เจ๊จง โคตรสงสาร พ่อค้า แม่ขาย ร้านอาหาร นักร้อง วอนรัฐบาล มองให้ลึกซึ้ง

เจ๊จง โคตรสงสาร พ่อค้า แม่ขาย ร้านอาหาร นักร้อง วอนรัฐบาล มองให้ลึกซึ้ง
เจ๊จง โคตรสงสาร พ่อค้า แม่ขาย ร้านอาหาร นักร้อง วอนรัฐบาล มองให้ลึกซึ้ง

เจ๊จง โคตรสงสาร พ่อค้า แม่ขาย ร้านอาหาร นักร้อง วอนรัฐบาล มองให้ลึกซึ้ง

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ร้านหมูทอดเจ๊จง เขตคลองเตย เจ๊จง-คุณจงใจ กิจแสวง ให้สัมภาษณ์ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ในโอกาสเปิดร้านครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งเดือน หลังที่ต้องปิดร้านไป เนื่องจาก ตัวเจ๊จง สามี ลูกชาย และ ลูกสะใภ้ ป่วยโควิด-19 ว่า วันที่ตัดสินใจปิดร้านราวปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมานั้น ยังไม่รู้ว่าตัวเองติดโควิดรึเปล่า แต่ทราบว่ามีคนในครอบครัวเป็น เลยปิดทันทีทุกสาขา กล้าพูดว่าทิ้งของในร้านเป็นแสนบาท เพราะรู้ว่าเปิดไปไม่คุ้ม

เจ๊จง บอกต่อ คำว่า ไม่คุ้ม ในที่นี้ คือ ถ้าสมมติเราเป็นโควิด แล้วมีคนอื่นมาติดต่อไปอีก มันจะเป็นภาระให้กับสังคม ต้องยอมรับว่าหลายๆ คนที่เป็นแล้วไม่กล้าตัดสินใจแบบนี้ เพราะลงทุนไปเยอะแล้ว เลยเป็นสาเหตุทำให้เกิดคลัสเตอร์กระจายไปเรื่อยๆ

“ลูกๆ ที่ไปเปิดสาขากัน ยังบอก โหหห! แม่ ของหนูเพิ่งลงไปนะตั้งหลายหมื่น เลยบอกไม่เป็นไร อย่างน้อยเราเคยได้มาบ้างแล้ว ต้องมีเสียบ้าง คนเราจะได้อย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ และยังสั่งไว้เลยว่า วันที่แต่ละสาขาเปิดขายอีกครั้ง ของทุกอย่างที่อยู่ในตู้ทิ้งให้หมด และสั่งของใหม่เข้ามาทำ” เจ๊จง บอกอย่างนั้น

เมื่อถามถึงบรรยากาศเปิดร้านวันแรก เจ๊จง หัวเราะขื่นๆ ก่อนเล่า

“อยากจะบอกว่า สิบกว่าปีที่ขายมา ยังไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้เลย หรืออาจเพราะเราปิดมาร่วมเดือนแล้วลูกค้ายังไม่รู้ก็ได้ วิกฤตครั้งนี้หนักหนามาก ถ้าร้านเจ๊จง ขนาดนี้ คนอื่นจะขนาดไหน แต่ก็ทำใจ เพราะตัวเองยังไม่อยากออกจากบ้านเลย ใจจริงยังไม่อยากเปิดร้านด้วยซ้ำ แต่มีลูกน้องต้องดูแล ถ้าปิดเอาตัวรอดคนเดียว ลูกน้องก็ตาย”

ถามถึงเมนูในร้าน เจ๊จง บอก ยังมีเหมือนปกติ แต่อาจลดปริมาณลง เพราะประเมินแล้วลูกค้าน่าจะน้อย ตอนนี้ซื้อกลับอย่างเดียว ทำน้อยไว้ก่อนไม่พอค่อยทำเสริม อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ พร้อมแล้วที่จะทำข้าวกล่องแจก โดยอาจเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่คนต้องกักตัวอยู่กับบ้าน

“จากที่ตัวเองป่วย และโดนกักตัว เข้าใจเลยว่าบางคนกลัว แต่หลายคนกลัวจนไม่มีสติ กลายเป็นรังเกียจคนที่เป็นโควิด เลยอยากให้สื่อ หรือรัฐบาล ออกมาอธิบายว่า คนที่ติดโควิด พอหายแล้ว จะมีภูมิต้านทานอยู่ในตัว อย่างน้อย 3-6 เดือน ตอนแรกกังวลเหมือนกัน คนจะรังเกียจร้านเจ๊ เพราะเคยติดโควิด แต่ตอนนี้เฉยๆ แค่มองว่าหลายคนยังไม่เข้าใจมากกว่า” เจ๊จง เผย

และว่า ตอนนี้อยากให้คนที่ยังไปไหนมาไหนได้ ช่วยเหลือคนที่ต้องกักตัว เพราะเป็นเวลาที่เราจะได้ทำความดี ผูกมิตรกับเพื่อนบ้าน

“ลูกสาวที่ไปเปิดสาขาแถววัชรพล นำเมนูในร้านไปลงในไลน์หมู่บ้านที่ไปซื้อไว้ มีคนโทรมาสั่ง ก็ไปส่งให้ ปรากฏ รปภ. ถาม ไม่กลัวเหรอ บ้านนี้มีคนป่วยโควิดนะ ลูกสาว บอกไม่กลัว นำกับข้าวที่สั่งไปแขวนให้หน้าประตู แล้วเขาโอนเงินให้ วันที่สองก็สั่งอีก ถึงได้รู้ว่าคนสั่งนั้น นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล แต่มีลูกน้อยอยู่บ้านกับพ่อกับแม่ที่แก่แล้ว ลูกสาว เลยบอกไปว่า ถ้ายากได้อะไรนอกเหนือจากอาหารที่ร้านบอกได้ เดี๋ยวจะไปซื้อมาส่งให้” เจ๊จง ยกตัวอย่างน่าชื่นชม

ก่อนบอกอีกว่า วิกฤตแบบนี้ ถ้าไม่รู้จักช่วยกัน แบ่งปันกัน ไม่รอดหรอก อย่าเอาตัวรอดคนเดียว มันเป็นไปไม่ได้ ท่ามกลางวิกฤตอะไรก็แล้วแต่ ถ้ารู้จักลุกขึ้นมาแล้วใช้สติ ช่วยเหลือกัน เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไปได้

“เข้าใจหัวอกคนค้าขาย โคตรสงสารเลย ตัวเจ๊จง ยังขนาดนี้ แต่บางคน เขาต้องกู้ ต้องจ่ายดอกรายวัน พวกนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับแน่นอน พวกร้านอาหารกลางคืน นักร้อง เด็กเสิร์ฟ น่าสงสารมาก อยากให้รัฐบาล ออกมามองคนกลุ่มนี้ ให้ลึกซึ้งกว่านี้ ว่าเขาลำบากกันขนาดไหน” เจ๊จง ฝากทิ้งท้าย