ไม่กั๊ก ไม่อาย นักจัดดอกไม้ไฮเอนด์ ขยันทำกิน แตกไลน์ขายน้ำพริก หารายได้เพิ่ม

โลดแล่นอยู่ในวงการนักจัดดอกไม้ มายาวนานไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีประสบการณ์เริ่มต้นจากโรงแรมห้าดาว ก่อนตัดสินใจออกมาเป็นฟรีแลนซ์ ศิลปินอิสระ รับงานจัดดอกไม้ให้กับสินค้า องค์กร หน่วยงาน บริษัท แบรนด์ชั้นนำระดับไฮเอนด์มาแล้ว…นับไม่ถ้วน

ปัจจุบันเป็นเจ้าของกิจการออนไลน์ ใช้ชื่อในไอจี ร้านดอกไม้โอฟลอริส ให้คำนิยามตัวเองไว้ เป็นร้านดอกไม้แนวศิลปะ เป็นตัวตนชัดเจนในทุกงาน

และยังบอกกับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ แบบหนักแน่น ด้วยว่า

“ร้านผม…ไม่ตามใจลูกค้า”

………..

“ชีวิตการทำงานของผม ไม่มีไอดอล ไม่มีต้นแบบ จะมองตัวเองเป็นหลัก อาจเป็นเพราะลำบากมาตั้งแต่เด็ก ต้องทำงานส่งเสียตัวเองเรียนตั้งแต่อยู่ ปวช. ปีสอง”

คุณโอ-สุวิชัย สุขโพธิ์ ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นเจ้าของกิจการ ร้านดอกไม้โอฟลอริส เริ่มต้นบทสนทนาด้วยอัธยาศัยกันเอง

ก่อนย้อนความเป็นมาให้รู้จักมากขึ้น พื้นเพเป็นคนกรุงเทพฯ เรียนจบมาทางด้านคหกรรมศาสตร์ แต่ด้วยความจำเป็นของครอบครัว ไม่สามารถส่งเสียให้เรียนได้ จึงต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ตั้งแต่อายุสิบกว่าๆ เริ่มจากสมัครเข้าคอร์สสำหรับนักเรียน ที่อยากได้ใบประกาศนียบัตรจากทางโรงแรม เพื่อใช้ในการเก็บคะแนน แต่ต้องมีการสัมภาษณ์ก่อนเข้าไปทำได้ ซึ่งมีหลายสถาบันการศึกษาอยากเข้าไปทำ แข่งขันกันเยอะ สมัครหลายร้อยคน รับแค่ 30 คน ซึ่งเขาสามารถติดอยู่ในนั้น

คุณโอ เล่าต่อ เขาใช้เวลาว่างตอนเย็นหลังเลิกเรียน และวันเสาร์-อาทิตย์ เข้าทำงานที่โรงแรมระดับห้าดาว ในตำแหน่งเด็กเสิร์ฟอยู่ประมาณสี่ปี ก่อนย้ายมาประจำห้องดอกไม้ อีกสามปี กระทั่งเรียนจบปริญญาตรี กระบวนการความคิดเปลี่ยนไป จากที่เคยอยากทำงานประจำมีเงินเดือน แต่คิดไปคิดมาถ้าทำอยู่กับที่อนาคตคงอยู่แค่นั้น เลยฉีกกฎ ลาออกมาเป็นนักจัดดอกไม้ฟรีแลนซ์

เจ้าของเรื่องราวท่านเดิม บอกด้วยว่า การเป็นฟรีแลนซ์ แน่นอนว่ารายได้ดีกว่าเงินเดือนประจำ แต่ต้องอาศัยเวลา ให้ผลงานเป็นตัวนำพาให้เติบโตทีละขั้น กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน เห็นผลงานแล้วเอ็นดู และหยิบยื่นโอกาสดีๆ ให้ ที่ผ่านมามีผลงานไปจัดดอกไม้ตามสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง โครงการบ้านตัวอย่างระดับไฮเอนด์ บู๊ธเครื่องสำอางแบรนด์ดังแบรนด์ระดับโลก

“ผมโชคดีที่มีประสบการณ์หลากหลาย ทำให้มีโลกทัศน์กว้าง สามารถนำมาปรับเข้ากับการทำงานในแบบเราเอง และตกผลึกความคิดได้ว่า ถ้าคิดจะก๊อบปี้งานใคร โอกาสโตมันช้า ต้องฉีกแนวไปเลย” คุณโอ ว่าอย่างนั้น

