โควิดยังขายได้ หอมละเอย แบรนด์เครื่องหอมของหนุ่มวิศวะ ธุรกิจไปต่อยุคไวรัสระบาด

โควิดยังขายได้ หอมละเอย แบรนด์เครื่องหอมของหนุ่มวิศวะ ธุรกิจไปต่อยุคไวรัสระบาด

เพราะความหอม เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรดีๆ มากมาย เราจึงเชื่อว่า เพราะกลิ่นที่ดี…สร้างสิ่งที่ดีเสมอ” สโลแกนสุดแสนเรียบง่าย แต่สื่อสารตรงตัว ที่ คุณกรัณย์ วนะภูติ วัย 34 ปี เจ้าของ หอม-ละ-เอย (HOM-LA-OEI) แบรนด์เครื่องหอมไทย สุดแสนภูมิใจในการนำเสนอกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ และผู้ที่ชื่นชอบเครื่องหอมประดับบ้าน

คุณกรัณย์ เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำธุรกิจเครื่องหอม ตนผ่านงานมาหลากหลาย ทั้ง ค้าขาย ทำเต็นท์ขายรถ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำงานดูแลการตลาดออนไลน์ รวมถึงการทำการเกษตรอย่าง ทำนา ก็ด้วย

คุณกรัณย์ วนะภูติ วัย 34 ปี เจ้าของ หอม-ละ-เอย ( HOM-LA-OEI )
คุณกรัณย์ วนะภูติ วัย 34 ปี เจ้าของ หอม-ละ-เอย (HOM-LA-OEI)

“จริงๆ ผมเรียนจบวิศวะไฟฟ้า แต่ไม่ได้ทำงานตามสายที่จบมาหรอกครับ แต่ผมชอบค้าขาย แล้วก็ทำอย่างอื่นอีกหลากหลาย มีทำอสังหาฯ ร่วมกับพี่ชายที่ชลบุรีด้วย แต่ก็กลับบ้านเกิดที่ฉะเชิงเทรา เพราะพ่อแม่อายุเยอะแล้ว ก็กลับไปดูแลท่านแล้วให้พี่ชายดูแลธุรกิจต่อ พอกลับมาแล้วก็ตามประสาคนทำงาน มันว่างไม่ค่อยได้ ก็ทำเกษตร ทำนาที่บ้าน มีรับดูการตลาดออนไลน์บ้างแต่ไม่เยอะ”

“ด้วยความที่ผมชอบเครื่องหอมอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ก็อยากทำพวกเครื่องหอมขาย แต่ผมไม่ชอบอะไรที่เหมือนคนอื่น แล้วจากที่ลองซื้อใช้มา ไม่ว่าจะเกรดขึ้นห้าง หรือที่วางขายตามตลาดนัด ผมรู้สึกว่า มันยังพัฒนาได้อีก และมันมีช่องที่ผมสามารถลองลงมาทำได้ ก็ศึกษาตลาด ศึกษาเรื่องส่วนผสม ก็เห็นว่าคู่แข่งมันมี แต่ไม่เยอะมาก แล้วสมัยนั้นยังไม่มีเจ้าที่ทำเครื่องหอมเจ้าไหน เข้ามาขายในออนไลน์เลย เพราะธุรกิจนี้มันเกี่ยวกับความชอบ เป็นของที่ต้องดม ผมก็ทำธุรกิจ เห็นอะไรมาพอสมควร เลยตัดสินใจว่า จะไม่เอาเข้าห้าง จะไม่มีหน้าร้าน เน้นขายออนไลน์อย่างเดียว ดีตรงที่เราสามารถตัดเรื่องค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงานประจำร้านออกไปได้ เพราะของผมเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ไม่ต้องจ้างคนเยอะ” คุณกรัณย์ เล่า

แต่ก็ไม่ได้ทิ้งออฟไลน์หรือหน้าร้านไปเสียทีเดียว คุณกรัณย์ เล่าว่า แม้จะเน้นขายออนไลน์ แต่ช่วงแรกๆ ที่แบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จัก เขาก็ต้องออกบู๊ธตามงานจัดแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะของภาครัฐ หรือเอกชนจัดขึ้น เพื่อหาลูกค้าและทำให้เขารู้จักแบรนด์ หอม-ละ-เอย อีกทั้งเป็นการลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลว่า ลูกค้าชอบกลิ่นแบบไหนกันบ้าง เพื่อนำมาพัฒนาผลิตสินค้าขายจริง

“จุดเด่นของเราที่ต่างจากเจ้าอื่น ถ้าในสมัยก่อนจะเป็นเรื่องการขายออนไลน์ แต่ปัจจุบันมีคนเข้ามาเล่นแบบผมเยอะขึ้น ดังนั้น คุณภาพของกลิ่น จึงทำให้เราต่างและอยู่มาได้ถึง 5 ปี ของผมมีกลิ่นทั้งหมด 14 กลิ่น ที่เป็นกลิ่นหลักๆ และมีกลิ่นพิเศษออกมาตามเทศกาล อย่างวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก็ออกกลิ่นกุหลาบที่ผสานด้วยกลิ่นดอกไม้และสมุนไพรอีก 7 ชนิด อันนั้นได้รับผลตอบรับจากลูกค้าดีมากจนต้องผลิตเพิ่ม” คุณกรัณย์ ว่าอย่างนั้น

นอกจากจะได้รับผลตอบรับที่ดี จากผู้บริโภคจนมีตัวแทนขายทั่วประเทศแล้ว หอม-ละ-เอย ของคุณกรัณย์ ก็หอมโดนใจชาวต่างชาติ จนมีการผลิตส่งออกเหมือนกัน

“มีส่งออกครับ แต่ไม่ใช่ล็อตใหญ่มาก ก็ส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ลาว พม่า แล้วก็มีคนสั่งแล้วหิ้วไปขายยุโรปก็มีครับ ฝั่งจีนกับฮ่องกง จะชอบกลิ่นมะม่วง-ส้มเขียวหวานกัน เดือนๆ หนึ่งเฉลี่ยก็ตกเดือนละ 7 หลักกว่าๆ แต่ช่วงนี้โควิดก็จะติดขัดนิดหน่อย แต่ไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะผมไม่มีหน้าร้านที่ต้องแบก แถมคนอยู่บ้านกันมากขึ้น เขาก็จะเข้ามาสั่งออนไลน์ไปใช้ สร้างบรรยากาศดีๆ ในบ้านกัน” คุณกรัณย์ ว่าอย่างนั้น

โดยกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร แถมขายดีตลอดกาลของแบรนด์ คือ กลิ่นหอมหมื่นลี้ ที่คุณกรัณย์ บอกว่า ไม่ค่อยมีเจ้าไหนทำขาย เพราะต้นทุนในการทำกลิ่นนี้ค่อนข้างสูง นอกจากนั้นก็จะเป็น กลิ่นฝน และ กลิ่นลูกอม ที่คนนิยมสั่งซื้อกัน วัดได้จากโพลกลิ่นขายดี ที่มีชื่อของ 3 กลิ่นนี้ติดมาแทบทุกเดือน

เครื่องหอมของ หอม-ละ-เอย มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ 2 ราคา คือ ก้านไม้หอม และ ถุงหอม จะจำหน่ายในราคา 285 บาท และ สเปรย์หอมปรับอากาศ จำหน่ายราคา 350 บาท

สามารถดูกลิ่นและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หอมละเอย และ โทร. (061) 951-4294