ยืนหยัดกว่า 40 ปี “หนุ่มสาวทัวร์” ผู้บุกเบิกทัวร์แอดเวนเจอร์จนโด่งดังไปทั่วประเทศมาแล้ว

ยืนหยัดกว่า 40 ปี
ยืนหยัดกว่า 40 ปี "หนุ่มสาวทัวร์" ผู้บุกเบิกทัวร์แอดเวนเจอร์จนโด่งดังไปทั่วประเทศมาแล้ว

ยืนหยัดกว่า 40 ปี “หนุ่มสาวทัวร์” ผู้บุกเบิกทัวร์แอดเวนเจอร์จนโด่งดังไปทั่วประเทศมาแล้ว

ย้อนไปเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ชื่อของ หนุ่มสาวทัวร์ โด่งดังไปทั่วประเทศ เพราะเป็นผู้บุกเบิกทัวร์แอดเวนเจอร์ เจ้าแรกในสมัยนั้น “หนุ่มสาวทัวร์” เกิดขึ้นมาจากกิจกรรมนำเที่ยวเพื่อหาทุน ตั้งแต่สมัยที่ คุณศุภฤกษ์ ศูรางกูร ยังเป็นนักศึกษา ซึ่งในสมัยนั้น การหารายได้มักมาจากการฉายหนัง หรือไม่ก็จัดงานราตรีสโมสร แต่ “คุณศุภฤกษ์” บอกว่า “ไม่ทำแบบนั้น เปลี่ยนมาหานักท่องเที่ยวพาทัวร์ต่างจังหวัดเรียนรู้ชีวิตชนบทดีกว่า เพราะเป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว”

หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย คุณศุภฤกษ์ยังติดใจการทำทัวร์และคิดว่าใครจะให้บริการกลุ่มคนที่อยากท่องเที่ยว แม้จะมีธุรกิจทัวร์เปิดให้บริการอยู่แล้ว แต่รูปแบบยังคงเดิม ไม่มีความแปลกใหม่

“ทัวร์ทั่วไปยังจัดแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่ทำให้คนหนุ่มสาวตื่นเต้น เราต้องทำอะไรที่แปลกกว่าคนอื่น ผมเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จบมหาวิทยาลัย ตั้งชื่อ หนุ่มสาวทัวร์ คนอื่นไปเที่ยวป่าซาง ดอยสุเทพ น้ำตกแม่กลาง ไปวัดนู้นวัดนี้ เราจัดโปรแกรมใหม่ เป็นเจ้าแรกที่บุกเบิกแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ไม่ว่าเป็น ตะรุเตา สิมิลัน แม่ฮ่องสอน ห้วยน้ำดัง ล่องแพแม่น้ำกก แม้กระทั่งเพชรบุรี เขาพะเนินทุ่ง นั่งรถบัสพัดลม รถบัสแอร์กันไป เป็นทัวร์แอดเวนเจอร์”

“ทำได้ 2 ปี ดังระเบิด ยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ทัวร์ขายดีมาก ชื่อเสียงเริ่มมา ผู้สูงอายุก็มาใช้บริการ ป้ามาเที่ยวกับหนุ่มสาวทัวร์ได้มั้ย อยากไปจังเลย เลยเปลี่ยนสโลแกน เริ่มต้นจากคนหนุ่มสาว เติบโตเพื่อคนสูงวัย จากพาเที่ยวภาคเหนือ ภูกระดึง ภูหลวง ภูเรือ ก็เริ่มขยับมาจัดเที่ยวภาคกลาง เพื่อให้คนกลุ่มใหญ่มาเที่ยวได้ และเริ่มมีกรุ๊ปเหมาเข้ามาใช้บริการมากขึ้น” คุณศุภฤกษ์ เจ้าของหนุ่มสาวทัวร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทย และเจ้าของกิจการโรงแรมและรีสอร์ท 20 แห่งในเครือบริษัท เซเรนนาต้า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ป เล่าถึงการทำทัวร์

มาช่วงหลัง ธุรกิจทัวร์เริ่มแพร่หลาย ทำให้มีทัวร์รูปแบบเดียวกันเกิดขึ้นมากมาย คุณศุภฤกษ์จึงหนีคู่แข่งด้วยรูปแบบการบริการที่แตกต่าง

“พัฒนามาเล่นเกมบนรถ จัดวอล์กแรลลี่เป็นเจ้าแรกที่ทำ มีการแสดงตั้งแผนกนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ แสดงโดยมัคคุเทศก์ของเราเอง เต้น รำ ร้องเพลง แล้วแต่ว่าลูกค้าต้องการธีมอะไร เอาพนักงานของเราเนี่ยแหละแสดง ลูกค้าก็จะสนใจสนุกสนานกันมาก ทุกวันนี้แผนกการแสดงยังมีอยู่ ไกด์ที่นี่เก่งมาก มีไกด์ฟรีแลนซ์ 300-400 คน ช่วงตรุษจีนเราเคยออก 100 กว่าทริป ปีนึงเราให้บริการคนหลายแสนคน” เจ้าของหนุ่มสาวทัวร์ เล่า

