สุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ชายผู้ก่อตั้ง Hungry Hub แพลตฟอร์มทางรอดร้านอาหารยุคโควิด

เปิดประวัติ คุณสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ชายผู้ก่อตั้ง Hungry Hub แพลตฟอร์มทางรอดร้านอาหารยุคโควิด
เปิดประวัติ คุณสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ชายผู้ก่อตั้ง Hungry Hub แพลตฟอร์มทางรอดร้านอาหารยุคโควิด

เปิดประวัติ คุณสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ชายผู้ก่อตั้ง Hungry Hub แพลตฟอร์มทางรอดร้านอาหารยุคโควิด

หากใครยังจำได้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เคยนำเสนอเรื่องราวของ Hungry Hub แพลตฟอร์มหนึ่ง ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการช่วยเหลือบรรดาร้านอาหาร ทั้งในโรงแรมหรือร้านเล็กๆในการเรียกลูกค้า ทำยอดขาย ส่วนทางด้านลูกค้าก็จะได้โปรโมชั่นสุดพิเศษ หากทำการจองร้านอาหารผ่านแพลตฟอร์ม (อ่านเรื่องราวก่อนหน้า คลิก)วันนี้ เราจะมาเปิดโปรไฟล์ของ คุณสิทธิ์ ผู้คิดค้นแพลตฟอร์มนี้กัน

คุณสิทธิ์ หรือ คุณสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ CEO และ ผู้ร่วมก่อตั้ง Hungry Hub วัย 31 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขา Business Information Systems จาก University of Wollongong ประเทศออสเตรเลีย และ ปริญญาโทบริหารธุรกิจสาขาการเป็นผู้ประกอบการและการเงินจาก สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) อีกทั้งเคยไปแลกเปลี่ยนที่ Wharton Business School ประเทศสหรัฐอเมริกา

นอกจากนั้น คุณสิทธิ์ยังเป็น 1 ใน 4 ตัวแทนของประเทศไทย ในการประชุมสุดยอดผู้ประกอบการระดับโลกที่ซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งประธานาธิบดีโอบามา เป็นเจ้าภาพในปี 2016 อีกด้วย

คุณสิทธิ์ หรือ คุณสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ CEO และ ผู้ร่วมก่อตั้ง Hungry Hub

ก่อนที่จะมาเป็น CEO ของ Hungry Hub คงต้องเล่าย้อนไปถึงเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการของเขา ที่เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 17 ปี ด้วยการเขียนบล็อก Gadget ของตัวเอง ซึ่งสามารถสร้างรายได้ได้ถึง 1,000 เหรียญสหรัฐแรกจากโฆษณา Google เขาเข้าทำงานเต็มตัวครั้งแรกเมื่ออายุ 19 ปีที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประเทศไทย และได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปสิงคโปร์หลังจากนั้นเพียงหนึ่งปี

3 ปีต่อมา เขาได้ตัดสินใจเข้าสู่โลกแห่งสตาร์ตอัพ อย่างเต็มตัวด้วยประสบการณ์กว่า 7 ปีในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม บวกกับประสบการณ์อีกกว่า 10 ปีในสายงาน เทคโนโลยี ปัจจุบันคุณสุรสิทธิ์ดำรงตำแหน่ง CEO & Co-Founder ของ Hungry Hub โดยมีทีมพนักงานใต้การบริหารงานกว่า 30 คน ซึ่งมุ่งมั่นทำงานเพื่อช่วยร้านอาหารกว่า 400 ร้านในการเพิ่มยอดขายมาแล้วกว่า 500 ล้านบาท ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เป้าหมายของเขาคือการเป็นพันธมิตรทางการตลาดให้แก่ร้านอาหารในประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2021

ถือเป็นนักธุรกิจอีกหนึ่งราย ที่มีที่มาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว