เผยแพร่ |
---|
เด็กจบใหม่ อยากมีเงินเก็บต้องทำยังไง เปิดทริกง่ายๆ ให้มีเงินใช้ไปตลอดชีพ
ท่ามกลางสภาวะวิกฤตแบบนี้อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน โดยสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ เด็กจบใหม่ ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตมนุษย์เงินเดือน โดย กรมการจัดหางาน ได้ประเมินว่า ในปี 2564 จะมีเด็กจบใหม่ว่างงานสูงถึง 500,000 คน เพราะการจ้างงานในประเทศน้อยลง อันเป็นผลมาจากภาคธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19
แต่สำหรับเด็กจบใหม่ที่กำลังเริ่มตั้งตัว หรือเริ่มทำงานได้สักระยะ โดยหวังไว้ว่าอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองสักก้อน แต่จะทำอย่างไร หากเด็กจบใหม่ อยากมีเงินเก็บไว้ใช้ตลอดชีพ
1.แยกเงินเก็บ และเงินที่ใช้ออกจากกัน เป็นวิธีเก็บเงินที่ได้ผลที่สุด เมื่อได้รับเงินเดือนแล้ว ให้แยกเงินที่ตั้งใจจะเก็บออกมาต่างหาก เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอนำเงินก้อนนี้ไปใช้ปนกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยควรเก็บอย่างน้อย 10-15% ของเงินเดือน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเก็บเงินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังสร้างวินัยในการใช้จ่ายให้กับคุณเองอีกด้วย
2.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย วิธีนี้อาจดูเป็นการเก็บเงินที่ดูยุ่งยาก และล้าสมัย แต่ยังใช้ได้ผลมาโดยตลอด เพราะจะช่วยให้เห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายในแต่ละวันว่าเป็นอย่างไร ค่าใช้จ่ายใดบ้างที่รู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผลและควรปรับลดลง ซึ่งปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นในมือถือที่ช่วยให้การบันทึกรายการค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องง่ายๆ ให้ใช้ นอกจากจะไม่ต้องมานั่งเขียนให้ยุ่งยากแล้ว ยังแสดงสถิติค่าใช้จ่ายในแต่ละวันให้คุณเห็นแบบชัดเจนอีกด้วย
3.ช่องทางเก็บเงินสร้างกำไร แน่นอนว่าการเก็บเงินอย่างเดียวนั้นไม่ได้ทำให้ทรัพย์สินมีมากขึ้น ซึ่งวิธีเก็บเงินที่ดีนั้นควรจะเก็บไว้ในที่ที่สามารถเพิ่มพูนกำไรให้กับตัวมันเองได้ เพราะฉะนั้น มาเริ่มต้นลงทุนกันตั้งแต่ตอนนี้กับช่องทางการเก็บเงินที่จะช่วยสร้างกำไร สร้างรายได้ให้คุณมีเงินใช้ไปตลอดชีพ
4.บัญชีเงินฝากประจำ เชื่อว่าทุกๆ คนน่าจะมีบัญชีออมทรัพย์สำหรับออมเงินกันอยู่แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะมี บัญชีเงินฝากประจำ เป็นของตัวเอง ซึ่งบัญชีประเภทนี้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสำหรับการเก็บเงินเป็นอย่างยิ่ง
บัญชีประเภทนี้จะมีรูปแบบคล้ายบัญชีออมทรัพย์แบบปกติ แต่แตกต่างกันที่บัญชีฝากประจำ จะกำหนดระยะเวลาในการฝาก เช่น 6 เดือน 1 ปี หรือมากกว่านั้น แต่ก็มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่สูงกว่าเดิมมาก โดยห้ามถอนเงินออกในช่วงเวลานี้ มิฉะนั้นจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้
5.สลากออมทรัพย์ นับเป็นอีกวิธีเก็บเงินอีกประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะได้ทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก และสามารถลุ้นรางวัลจากสลากได้ในตัว ซึ่งสลากออมทรัพย์จะมีส่วนคล้ายกับบัญชีฝากประจำตรงที่ เมื่อซื้อสลากแล้ว จะยังไม่สามารถขายแลกเป็นเงินได้จนกว่าจะครบระยะเวลาที่กำหนด โดยข้อดีของวิธีเก็บเงินด้วยสลากออมทรัพย์ก็คือ 1.ไม่ต้องเสี่ยงว่าจะต้องเสียเงินต้น 2.มีโอกาสถูกรางวัลใหญ่ที่มีมูลค่าสูงหลักแสน หรือหลักล้าน 3.ได้ทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก พร้อมลุ้นรางวัลจากสลาก ยิ่งซื้อมากยิ่งมีโอกาสมาก
6.กองทุนรวม นับเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าวิธีเก็บเงินแบบอื่นหลายเท่าตัว ซึ่งคุณสามารถเลือกลงทุนจากกองทุนจำนวนมากที่ให้ผลตอบแทนแตกต่างกันได้ตามใจ แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงที่อาจจะเสียเงินต้นบางส่วนไปเนื่องจากความผันผวนทางธุรกิจ
ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลและจัดการให้นำไปเพิ่มพูนรายได้ และตอบแทนมาเป็นเงินปันผลประจำปีให้กับคุณ โดยเปอร์เซ็นต์ของเงินปันผลนั้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของกองทุนนั้นๆ ยิ่งความเสี่ยงมาก เปอร์เซ็นต์ของเงินปันผลก็ยิ่งสูง
แต่วิธีเก็บเงินประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้จากเงินปันผลในระยะยาว เพราะฉะนั้น เงินที่นำมาออมในส่วนนี้ไม่ควรเป็นเงินเก็บที่สะสมไว้เพื่อแบบมีวัตถุประสงค์ หรือควรแบ่งเงินไว้สำหรับกองทุนรวมโดยเฉพาะ
อ้างอิงจาก เว็บไซต์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)