คุณศุภฤกษ์มองการณ์ไกล เห็นแล้วว่า ธุรกิจทัวร์สักวันคงตกลง เพราะยังยืมจมูกคนอื่นหายใจ “ที่พักก็ไม่ใช่ของเรา เครื่องบินก็ไม่ใช่ของเรา เราเป็นแค่ตัวกลาง ผมเริ่มตั้งบริษัทขายอุปกรณ์แคมปิ้ง เป็นเจ้าแรกที่ผลิตเสื้อชูชีพ เพราะจัดทัวร์แล้วไม่มีอุปกรณ์พวกนี้ เลยผลิตเอง ต่อมาตั้งบริษัทรถ เพราะคิดแล้วว่าคนจะไปเที่ยวต้องมีรถ ให้เช่ารถตู้ รถทัวร์ และมาทำโรงแรม เพราะเห็นว่ายังไงคนไปเที่ยวต้องมีที่พัก ทำพิพิธภัณฑ์ ห้องอาหาร ทำเรือสำราญล่องแม่น้ำ ทำหมดยกเว้นเครื่องบิน”

เมื่อปีที่แล้วก่อนเกิดโควิด คุณศุภฤกษ์ เล่าว่า หนุ่มสาวทัวร์รายได้ตกลงไปเยอะ “เราพยายามปรับตัว จับกลุ่มเป้าหมายใหม่ เน้นกรุ๊ปเหมา ทำทัวร์ต่างประเทศ และตอนนี้แม้เจอโควิดบริษัทยังอยู่ เราเติบโตจากศูนย์ ฉะนั้น เวลาทำอะไรเราคิดถึงคนอื่นตลอดเวลา ไม่ได้คิดถึงบริษัทเลย พอเกิดโควิด ผมกับลูกชายประกาศไม่รับเงินเดือนก่อนใคร และประกาศว่า จะพยายามถึงที่สุดที่จะไม่เอาใครออก แต่ว่าต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย ช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวยังให้พนักงานทำงานปกติ มานำเสนอไอเดีย เสนอโปรแกรมให้ลูกค้า หากวันนึงฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว เขาสามารถมาใช้บริการเราได้ และจัดทัวร์สั้นๆ เที่ยววันเดียว เที่ยวสองวัน ก็เริ่มมีคนมาเที่ยว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วออกได้ 1-2 ตู้ และเริ่มมีลูกค้าเก่าติดต่อกรุ๊ปเหมาปลายปีมาบ้างแล้ว” คุณศุภฤกษ์ เล่า

สำหรับโรงแรม ปัจจุบันคุณศุภฤกษ์มีโรงแรมในเครือบริษัท เซเรนนาต้า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กรุ๊ป ทั้งหมด 20 แห่ง กระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพฯ กาญจนบุรี อีกราว 5-6 แห่ง ที่เกาะช้าง หัวหิน ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะยาว สุโขทัย ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย โดยแต่ละที่จะมีชื่อและสไตล์ที่แตกต่างกันไป บางแห่งมีลูกค้าต่างชาติถึง 99%

“ส่วนใหญ่ผมทำโรงแรมเล็กๆ 30-40 ห้อง แต่ละแห่งมีคอนเซ็ปต์ในตัวมันเอง อย่างเมืองกาญจน์มี 5-6 แห่ง คอนเซ็ปต์ยังไม่เหมือนกัน เพราะมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม มีแหล่งน้ำ กิจกรรมหลากหลาย มีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทั้งหมดรวมกันแล้ว เมืองกาญจน์ได้เปรียบ ดีที่สุด หากอยากทำโรงแรมหรือบูติกโฮเทล ต้องดูที่ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ ทั้งคนไทยและต่างชาติถึงจะอยู่ได้ การบริการ ช่องทางการจำหน่ายก็เช่นกัน ทุกอย่างต้องไปด้วยกันถึงสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้”

“จากสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้โรงแรมของเรายังปิดอยู่ 6 แห่งจากทั้งหมด 20 แห่ง ที่ยังเปิดให้บริการเรารับนักท่องเที่ยวไทยไปก่อน ได้ 2-3 ห้อง ถ้าปิดนานแล้วถามว่าลูกน้องจะเอาอะไรกิน เราต้องดูแล คนที่ไม่มีทางไปเราต้องรักษา ผมพยายามไม่เพิ่มภาระให้สังคม” คุณศุภฤกษ์ เผยถึงสถานการณ์ปัจจุบันของโรงแรมในเครือ

มาร่วมกันฟังเทคนิค และค้นหาไอเดียเต็มๆ จาก คุณศุภฤกษ์ ศุรางกูร ในงานสัมมนา “SMEs New Normal” ไปต่อแบบไหน…ถึงจะรอด!?! ที่จัดโดย “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 เวลา 12.30-16.30 น.

เปิดรับลงทะเบียนออนไลน์ฟรี แล้ววันนี้ > https://bit.ly/3gZZxK3 <