นึกสงสัย แล้วเอกลักษณ์ของร้านดอกไม้โอฟลอริส คืออะไร เจ้าตัวบอก สไตล์การจัดดอกไม้หน้าหีบศพ จะออกแนวจังเกิ้ล (Jungle) หรือแนวป่าๆ หน่อย ซึ่งแนวนี้ไม่ใช่เทรนด์ แต่อยากฉีกกฎชาวบ้าน เพราะถ้าจะให้ทำตามๆ กัน เหมือนลดคุณค่าตัวเองลง ที่จะต้องลอกงานคนอื่น

“อีกหนึ่งตัวอย่าง พวงหรีด ทรงยาวๆ ตอนแรกขายยากมาก ผมทำตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แต่มาได้รับความนิยมช่วงห้าปีหลังมานี้ ผมมองว่าถ้าทำแบบเดิมๆ ขายของแบบเดียวกับที่อื่น ขายยาก ไปทำซ้ำกับชาวบ้านเขา งานจะไม่เดิน แต่ถ้าสร้างความแตกต่าง มูฟออน ออกมาเลย ให้งานโดดเด่น คนซื้อจะบอกต่อกัน ถ้าอยากได้หรีดทรงนี้ ต้องไปร้านนี้” คุณโอ เผยเหตุผลที่ต้องต่าง

แล้วถ้าอยากแตกต่าง ต้องเริ่มยังไง คุณโอ บอก

“ผมใช้วิธีซื้อใจลูกค้า อย่าง เมื่อก่อนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งสั่งพวงหรีดผม เลขาเขาโทรมาบอก นายเขาไม่โอเค มันดูไม่สุภาพ ผมบอกไปว่างานนี้ ผมขออนุญาตทำในแบบของผมนะ ถ้าไม่ดี งานหน้าไม่ต้องจ้างผมอีกเลย เพราะนายคุณจะไปงานนี้ใช่มั้ย ที่ผ่านมาอาจเห็นแต่รูปเลยคิดว่ามันเหมาะ สุดท้ายนายเขาไปงานศพนั้น พอกลับมาสั่งเลขาเขาเลยว่า ต่อไปเอาแบบนี้ตลอดนะ ไม่เอาแบบกลมๆ แล้ว”

และว่า

“ถ้าจะต่าง ก็เสี่ยงเหมือนกัน แต่จะให้ทำแบบคนอื่นทำ ไม่ทำ มันเหมือนการลงทุน ถ้าไม่ลงทุน ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ ทุกอย่างต้องมีความเสี่ยง”

ชวนคุยต่อ ถึงหลักยึดในการทำงาน คุณโอ บอกว่า มีกฎ-กติกา-มารยาท สำหรับการทำธุรกิจในแบบของเขา คือ ลูกค้าไม่มีสิทธิ์เลือก อย่างพวงหรีด หน้าที่ของลูกค้ามีแค่ เลือกโครงสร้าง และ สี แต่ถ้าจะมาเลือกว่าจะใช้ดอกไม้ชนิดนั้น ชนิดนี้ เชิญไปร้านอื่น เพราะเขาไม่มีนโยบายตามใจลูกค้า

“พวงหรีด มีให้เลือก 6 แบบ คือ ยาว เหลี่ยม พัด กลม รี และ พัดลม มีสามไซซ์ราคา 16/18/24 นิ้ว จะแจ้งราคาให้ทราบ จากนั้นส่งลิงก์ไอจีไปให้ว่า งานที่สั่งจะประมาณนี้ แต่ถ้าจะมาระบุจะเอาดอกไม้นั่นนี่ ผมไม่รับ เชิญที่อื่นครับ” คุณโอ บอกจริงจัง

ก่อนขยายความว่า การตามใจลูกค้า ทำให้ทำงานยาก สมมติ ลูกค้าจะเอาพวงหรีดที่มีดอกลิลลี่ ขณะที่ลิลลี่กำละสี่ร้อยบาท กำหนึ่งมีเจ็ดดอก แต่พวงหรีดใช้แค่สามดอก ที่เหลือจะขายให้ใคร ถ้าเราตามใจลูกค้าทั้งหมด ที่ผ่านมาร้านของเพื่อนรุ่นน้อง 4-5 ร้าน ปิดกิจการไปกันหมดแล้ว เพราะการตามใจลูกค้านี่แหละ

