ปัจจุบัน กระแสนิยมท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ วิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ หรือความชอบแบบวิถีฮิปสเตอร์ แล้วแต่จะเรียกขานกันในตอนนี้กำลังมาแรงมากๆ มาแรงทั้งในแง่ของเจ้าของกิจการที่ต้องสร้างจุดขายของสถานที่พัก ที่กิน แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่บรรยากาศรอบๆ ทั้งยังมาแรงในกลุ่มนักท่องเที่ยวเองด้วยไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ

ด้วยความต้องการของคนยุคปัจจุบันที่ต้องการชีวิตสงบ หลีกหนีความวุ่นวาย หลีกหนีจากชุมชนเมืองเป็นระยะๆ เพื่อไปพักผ่อน พักใจ ทำให้เกิดแนวคิดและไอเดียในการสร้างที่พักรูปแบบต่างๆ มากมายขึ้น หรือสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่มีเพิ่มให้เห็นมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการนี้

โฮมสเตย์ “แม่กลางหลวงฮิลล์”

สร้างจากน้ำพัก น้ำแรง

จุดเริ่มต้นของการสร้างกิจการของแต่ละคน แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ที่พบเจอและไอเดียที่มีในขณะนั้น เช่นเดียวกับ คุณนิทัศน์ ภูผาอาวรณ์ เจ้าของโฮมสเตย์ แม่กลางหลวงฮิลล์ วัย 29 ปีคนนี้ก็เช่นกัน เขาเล่าว่า “เริ่มคิดจะสร้างที่นี่เมื่อตอนนั้นอายุเพียง 18 ปี ตอนนั้นยังเรียนไม่จบอะไรเลยด้วยซ้ำ ด้วยพื้นเพเป็นคนในหมู่บ้านแม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ก่อนแล้ว และมีที่ดินซึ่งเป็นของครอบครัวอยู่แถบนี้ด้วย ประกอบกับเห็นมีคนริเริ่มทำกัน จึงมีความคิดอยากทำบ้าง

สมัยก่อนนั้นที่ยังเด็กๆ ผมมาทำงานกับรุ่นพี่ ทำได้สักพัก จึงไปบวชเรียนอยู่ 1 ปี ก็ลาสิกขามาเรียนต่อจนจบ ม.3 แล้วก็หางานทำ พอเห็นว่ามีที่ทาง มีเงินเก็บบ้างเล็กน้อย ก็ตัดสินใจมาทำโฮมสเตย์เป็นของตัวเอง ตอนนั้นที่ทำก็เพราะว่าเห็นตัวอย่างจากผู้นำชุมชนที่นี่เขาเริ่มทำก่อน เขามีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่กลางหลวง ก็ทำกันเล็กๆ ในพื้นที่ของใครของมัน พอมาตั้งเป็นกลุ่ม ในพื้นที่ก็เริ่มพัฒนาขึ้น ผมจึงอยากลองทำบ้าง

ช่วงแรกที่ทำมีบ้านพักเป็นกระท่อมแค่ 3 หลัง สร้างเองกับมือ ลงแรงกันเองกับคุณพ่อ ในที่ดินของตนเอง พัฒนาพื้นที่และพัฒนาการของโฮมสเตย์แม่กลางหลวงฮิลล์เป็นไปอย่างช้าๆ ไม่หวือหวา ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันที่เริ่มทำมาถึงปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ระหว่างนั้นก็เรียน กศน. จนจบ ม.6”

ช่วงแรกของการสร้างที่นี่ ไม่ได้มีหนี้สิน เนื่องจากใช้เงินเก็บมาสร้าง มาทำทีละเล็กละน้อย ค่อยๆ ขยายโดยมีครอบครัวคอยช่วย แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณนิทัศน์ต้องขยันและเป็นวิกฤตมากที่สุดในช่วงชีวิตนั้นก็คือ คุณพ่อป่วยเป็นมะเร็ง จึงขาดกำลังสำคัญลงไป

คุณนิทัศน์ ย้อนเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า “ช่วงนั้นประมาณปี 2550 จากการที่คุณพ่อป่วยด้วยโรคมะเร็ง ต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา ทั้งยังต้องทำแม่กลางหลวงฮิลล์ไปด้วย อีกทั้งตอนนั้น ผมก็เกิดรถคว่ำอีก เป็นช่วงที่ลำบากมากที่สุด ตอนนั้นอายุแค่ 19 หรือ 20 ปีเอง ด้วยเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงทำให้มีหนี้สินมากมาย หมุนเงินมือเป็นระวิง ต้องทำงานเยอะมาก กว่าจะตั้งตัวได้จากเหตุการณ์เหล่านี้ก็ใช้เวลากว่า 2 ปี

