อาหารคีโต-คลีน-คอร์สวุ้นดอกไม้ ทางรอดของเชฟร้านอาหารในสนามบิน

อาหารคีโต-คลีน-คอร์สวุ้นดอกไม้ ทางรอดของเชฟร้านอาหารในสนามบิน
อาหารคีโต-คลีน-คอร์สวุ้นดอกไม้ ทางรอดของเชฟร้านอาหารในสนามบิน

อาหารคีโต-คลีน-คอร์สวุ้นดอกไม้ ทางรอดของเชฟร้านอาหารในสนามบิน ที่ตกงานเพราะโควิด

อีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาได้เกือบปีแล้ว หลายคนหลายธุรกิจทั้งใหญ่เล็ก ได้เผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน จนกระทั่งปรับตัวให้ธุรกิจกลับเข้ามาดำเนินกิจการ และใช้ชีวิตกันได้อย่างปกติใหม่ เช่นเดียวกับ คุณต้นหอม-วารุณี จันทร์เปรม วัย 29 ปี คนนี้

คุณต้นหอม-วารุณี จันทร์เปรม

คุณต้นหอม เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า เป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว ที่เธอทำงานเป็นเชฟใน Sheen Kitchen ร้านอาหารในสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงแฟนหนุ่มที่ทำงานในสนามบินเช่นกัน ทุกชีวิตดำเนินไปตามปกติ จนเมื่อสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด นั่นจึงเป็นจุดที่ทำให้เธอและแฟนต้องตกงาน

“ก็ทำงานในสนามบินได้หลายปีแล้วค่ะ ตั้งแต่เรียนจบเลย ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เราจะต้องตกงานมันจะเกิดขึ้น คือทางร้านเขาก็พยายามยื้อพยายามช่วยเราไว้แล้ว 5 เดือนตั้งแต่ที่มีคำสั่งปิดการบินจริงจังช่วงเมษายน พฤษภาคม จนเขายื้อไม่ไหวแล้วจริงๆ กิจการในนั้นปิดหมดทั้งแถบเลย เพราะร้านเขาก็ไม่ใช่เจ้าใหญ่ๆ อย่างซับเวย์ เบอร์เกอร์คิง อะไรแบบนี้ ก็โดนจ้างตอนเดือนกันยายน” คุณต้นหอม เล่า

คุณต้นหอมและแฟนหนุ่ม

เธอเล่าต่อว่า เมื่อเธอและแฟนหนุ่มต้องเผชิญกับสภาวะคนว่างงาน มีห่วงผูกคอที่เรียกว่า ค่าใช้จ่ายครอบครัว บีบคั้นชีวิตเอาไว้ และด้วยความรู้ที่เรียนจบมาเกี่ยวกับการทำอาหาร เธอจึงไม่มีทางเลือกในการหางานมากนัก

“จบคหกรรมมาโดยตรงค่ะ สามารถทำของกินได้หมดทุกอย่างเลย แต่ด้วยสายที่จบมามันทำให้เรามีตัวเลือกในการทำงานได้ไม่เยอะนัก จะสมัครงานโรงแรมก็ไม่ได้ เพราะเขาก็จ้างคนออกเยอะ ตายเรียบเหมือนกัน ที่ไหนๆ ก็หางานลำบาก ก็คิดว่า แล้วจะทำอะไรดี ให้มันประคองชีวิตให้ผ่านปีนี้ไปให้ได้” คุณต้นหอม เล่า

และโชคดีที่เธอทำชาเลนจ์ลดน้ำหนักด้วยการทานอาหารคีโตอยู่ และคอยอัพเดตบันทึกประจำวันลงโซเชียลเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง เมื่อคนรอบข้างรู้ข่าวว่าตกงาน ก็เชียร์ให้เธอหันมาทำอาหารคีโตขาย เพราะเห็นว่าเธอกินแล้วน้ำหนักลดจริง น่าจะสามารถเรียกลูกค้ากลุ่มคนรักสุขภาพได้