“ตามใจลูกค้า ไม่มีขั้นต่ำในการสั่ง 200 หรือ 300 บาท ทำให้หมด แบบนี้ร้านดอกไม้อยู่ไม่ได้ ลงของเท่านี้ งานที่รับงานแรก ต้องคืนทุนแล้ว ที่เหลือคือกำไร ขายไม่ได้ ทิ้งก็ไม่ขาดทุน แต่บางคนซื้อของมาแบบ ลูกค้า ที่เหลือยังขายไม่ได้ต้องทิ้งแล้ว ทุนไม่คืนเลย แบบนี้ไม่มีทางรอด” คุณโอ อธิบายเห็นภาพ

และบอกอีกว่า ธุรกิจทั่วไป อาจต้องยึดหลักตามใจลูกค้า เพราะลูกค้า คือ พระเจ้า แต่สำหรับเขา มองว่าทุกคน ต้องมีกฎของตัวเอง

“คุณอยากได้ของสวย คุณมาหาเราได้ แต่คุณห้ามเลือก เพราะผมทำงานเต็มที่ จัดเสร็จถ่ายรูปส่ง ถ้าพอใจแล้ว ค่อยออกไปส่ง ไม่ใช่อยู่ดีๆ ทำไป แบบไหนก็ไม่รู้ แล้วส่งเลย แบบนั้นไม่ใช่” คุณโอ บอกจริงจัง

ทราบมาว่า ทุกวันนี้ คุณโอทำงานแบบฉายเดี่ยว เจ้าของเรื่องราว ยิ้มน้อยๆ คล้ายกับจะบอก ทำเอง ส่งเอง นักเลงพอ

“ผมไม่เน้นปริมาณมาก ถ้ามีงานอีเว้นต์เข้ามา จะจ้างผู้ช่วยเป็นงานๆ ไป ส่วนพวก กระเช้าดอกไม้ หรือ พวงหรีด ผมไปส่งเองหมด โดยต่อวัน รับได้ไม่เกิน 5 รายการ”

แปลกใจ ทำไมเจ้าของร้าน ต้องออกไปส่งเอง คุณโอ แจงว่า

“หนึ่ง กันความเสียหาย สอง กันความผิดพลาด บางทีเจอเหตุไม่คาดคิด ชื่อคนเสียเหมือนกัน แต่ลูกค้าไม่ให้นามสกุลมา แล้วจะทำยังไง บางทีบอกให้ส่งหรีดศาลานี้ แต่มีการย้ายศาลา โดยลูกค้าไม่รู้ คนส่งก็ไม่รู้ แต่ถ้าไปส่งเอง จะดูชื่อบอร์ดกับศาลาให้ตรงกัน ผมทำแบบนี้มาตลอดสิบปี”

สนทนากันอย่างออกรส แลกเปลี่ยนความเห็นกันหลายเรื่อง กระทั่งคุณโอ นึกขึ้นมาได้

“ทุกวันนี้ผมไม่ได้ขายแค่ดอกไม้อย่างเดียวนะ ผมขายปลาแซลมอน ขายปลาสลิด ขายน้ำพริกด้วย ผมขายทุกอย่าง ไม่กั๊ก ไม่ต้องไปอายลูกค้า ผมแท็กไปหมดเลย ใครที่รู้จัก ฝากด้วยนะครับ บอกไปครั้งเดียว ถ้าไม่ตอบกลับ คือ หยุด ไม่ตาม แล้วก็ขายในไอจี ประชาสัมพันธ์แบบออฟไลน์ มีไลน์ลูกค้า 500 คน ยิงสปอตโฆษณาทีเดียวเลย”

คุณโอ บอกอีกว่า การแตกไลน์ขายสินค้าอื่น นอกจากรับจัดดอกไม้ ไม่ใช่เพราะว่าง แต่เพราะเห็นช่องทางไป เลยหยิบอะไรที่ขายได้ มาขายให้หมด เหมือนเป็นการสร้างคอลเล็กชั่นของตัวเอง

“มองตัวเองเป็นแบรนด์เนม อันหนึ่ง ถ้าทำอะไรออกมา ลูกค้าจะต้องอยากซื้อ ไม่ได้ซื้อเพราะว่าความอร่อย แต่ซื้อเพราะความเป็นเรา ผมขายของดี แต่ราคาไม่โอเวอร์ สำหรับของกิน เน้นขายปริมาณ ไม่เอากำไรมาก แต่ถ้าเป็นงานศิลปะขายแพงหมด เพราะทุกอย่างมันออกมาจากหัว” คุณโอ ว่าอย่างนั้น

ก่อนจากกัน ขอให้ฝาก 5 ข้อ How to สู่การเป็นนักจัดดอกไม้มืออาชีพ คุณโอ สรุปให้แบบกระชับ

หนึ่ง ต้องขยัน สอง ต้องตรงเวลา สาม ต้องมีแรงบันดาลใจของตัวเอง ไม่ยึดลอกแบบจากคนอื่น สี่ เป็นคน อารมณ์ไม่ขึ้น-ไม่ลง ไม่เหวี่ยง กับลูกน้อง หรือใครก็ตาม ห้า ไม่ส่องชาวบ้านเยอะ ถ้าส่องแล้วมีผลกระทบกับชีวิต ส่องไปแล้วเห็นเขาขายดี แต่เราขายไม่ได้ ก็จะนอยด์ อย่ามัวแต่ส่อง เอาเวลาไปสร้างเอกลักษณ์ตัวเองดีกว่า

“อ้อ!!! อีกอันที่สำคัญมาก ต้อง กตัญญู ด้วย ใครที่มีบุญคุณกับเรา อย่าลืมเชียว”

“เพราะความกตัญญู นี่แหละ ทำให้ผมมีทุกวันนี้” คุณโอ ฝากทิ้งท้าย

——————————————————-

อีกหนึ่งผลงานภาคภูมิใจ

คุณโอ-สุวิชัย สุขโพธิ์ เจ้าของกิจการ ร้านดอกไม้โอฟลอริส เผยความรู้สึกเมื่อครั้งได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการจัดดอกไม้ในงานสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 7 คืน และระหว่างการบรรจุไว้ 100 วัน ของ คุณฐากูร บุนปาน รองประธานคณะกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ภายในศาลาวัดเสมียนนารี เขตจตุจักร ที่ผ่านมา ว่า เป็นงานที่ค่อนข้างเครียดเลยทีเดียว เพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่มากมายหลายท่านมาร่วมงาน แต่สิ่งที่คิด คือ ต้องทำให้ดีที่สุดกับเวลาที่กระชั้นชิด ยอมรับว่าวันแรกที่จัด ไม่ค่อยพอใจผลงานตัวเองเท่าไร เพราะมีเวลาน้อยมาก และมีแบบที่กำหนดมาให้ แต่ด้วยข้อจำกัดของสถานที่และพื้นที่ จึงเรียนทางเจ้าภาพ ขออนุญาตจัดใหม่ทั้งหมด ผลงานที่ออกมาในครั้งแรก มีความวิตกกังวลมาก แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี

จนมาถึงการจัดดอกไม้ รอบ 2 คือ ช่วงระหว่างบรรจุไว้ 100 วัน มีเวลาในการเตรียมงานมากขึ้น จึงเลือกใช้ดอกไม้ประดิษฐ์ และปรับองค์ประกอบใหม่ทั้งหมด ทำให้งานรอบนี้ ได้ทำงานสวยเต็มร้อย เพราะทุกอย่าง ไม่ต้องเคลื่อนย้ายเหมือนครั้งแรก ทำให้เห็นองค์ประกอบในการจัดลงพื้นที่อย่างสวยงาม ส่วนแนวความคิดในการจัดมาจากตัวเขาเอง ที่เป็นคนชอบจัดดอกไม้ไม่เหมือนใคร และกระถางแต่ละชุดไม่จัดซ้ำกัน แต่ให้งานล้อกันไปอย่างสมดุล เป็นการจัดแนวธรรมชาติ ที่คนมองแล้วไม่ทุกข์ มีความสุข เหมือนมางานมงคลงานหนึ่ง

“การทำงานนอกแบบ ย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ตัวเองเป็นคนทำอะไรแล้วต้องให้ดีที่สุด เป็นงานศิลปะที่ทำมาจากใจ อยากให้มีความสุขทั้งคนที่ยังอยู่และผู้วายชนม์ อยากให้ทุกคนจดจำและบอกว่า ดอกไม้งานพี่โต้ง สวยมาก” คุณโอ บอกไว้อย่างนั้น