อิ่มตัวชีวิตลูกจ้าง หันทำขนมขาย คำติ-ชม ของลูกค้า คือ พลังบวกให้เดินหน้า

อิ่มตัวชีวิตลูกจ้าง หันทำขนมขาย คำติ-ชม ของลูกค้า คือ พลังบวกให้เดินหน้า

ทุกคนมีความสามารถมากกว่าหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำความสามารถในแต่ละด้านมาสร้างประโยชน์ในทางใด บางคนเลือกให้เป็นงานอดิเรก บางคนนำมาเป็นอาชีพ เช่นเดียวกับ คุณอันติกา ทองอยู่ เจ้าของแบรนด์ สดุจตา ที่ชื่นชอบการทำขนมและเธอได้นำมาสร้างเป็นอาชีพเสริม

“เติบโตมากับครอบครัวที่ทำอาหารกินเอง พ่อกับแม่ทำกับข้าวเก่ง เราก็เหมือนซึมซับและได้รับการสอนมาด้วย จากนั้นเวลาอยากกินอะไร ชอบอะไรก็จะทำเอง ลองผิดลองถูกอยู่ในครัวนั่นละ เวลาที่คิดสูตรทดลองมันตื่นเต้นและสนุก”คุณอันติกา เริ่มอย่างนั้น

ก่อนเล่าต่อ จากความสนุกกับการทำกิน เริ่มก่อตัวเป็นอาชีพ ย้อนไปเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ตอนนั้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เราก็อยากช่วยทางบ้านหารายได้ จึงทำขนมไทย อย่าง ข้าวต้มมัด ขนมกล้วย ถั่วแปบ ขนมต้ม ไปขายตลาดนัดที่เปิดอยู่ในห้างฯแห่งหนึ่ง โดยตอนนั้นไม่ได้มีแบรนด์อะไรเลย ใส่กระจาดขายง่ายๆ ขายดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ไม่ขาดทุน เหมือนได้เรียนรู้ตลาด เรียนรู้วิธีขาย

ทำอยู่อย่างนั้นนานนับปี กระทั่งเรียนจบจึงเข้าทำงานประจำ และแม้จะไม่ได้ทำขนมขายดังเช่นแต่ก่อน แต่ด้วยความชอบจึงยังคงแสดงฝีมือทำแจกจ่ายให้คนใกล้ชิดได้ชิมเสมอๆ

คุณอันติกา เจ้าของเรื่องราว

14 ปีกับอาชีพลูกจ้าง บวกอายุย่างก้าวสู่เลข 4 ความอิ่มตัวมาเยือน ให้เดินสู่หนทางใหม่ และอาชีพที่มุ่งหมายในขณะนั้นคือ การเปิดร้านกาแฟ ควบคู่ขนม

“ตอนนั้นก้าวออกจากกรอบเลย ย้ายตัวเองไปอยู่ต่างจังหวัด ลงทุนเปิดร้านกาแฟ ทำขนมขาย เป็นการเปิดร้านครั้งแรกก็ว่าได้ และด้วยไม่ศึกษาทำเล ไม่ศึกษาพฤติกรรม หรือวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ร้านกาแฟจึงปิดตัว แต่ขนมยังคงทำส่งไปตามร้านกาแฟ ร้านขายขนม นอกจากนั้นก็มีลูกค้านำไปจัดเลี้ยง งานประชุม สัมมนา หรืองานบุญต่างๆ ก็ทำให้ได้ยอดขายทั้งในพื้นที่ที่เราอยู่และต่างจังหวัด แต่ไม่หวือหวา ด้วยเป็นจังหวัดเล็กๆ ความต้องการตลาดน้อย” คุณอันติกา บอก

หน้าตาดี

ประจวบเหมาะกับมีเหตุให้ต้องเดินทางกลับจังหวัดนนทบุรี จึงตัดสินใจลงหลักปักฐานในบ้านเกิดอีกครั้ง

“ทุกคนเกิดมากับความสามารถที่มากกว่าหนึ่ง ฉะนั้นเรารู้ว่าเราชอบอะไร สนใจอะไร หรือคิดว่าทำอะไรได้ ก็จงลงมือทำ ชอบปลูกต้นไม้ก็ปลูกไว้กิน และเมื่อมีโอกาสขายก็ขาย ชอบงานฝีมือ ก็ทำใช้ และเมื่อมีโอกาสขายก็ขาย ชอบเขียน เมื่อมีโอกาสเขียนก็เขียน ชอบโยคะก็ฝึกก็ไปเรียนรู้ให้ถ่องแท้ และแน่นอนว่าเราชอบทำขนม ฉะนั้นการกลับมาทำขนมขายอีกครั้ง จึงเป็นทางที่เลือก” คุณอันติกา ว่าอย่างนั้น