“คือคนเขาเห็นว่าเรากินคีโตแล้วน้ำหนักมันลด ก็เชียร์ให้มาทำขายดู แล้วเราก็ทำอาหารได้ ก็โอเคลองทำขายดู แรกๆ ออร์เดอร์ได้ไม่เยอะเลยค่ะ หนึ่งคือเราเป็นเจ้าเกิดใหม่ สองคือคนยังไม่ค่อยรู้ว่าการกินคีโตมันคืออะไร ซึ่งการกินคีโตมันจะจุกจิกมาก แถมราคาสูง คนก็เลยไม่ค่อยนิยมกัน ก็พยายามโพสต์ลงเฟซบุ๊กให้คนเห็น เขาจะได้รู้จักเรา แล้วก็หันมาทำอาหารคลีนขายเพิ่มด้วย ซึ่งมันขายดีกว่าอาหารคีโตอีก เพราะเราขายแค่ 60 บาทแถมให้เยอะมาก ออร์เดอร์วันหนึ่งตกวันละ 100 กล่อง ก็ทำขายแบบจริงจังมาได้ 2-3 เดือนแล้วค่ะ ถ้าลูกค้าอยู่ไม่ไกลจากบ้านก็วิ่งไปส่งให้ หรือถ้าไกลก็เรียกดีลิเวอรี่ ซึ่งลูกค้าเขาก็สู้ราคาส่งไม่ไหวจนเรายอมที่จะออกค่าส่งให้ครึ่งหนึ่ง กำไรไม่ได้เยอะเลย เพราะเพิ่งเริ่มแล้วก็หมดไปกับค่าขนส่ง เรียกว่าแค่มีเงินพอใช้จ่ายแค่นั้นเอง” คุณต้นหอม กล่าว

นอกจากนั้น คุณต้นหอม ยังเผยว่า เทศกาลเจปีนี้ แทนที่คนจะมาสั่งอาหารกล่องของเธอเพิ่ม แต่กลับทำยอดดรอปลงไปแทน จึงเป็นเหตุให้เธอต้องปรับตัวอีกครั้ง โดยการหันมาทำไลน์เบเกอรี่ขาย รวมถึงเปิดคอร์สสอนทำวุ้นดอกไม้ด้วย

“วันที่ไม่มีลูกค้าออร์เดอร์เข้ามา มันก็ต้องดิ้นรนเนอะ แล้วเราเองก็ทำขนมได้ ไปเรียนเพิ่มอีกนิดหน่อย ก็มาทำขายเสริมๆ กันไป บางคนเห็นเขาก็ถามว่าเปิดสอนไหม ก็รับสอนบ้าง คอร์สสอนหนึ่งไม่ได้คิดแพง เพราะเราไม่มีสถานที่ซัพพอร์ตเขานัก ก็คิดคอร์สละ 2,500 รวมค่าอุปกรณ์วัตถุดิบต่างๆ แล้ว สอนตัวต่อตัวจนกว่าเขาจะทำเป็น ตอนนี้ก็มีลูกศิษย์ประมาณ 10 คนได้” คุณต้นหอม เล่า

“จริงๆ มันก็เฟลนิดหนึ่งนะ เพราะเราเคยทำงานที่ได้เงินเยอะมา แต่อยู่ๆ ก็ตู้ม ตกงาน มาทำอาหารขาย ซึ่งมันก็แข่งกับคนอื่น เงินมันก็ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน แต่อีกใจก็คิดว่า สายสุขภาพ ถ้าจับทิศทางดีๆ ยังไงก็ไปได้แน่นอน เลยพยายามพัฒนาอยู่เรื่อยๆ วันไหนไม่มีลูกค้ามาสั่งของหรือมาเรียนทำวุ้น ก็นั่งทำขนมอย่างอื่นไปพลางๆ เพราะยังไงมันคงอีกนานเลย กว่าจะหางานประจำได้” คุณต้นหอม กล่าวทิ้งท้าย

หากใครสนใจเรียนทำวุ้นดอกไม้ หรือสั่งซื้ออาหาร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Rich Kitchen รับผูกปิ่นโตอาหารคลีน อาหารคีโต เค้กวันเกิดและเบเกอรี่ครบวงจร