ธุรกิจร้านอาหาร กำลังหมดลมหายใจ ขอนายกฯเยียวยา 8 เรื่องเร่งด่วน

ธุรกิจร้านอาหาร กำลังหมดลมหายใจ ขอนายกฯเยียวยา 8 เรื่องเร่งด่วน
ธุรกิจร้านอาหาร กำลังหมดลมหายใจ ขอนายกฯเยียวยา 8 เรื่องเร่งด่วน

ธุรกิจร้านอาหาร กำลังหมดลมหายใจ ขอนายกฯเยียวยา 8 เรื่องเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. คุณสรเทพ โรจน์พจนารัช ตัวแทนชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เรื่อง ขอพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารโดยเร่งด่วน เนื่องจากร้านอาหารจำนวนมาก กำลังหมดลมหายใจ โดยระบุว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบที่ 3 นายกฯ มีคำสั่งให้งดรับประทานอาหารในร้านตั้งแต่วันที่ 1-14 พ.ค.นี้ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารเป็นจำนวนมากที่ไม่สามารถขายในรูปแบบออนไลน์ได้ ตั้งแต่ร้านเล็กๆ ไปจนถึงภัตตาคารร้านอาหารใหญ่ๆ

โดยที่รัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาใดๆ ออกมา และถึงมีมาตรการช่วยเหลือออกมาบางส่วน ก็ยังไม่ตรงกับความต้องการ ที่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารได้ ซึ่งคำสั่งของนายกฯ ในครั้งนี้ ทำให้ร้านอาหารจำนวนมากต้องปิดกิจการลง

ทางชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล เข้ามาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน ตาม 8 ข้อ เรียกร้องดังนี้ 1. ให้ประกันสังคมอนุมัติจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประกันตนทุกตำแหน่งของธุรกิจร้านอาหาร 50 เปอร์เซ็นต์ ของฐานเงินเดือน 15,000 บาท เป็นเวลาสองเดือนโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข 2. งดจัดเก็บภาษีนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาสำหรับธุรกิจร้านอาหารในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยืดระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มออกไป 6 เดือนตั้งแต่เดือน พ.ค. 2564

3. ให้ธนาคารแห่งชาติ ประกาศให้สถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งบริษัทลิสซิ่ง พักชำระเงินต้น เป็นเวลา 1 ปี และผ่อนผันการชำระดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน โดยทันที ตั้งแต่เดือน พ.ค. 64 นี้เป็นต้นไป 4. ให้รัฐบาลประสานงานเจ้าของห้างสรรพสินค้า สถานที่เช่าต่างๆ ให้ลดค่าเช่าอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งเจ้าของที่ดินและบุคคลทั่วไปที่ให้ร้านอาหารเช่า สามารถนำส่วนลดไปลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลในรอบบัญชีถัดไป

5. ให้รัฐบาลรีบอนุมัติเงินกู้ เพื่อเสริมสภาพคล่องและประคับประคองธุรกิจร้านอาหาร โดยสามารถยื่นขอสินเชื่อได้อย่างง่าย โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันผ่านธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย, SME Bank สำหรับลูกหนี้รายใหม่และรายเก่าให้สามารถกู้เพิ่มได้ทันที

6. ให้รัฐบาลนำเรื่อง การเก็บเปอร์เซ็นต์จากแอพพลิเคชั่นส่งอาหารและสั่งอาหาร ขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตอนนี้ร้านอาหารเป็นจำนวนมาก ต้องกล้ำกลืนกับบริษัทส่งอาหารและสั่งอาหารที่คิดค่าคอมมิชชั่นมากกว่า 25-35% มาเป็นเวลานาน และรัฐบาลยังไม่มีมาตรการหรือคำสั่งไปยังผู้ประกอบการเหล่านั้น ให้ปรับลดค่าคอมมิชชั่นลงมาได้ ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 รอบแรก จึงขอให้รัฐบาลจัดการเรื่องนี้โดยเร่งด่วน

7. ขอให้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรโควต้าวัคซีนให้กับภาคธุรกิจร้านอาหารโดยเร่งด่วน โดยให้สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ ภายในเดือน พ.ค. นี้เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องการสร้างความมั่นใจในเชิงจิตวิทยา ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจร้านอาหารสามารถกลับมาขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

8. ขอให้รัฐบาลอนุมัติให้ร้านอาหารที่เป็นนิติบุคคล สามารถเข้าร่วมโครงการของทางรัฐบาลที่ออกมาได้ เช่น โครงการไทยชนะ, โครงการเราชนะ, โครงการม.33, โครงการคนละครึ่ง