ก่อนบอก แบรนด์สดุจตา เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งเปิดร้านอยู่ต่างจังหวัด เพียงแต่วันนี้ลูกค้าเปลี่ยน เป็นกลุ่มใหม่ จึงเหมือนนับหนึ่งอีกครั้ง เรียกว่าอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยกลุ่มเป้าหมายคนใกล้ตัว เพื่อนๆ ที่เห็นในหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้วสั่งซื้อเข้ามา แต่ปัจจุบันได้เปิด IG:sadujta หรือหากลูกค้าสะดวกสั่งทางหมายเลขโทรศัพท์ 065-546-5097 ซึ่งจะเปิดรับออร์เดอร์ก่อน แล้วจึงลงมือผลิต หรือลูกค้าต้องการขนมจำนวนมากหน่อยในวันเวลาที่กำหนด ก็ติดต่อสั่งซื้อไว้ล่วงหน้าได้ โดยกลุ่มหลักๆ จะเป็นวัยทำงาน ทั้งที่ซื้อไปทานเอง ไปแจก ไปฝากพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ นำไปทำบุญ เป็นของขวัญของฝาก

ถั่วแปบ

สำหรับขนมสดุจตา มีตั้งแต่ขนมไทย ประเภทขนมนึ่ง อย่าง ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ถั่วแปบ ขนมต้ม ราคาเริ่มต้นกล่องละ 20-30 บาท นอกจากนั้นยังมีขนมอบสร้างชื่อ อย่าง คุกกี้เนยไส้สับปะรด คุกกี้เนยไส้ถั่วเหลือง ราคาถุงละ 85 บาท กระปุกละ 165 บาท เปี๊ยะหมูหยองพริกเผาไส้ทะลัก ราคาถุงละ 85 บาท กระปุกละ 120 บาท และ 175 บาท และในไม่ช้าไม่นานนี้คุณอันติกา จะกลับมาทำขนมที่ลูกค้าเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง คือ กะหรี่ปั๊ปงาดำ ซึ่งมีให้เลือกทั้งไส้ไก่ ไส้ถั่วดำ+งาดำ ไส้หมูหยองพริกเผา

คุณอันติกา ยังบอกถึงหัวใจสำคัญของการทำขนมขาย ไม่ใช่แค่ทำกินอย่างไรทำขายอย่างนั้น แต่ต้องทำให้เหนือกว่าทำกิน

“เวลาทำขนมกินเอง ขาดอะไรนิดอะไรหน่อย ก็อาจจะยอมหยวนๆ ไปบ้าง แต่เวลาทำขายทุกอย่างต้องเป็นไปตามสูตร ใช้แป้ง น้ำตาล เกลือ กะทิ ยี่ห้อใดต้องยี่ห้อนั้น ต้องใช้ระบบชั่งตวง ต้องสะอาด ต้องละเอียด ใส่ใจทุกๆ กระบวนการ เพราะนี่คือสิ่งที่เราคิดและทดลองมาแล้วว่าดีก็ต้องทำตามนั้น” เจ้าของเรื่อง บอกจริงจัง

แม้ตัวเลขยอดขายจะยังน้อย ด้วยเพราะอยู่ในจุดเริ่มก้าว และด้วยทุกกระบวนการผลิตเพียงคนเดียว จึงทำได้จำนวนไม่มากนัก แต่กระนั้นสิ่งที่ทำให้คุณอันติกา ภูมิใจคือคำชมจากลูกค้า

ขนมกล้วย

“ขนมไทย เด็กยุคใหม่ ยากมากที่จะชอบ แต่ขนมไทยของสดุจตา เด็กหลายคนชอบ และเร็วๆนี้มีลูกค้าท่านหนึ่งสั่งขนมกล้วย และถั่วแปบไปแจกนักเรียน ปรากฏคุณครูบอกว่าเด็กๆ ชอบมาก เราเป็นแม่ค้า เราเป็นคนทำขนม ยอมรับว่าดีใจกับคำชม เพราะเหมือนเป็นพลังบวก แต่ใช่ว่าจะไม่ยอมรับในคำตินะ เรารู้ว่าเมื่อใดที่ลูกค้าติเพื่อก่อเราน้อมรับด้วยความยินดียิ่ง เพราะนั้นคือคำแนะนำที่จะทำให้เราเติบโต”คุณอันติกา บอกยิ้มๆ

ขนมต้ม

และกล่าวถึงความฝันกับการมีหน้าร้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง

“การทำหน้าร้านต้องมีทั้งทำเลที่ดีและเงินทุนที่พร้อม บวกกับสถานการณ์เช่นนี้อาจยังไม่เหมาะกับการลงทุนในรูปแบบนั้น คงต้องแตะเบรกไว้ก่อน แต่แน่นอนว่าเรายังมีฝัน ฝันว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ และมีเมนูขนมเคียงคู่อีกครั้ง”