เดือดร้อนหนักทุกวงการ อยากให้รัฐบาล หาคนวางกลยุทธ์สนับสนุนเกษตรกรได้จริง

คุณแนน-วราภรณ์ มงคลแพทย์ ทายาทกิจการ บ้านหมากม่วง สวนมะม่วง 250 ไร่  อยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นสวนที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ในการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เชิงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสามระลอก ว่า เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงที่เดือดร้อนหนัก มักเป็นรายที่ทำสเกลใหญ่แบบสวนของเธอ เพราะหากเป็นสวนแปลงเล็ก น่าจะเคลียร์ของได้ไม่ยากมาก ไม่นานก็หมด หรือขาดทุนคงไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับแปลงใหญ่ ที่มีผลผลิตเป็นแสนลูก น้ำหนักหลายสิบตัน อาจไม่รู้จะขนไปขายที่ไหน ถ้าเจ๊งก็หนักเลย

ซึ่งที่ผ่านมา เธอพยายามคิดแคมเปญ คิดโปรโมชั่น ที่น่าจะโดนใจและสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตของเธอได้บ้าง เช่น แคมเปญ 30 บาท รักษาทุกลูก คือ ขายปลีกมะม่วงน้ำดอกไม้ในราคาลูกละ 30 บาท จัดส่งให้ทั่วประเทศ และมี โปรโมชั่น สำหรับคนมีหน้าตาทางสังคม เน้นแจก ไม่เน้นกินเอง เป็นต้น

ข่าวเกี่ยวข้อง : จริงๆ แล้วก็รากเลือด ไม่เคยได้รับการเยียวยาอะไร พยายามสู้ด้วยตัวเองทุกอย่าง

“วิธีมองตลาด บางครั้งอาจต้องหามุมมองที่ฉีกออกไป ถ้าอยากขายมะม่วงให้ได้บิลละหนึ่งร้อยลูก คงยาก ถ้าคิดว่าเขาจะซื้อไปกิน เพราะมะม่วงร้อยลูก คงไม่มีใครกินหมด แต่ถ้าคิดว่า เขาจะซื้อไปแจก แล้วคิด  โปรโมชั่นสำหรับกลุ่มนี้ขึ้นมา จะขายได้จำนวน และในความเป็นจริง มีลูกค้ากลุ่มซื้อไปแจกเยอะพอสมควรด้วย” คุณแนน เผยให้ฟัง

 

เมื่อถามว่า อยากสะท้อนข้อมูลผลกระทบที่ได้รับ ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการอย่างเธอบ้างหรือไม่ คุณแนน บอก

“เสียงเราจะไปถึงเขาจริงหรือคะ ถ้าไปถึง อยากให้รัฐบาล มองหาคนวางกลยุทธ์ที่สนับสนุนเกษตรกรได้จริงๆ คือ ประเทศไทย ยังมีหนทางนะ ดูอย่างตัวเลขส่งออกทุเรียนสิ มีแต่เพิ่มขึ้น ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะหาวิธีการ หาตลาด สนับสนุนเกษตรกรให้ไปต่อได้ดีมากน้อยแค่ไหน”

“อย่าง วงการมะม่วง หรือวงการทุเรียน ต่อให้เพื่อนบ้านมีการขยายพื้นที่ปลูกมากแค่ไหน ไม่มีทางทำลายแบรนดิ้ง ความอร่อยมากของมะม่วงไทย หรือ ทุเรียนไทย ได้แน่นอน ไม่มีทางโค่นเราได้ ดังนั้นคนที่มีหน้าที่บริหาร ไม่อยากให้ลืมว่าประเทศไทยมีสิ่งเหล่านี้อยู่ ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงมาก อยากให้พยายามใช้มันให้เป็นประโยชน์ในตลาดโลก เพื่อที่จะสนับสนุนเกษตรกรได้เป็นวงกว้าง ทำราคาผลผลิตของเราให้สูงขึ้นด้วย” คุณแนน อธิบายเห็นภาพ

และว่า แต่ที่ผ่านมา เธอไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นแคมเปญอะไร ที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ขณะที่ภาคเอกชนต้องพยายามดิ้นรนไปหาตลาดกันเอาเอง

“ผู้บริหาร อาจจะทำอยู่ก็ได้ แต่ตัวเองยังไม่เคยเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ที่สามารถทำให้เป็นกระแส ยกตัวอย่าง วงการมะม่วง ยังไม่เคยเห็น กระทรวงเกษตรฯ ไปทำละครส่งเสริมการทานมะม่วงในฤดูกาลนั้น ขณะที่หลายประเทศ อย่าง ญี่ปุ่น ยังมีแคมเปญทำนองนี้เลย เพราะแคมเปญสร้างสรรค์ สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าผลไม้นั้นๆได้จริง เลยคิดว่า ประเทศเรา ยังขาดแคลนนักวางกลยุทธ์ในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ เรื่องการสื่อสารของแบรนด์” คุณแนน จบบทสนทนา ไว้แค่นั้น