ตามตลาดนัดทั่วไป ว่าจะเดินไปจิบกาแฟโบราณ ดันไปเจอกาแฟซง ทรีอินวัน ซะงั้น!! แถมคนขายหน้างอหงิก เหวี่ยงวีน เพราะคงเหน็ดเหนื่อยจากการรับมือกับกองทัพนักท่องเที่ยวมาหลายวัน

เอาเป็นว่าไม่น่าประทับใจ น่าเห็นใจทั้งคนขายและนักท่องเที่ยว!!

บ่นมาซะเยอะ อย่างไรก็ดี หากใครก็ตามที่มีการวางแผนการเงินมาดีย่อมมีทางเลือกได้มากกว่า ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือ

1.กำหนดเป้าหมาย วางแผนให้เห็นภาพชัดที่สุด เช่น เก็บเงินก้อนนี้สำหรับทริปยุโยป หรืออเมริกา หรือทริปในประเทศ เพราะเมื่อเป้าหมายชัด การออมเงินจะชัดเจน ว่าต้องเก็บเท่าไหร่ ค่าเงินแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ดังนั้น หากกำหนดเป้าหมาย ระบุประเทศหรือเมืองที่จะไปเลยก็ยิ่งดี

2. ตั้งเป็นกองทุน (ส่วนตัว) เพื่อการท่องเที่ยว แบ่งเงินออมแยกออกมาเข้ากองทุนเพื่อการท่องเที่ยวทันทีที่มีรายรับ เช่น พอเงินเดือนออกปุ๊บ แบ่งมาเลยเดือนละ 5,000 บาท 12 เดือน ก็ได้แล้ว 60,000 บาท ทริปยุโรปพอได้ แต่ถ้าจะให้สวยหรูหน่อยก็เก็บเพิ่มอีกนิด เป็นต้น

3.จัดระเบียบการใช้เงินให้ดี บริหารจัดการให้ประโยชน์สูงสุด ยอดใช้จ่ายส่วนไหนควรใช้เงินสด ส่วนไหนควรใช้บัตรเครดิต เช่น ตั๋วเครื่องบิน อาจใช้สิทธิประโยชน์จากคะแนนสะสมในบัตร เผลอๆ ได้บินฟรีก็เป็นได้ คูปองส่วนสดต่างๆ จากการเป็นสมาชิกบัตร หรือคลับต่างๆ ขุดออกมาใช้ให้คุ้ม หากต้องใช้เงินสด ดูอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่คุ้มค่าที่สุด

4.หาข้อมูลให้ดี ช่วยประหยัดได้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย หากไม่ได้ไปเที่ยวกับทัวร์ การหาข้อมูลก่อนเดินทางเป็นเรื่องสำคัญเปรียบเทียบราคาที่พัก การเดินทาง และวันที่จะเดินทางเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น

บางทีในการท่องเที่ยว แค่เริ่มต้นวางแผนก็สนุกแล้ว….