ผู้เขียน | เสาวลักษณ์ สวัสดิ์กว้าน |
---|---|
เผยแพร่ |
ฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ บ้านยางกลาง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เป็นโครงการพระราชทาน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบความลำบาก ทั้งด้านที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน เมื่อครั้งที่เกิดเหตุอุทกภัย ในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดอ่างทอง ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งจังหวัด โดยมุ่งทำฟาร์มตัวอย่าง ให้เกิดผลผลิต และสร้างงานในลักษณะเกษตรอินทรีย์ในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ตลาดจนเป็นแหล่งผลิตอาหาร ที่ปลอดสารพิษ ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม
คุณภูริพันธ์ บุนนาค ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ทีเส็บ โดยความร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ สมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สนท.) และสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) ได้จัดทำโครงการ “ประชุมเมืองไทย อิ่มใจ ตามรอยพระราชดำริ” ซึ่งได้มีการส่งเสริมและกระตุ้นการจัดกิจกรรมการศึกษาดูงาน ในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชริ ซึ่ง โครงการฟาร์มตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ บ้านยางกลาง ที่อ.แสวงหา จ.อ่างทองก็เป็นหนึ่งในโครงการเป้าหมาย ในอันที่จะเป็นจุดการจัดฝึกอบรม ศึกษาดูงาน กิจกรรมซีเอสอาร์ การจัดประชุมสัมมนา รวมถึงการท่องเที่ยวก่อนหรือหลังประชุม เป็นต้น
“สำหรับการโครงการพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถนำไปผนวก ในโปรแกรมนำเที่ยวก่อนหรือหลังการจัดการประชุมสัมมนา และการศึกษาดูงานขององค์กรได้ การเลือกซื้อของที่ระลึก การจัดเลี้ยงนอกสถานที่ หรือแม้แต่รวมกิจกรรมสร้างประโยชน์ ให้สังคม เช่น การคืนความอุมสมบูรณ์ สู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ด้วยการปล่อยพันธุ์กุ้ง พันธุ์ปลา เป็นต้น” นายภูริพันธ์กล่าว
สำหรับการดำเนินงาน และกิจกรรมภายในโครงการฯ ประกอบไปด้วย กิจกรรมพืชผัก อาทิ การปลูกบวบ ถั่วฝักยาว ดอกสลิด ข้าวโพดหวาน พริกขี้หนูและพริกอ่อน มะเขือเปราะ
การปลูกไม้ผล เช่น มะละกอ มะม่วง กระท้อน มะยงชิด การทำปศุสัตว์ มีการเลี้ยงไก่ไข่ เป็ดอี้เหลียง สุกรจินหัว ห่านหัวสิงห์ แพะเนื้อ แพะนม ทำการประมง เลี้ยงปลานิล ปลาตะเพียน ปลาสลิด และปลาดุก การทำนาข้าว และกิจกรรมแปรรูป ได้แก่นมแพะ น้ำสมุนไพร น้ำลูกหม่อน กล้วยตาก ชาใบหม่อน ชาอัญชัน ชาตะไคร้ ตลอดจนการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่นปลาเค็ม ปลาร้า ปลาส้ม ฯลฯ โดยมีการปรับเปลี่ยน การดำเนินงานให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และผลผลิตที่ได้ในแต่ละฤดูกาล
ทางด้าน คุณอดิเรก วัฒนสุนทร นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ที่เข้ามาดูแลกิจกรรมทางด้านการเกษตรในโครงการแห่งนี้ ได้พานำชม และแนะการใช้หญ้าเนเปียร์สับ และหมักในถัง 21 วัน หรือจะใช้ ต้นกล้วยสับ หมักด้วยกากน้ำตาล 5 วัน จากนั้น นำมาเลี้ยงหมู ไก่ไข่ และแพะซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางด้านอาหารได้ถึง 30 เปอร์เซนต์
นอจากนี้ ยังแนะนำ หมูพันธุ์จินหัว ที่มีคุณภาพเนื้อดีกว่าหมูทั่วไป ราคาสูง เหมาะกับการแปรรูป เนื้อมีไขมันแทรกอยู่ทุกส่วน สามารถเอาไปทำไส้กรอกแฮม ได้รสชาติไม่เลี่ยน ปัจจุบันทางโครงการ ผลิตหมูส่งให้กับกรมปศุสัตว์ รับไปทำแฮม
สำหรับการเลี้ยงหมูจินหัว เมื่อมีอายุ 1 ปี ใช้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ส่วนลูกหมู อายุ 4 เดือน ราคา 5-6 พันบาท
ส่วนแพะ พ่อแม่พันธุ์อายุ 1 ปี เป็นลูกผสมชาแนน ให้น้ำนมมาก เลี้ยงง่าย สำหรับราคา นมแพะ ตกกิโลกรัมละ 50 บาท ผลลผิตได้ราว 30-40 กิโลกรัม ต่อแพะที่เลี้ยงไว้ 40 ตัว
นอกจากนี้ยังมีการเพาะเห็ดทั้งนางรมฮังการีและนางฟ้าภูฏานซึ่งจะเป็นจุดถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรทั่วไปอีกด้วย
ทั้งนี้ หน่วยงานและองค์กรธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาดูงานที่โครงการฟาร์มตัวอย่างบ้านยางกลางได้ เพื่อนำเกร็ดความรู้ ในการพัฒนาไปประยุกต์ในชีวิตและการงาน การจัดกิจกรรมนำเที่ยวก่อนหรือหลังประชุมสัมมนา ตลอดจนสามารถให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของโครงการฯ เพื่อใช้ในกิจกรรมการจัดเลี้ยง หรือกิจกรรมการช่วยเหลือสังคมขององค์กรตามความเหมาะสมซึ่งเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชน อีกทางหนึ่ง สอดรับกับแนวนโยบายประชารัฐของรัฐบาล