อยากขายข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด ต้องเริ่มยังไง แม่ค้าใจดีบอกให้

อยากขายข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด ต้องเริ่มยังไง แม่ค้าใจดีบอกให้
อยากขายข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด ต้องเริ่มยังไง แม่ค้าใจดีบอกให้

อยากขายข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด ต้องเริ่มยังไง แม่ค้าใจดีบอกให้

“ทำข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด ขาย 30 บาทต่อกล่อง กำไรพอใช้ได้นะ แต่งานค่อนข้างจุกจิก ไหนจะทำแป้ง ผัดไส้ เจียวกระเทียม ทำน้ำกะทิราด” คุณโบ-มยุรี ดีเสมอ  วัย 50 ปีเศษ เจ้าของกิจการ ช้าวเกรียบปากหม้อ/สาคู ราดหน้ากะทิสด เจ้าเก่าหน้าร้านป้าระเบียบ ย่านดอนเมือง บอก เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มาอย่างนั้น

ก่อนเล่าต่อ อาชีพนี้จะว่ายากก็ยาก ขั้นตอนการทำทุกอย่างต้องตามอัตราส่วนสูตรของคุณแม่ของเธอ ซึ่งถามว่าเป็นความลับมั้ย ก็ไม่ลับ แต่ที่ผ่านมาบอกไปไม่ค่อยมีใครทำได้เหมือนที่เธอทำ  อย่าง เคยขายแป้ง ขายไส้  ให้ข้าราชการเกษียณคนหนึ่งไปทำขาย  แต่พอแคะออกมาไม่เหมือน เลยสรุปเอาเอง การแคะต้องมีเทคนิค ความชำนาญ เพราะแป้งที่ขายอยู่ ค่อนข้างนิ่ม ไม่ยืด  เพราะเป็นแป้งโม่สด ไม่ใช่แป้งสำเร็จรูป

ข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด

“ก่อนหน้านี้มีคนให้สอนนะ เลยบอกไปว่า มาซื้อแป้ง ซื้อไส้ จากเราไปเลย ไม่ต้องทำเองหรอก เพราะมือใหม่ อาจยากเกินไปจนท้อ ราคาที่ขายอยู่ปัจจุบัน แป้งข้าวเกรียบปากหม้อ ขายกิโลละ 140 บาท ไส้ กิโลละ 180 บาท ทำออกมาได้เกิน 20 กล่องแน่นอน” คุณโบ ให้ข้อมูล

คุณโบ-มยุรี ดีเสมอ

ส่วนอุปกรณ์หลักการทำข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู นั้น คุณโบ บอก ใช้หม้อนึ่งข้าวเหนียวนำมาขึงปากหม้อ ด้วยผ้าโทเร ที่ไม่หนามาก และไม่บางมาก ใช้ผ้าขาวบางไม่ได้ ไม่งั้นน้ำแป้งทะลุลงหม้อหมด เมื่อขึงผ้าได้แล้ว ให้เจาะรูผ้าด้านริมปากหม้อนั้นเล็กน้อย เพื่อให้ไอน้ำพุ่งขึ้นมาได้ รวมค่าวัตถุดิบในการทำแต่ละวัน เงินทุนสำหรับค้าขายนี้ น่าจะอยู่ที่หลักพันเท่านั้น

ทำยังไงถึงมีคนอุดหนุนตั้งแต่รุ่นแม่ถึงรุ่นลูก คุณโบ บอก ต้องรักษามาตรฐาน ของแพงยังต้องใช้ บางครั้งผักชีกิโลละ 300-400 บาท ต้องกัดฟัน พริกขี้หนูสวนกิโลละ 300 บาท ต้องใช้ แต่ถ้าผักแพงมาก คำนวณแล้วไม่คุ้ม ให้หยุดขายไปเลย

อาชีพเล็กๆ ทำได้คนเดียว ข้าวเกรียบปากหม้อ สาคู ราดกะทิสด ขายสาย บ่ายหมด

“เคยหยุดขายช่วงน้ำท่วมสวน ผักแพงมาก ผักกาดหอม ผักชี พริก แพงพร้อมกันเลย ผักชี จากโลละ 25 บาท ขึ้นเป็น 300 บาท หยุดขายเลย ลูกค้าเข้าใจ บางคนบอกมาขายเถอะ ไม่เอาผักก็ได้ ใส่น้อยหน่อยก็ได้ ขึ้นราคาก็ได้ แต่เราทำไม่ได้ไง แพงด้วย ไม่สวยด้วย เรากินไม่ได้ ลูกค้าคงไม่ต่างกัน” คุณโบ บอกส่งท้าย