แต่ผมโชคดีตรงที่ทำโฮมสเตย์แม่กลางหลวงฮิลล์นี้แล้วมีลูกค้ามาพัก เขาเอ็นดูเรา จึงช่วยให้กิจการยังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ลูกค้าหลายท่านที่มาเข้าพักก็แอบกลับไปเขียนรีวิวให้บ้าง ไปบอกคนนั้นคนนี้ต่อบ้าง ทำให้โฮมสเตย์แห่งนี้พอเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง”

สร้างบรรยากาศเป็นกันเอง

ใกล้ชิดธรรมชาติ ผสมแปลงเกษตร

“ด้วยแนวความคิดอยากทำที่พักให้มีบรรยากาศแบบเป็นกันเอง แม่กลางหลวงฮิลล์ จึงสร้างที่พักให้เป็นแบบโฮมสเตย์ ผสมผสานการทำแปลงเกษตรไปด้วย ซึ่งอยากทำธุรกิจในรูปแบบไม่ให้ขัดแย้งอัตลักษณ์ของชุมชน ด้วยเพราะอยากเห็นความยั่งยืนของชุมชนควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ” คุณนิทัศน์ บอก

ทั้งยังเล่าต่ออีกว่า แต่การสร้างที่พักให้คนอื่นมาพักไม่ได้ง่ายเลย เพราะยังต้องปรับปรุงพัฒนาศักยภาพของที่นี่อีกหลายด้าน ทั้งในด้านของตัวบ้านพัก ด้านการรองรับ การบริการต่างๆ ให้ดีเพิ่มขึ้นอีก  ซึ่งการที่ผมเริ่มต้นมาก่อน ทำมานานแล้วทำให้สามารถเรียนรู้จากของจริงได้ เป็นการเรียนรู้จากของจริง นอกห้องเรียน เป็นข้อดีอย่างหนึ่งในการสร้างโฮมสเตย์ ต้องเรียนรู้ไปกับมันทุกวัน

ปัจจุบันขยายพื้นที่พัฒนาไปเรื่อยๆ มีการปลูกต้นหม่อน ทำแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี่ มีบ่อเลี้ยงปลาส่วนพื้นที่ทำนาที่มีอยู่ประมาณ 4-5 ไร่ ก็ยังมีการทำอยู่ โดยให้ชาวบ้านแถบนี้ที่ต้องการทำก็ให้เขาทำไป เพราะไม่อยากให้พื้นที่ว่างไปเปล่าๆ แต่แผนในอนาคต คิดว่าจะทำนาปลูกข้าวเอง

ด้านบ้านพัก ปัจจุบันนี้ขยายออกไปแล้ว 9 หลัง เป็นบ้านพักที่มีขนาดแตกต่างกัน ตั้งแต่หลังเล็ก  หลังปานกลางและหลังใหญ่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะมากันแค่ไม่กี่คน หรือมากันเป็นครอบครัวใหญ่ ก็จะได้มีที่พักรองรับ

โดยคุณนิทัศน์ บอกว่า “รายได้หลักของที่นี่คือ มาจากบ้านพักเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้สามารถอยู่ได้แล้ว เดือนหนึ่งสามารถทำรายได้อยู่ราว 200,000-300,000 บาท ขึ้นอยู่กับฤดูท่องเที่ยวด้วย โดยฤดูท่องเที่ยวที่คนนิยมเดินทางมาที่นี่อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนเดือนที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวคนไม่เยอะมาก แต่ก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่บ้าง”

การทำโฮมสเตย์ต้องใช้เวลานานกว่าที่จะมีคนรู้จัก หรือมีนักท่องเที่ยวมาพัก และกว่าที่จะพัฒนาสถานที่ บ้านพัก การบริการ บรรยากาศต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย และไม่ควรหยุดนิ่งที่จะพัฒนาศักยภาพต่อไป ซึ่งสำหรับคุณนิทัศน์ มองว่า โฮมสเตย์ของเขาก็ยังต้องพัฒนาต่อไป เพราะอยากทำบ้านที่พักให้ดี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่อไปได้

ใครที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทรศัพท์ (081) 020-3615 หรือ โฮมสเตย์ แม่กลางหลวงฮิลล์ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่