“ชัยวัฒน์ ปริ่มผล” เกษตรกรดีเด่นตราด ตามรอย”พ่อ”จับพืชผักในสวนแปรรูปทำแกงส้ม-น้ำพริกแกงป่า เพิ่มมูลค่า

แม้สวน “ผลอำไพ” ของ คุณชัยวัฒน์ ปริ่มผล เกษตรกรดีเด่นสาขาทำสวนระดับจังหวัดของตราด และระดับภาคตะวันออก จะไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก เพราะมีพื้นที่ 26 ไร่ อยู่ที่ตำบลทุ่งนนทรี อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด แต่เป็นสวนผลไม้ที่ผู้คนจากทั่วประเทศมักไปเที่ยวชมและไปศึกษาดูงานกันเป็นประจำ เพราะเขาผู้นี้ใช่จะเป็นเกษตรกรตัวอย่างในเรื่องการปลูกพืชผักผลไม้แบบอินทรีย์เท่านั้น แต่ยังแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าด้วย โดยเจ้าตัวยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ในการดำเนินชีวิตและในอาชีพการทำเกษตรมาหลายปีแล้ว

img_4637

เต็มอิ่มกับผลไม้ปลอดสาร

ปัจจุบันเขาผู้นี้ต่อยอดนำผลไม้สดจากสวนมาแปรรูป เป็นผลไม้อบแห้ง แบรนด์ “พีเอฟที” (PFT) ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียนอบแห้ง สับปะรดอบแห้ง กล้วยอบแห้ง เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศด้วย และยังแปรรูปเป็นน้ำพริกแกงป่าอบแห้ง และแกงส้มสับปะรดกุ้ง ที่เป็นแกงส้มกึ่งสำเร็จรูป

ก่อนหน้านี้คุณชัยวัฒน์ก็ได้รับเลือกให้เป็นสมาร์ตฟาร์มเมอร์ (Smart Farmer) ของจังหวัดตราด ต้นแบบ สาขามังคุด เนื่องจากเป็นผู้พัฒนาและผลิตมังคุดแบบครบวงจร โดยแปรรูปมังคุดสดเป็นน้ำมังคุด โดยมีการบริหารจัดการปัจจัยการผลิต การวิเคราะห์ดิน การผลิตมังคุดตามระบบการผลิตที่ดี (GAP) แล้วนำมาแปรรูป พร้อมจัดจำหน่ายเอง

จะเห็นได้ว่าในช่วงฤดูผลไม้ของภาคตะวันออก บรรดานักชิมทั้งหลายต่างเข้าไปใช้บริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้ของสวนผลอำไพ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายคนละ 150 บาท เพราะมั่นใจว่าเป็นเกษตรอินทรีย์จริงๆ ที่สำคัญ สวนแห่งนี้มีผลไม้หลากหลายให้ได้หม่ำกันและทานได้ไม่อั้น โดยปลูกลองกองมากสุดถึง 400 ต้น รองลงมาเป็นมังคุดกว่า 200 ต้น ตามด้วยทุเรียนและเงาะ และยังมีการปลูกผลไม้เพิ่มเติม ทั้งสับปะรดตราดสีทอง กล้วยหอมทอง เมลอน และยังแบ่งพื้นที่บางส่วนปลูกพืชผักสวนครัว เช่น พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด เพื่อใช้ในการแปรรูปทำพริกแกง

เรียกว่าใครมาสวนผลอำไพในช่วงหน้าผลไม้ กลับไปนอกจากจะอิ่มท้องแล้ว ยังได้รูปภาพสวยๆ ไปอวดพรรคพวกด้วย เพราะจะได้ถ่ายรูปกับทุเรียน กับลองกอง และมังคุดแบบจับต้องได้เลย

สวนแห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานของรัฐ อย่างเช่น กรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งมีโครงการส่งเสริมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาหีบห่อบรรจุภัณฑ์ และส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย ก็ได้เชิญคุณชัยวัฒน์ในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์พีเอฟที ในนามบริษัท ผลอำไพฟรุตตี้ไทย จำกัด ไปออกบู๊ธจำหน่ายสินค้าในงานแฟร์ ที่ประเทศจีน เมื่อปี 2558 ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและมียอดสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่อง

img_4561

“แกงส้ม-แกงป่า” ลูกค้าตอบรับดี

คุณชัยวัฒน์ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนมีส่วนสนับสนุนผลักดันให้เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในจังหวัดตราด ได้พัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล การที่พาผู้ประกอบการไปออกร้านจำหน่ายสินค้าที่ประเทศจีน นอกจากจะเปิดช่องทางการตลาดใหม่แล้ว ยังทำให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาถึงความต้องการด้านผลิตภัณฑ์ผลไม้ของลูกค้าอย่างแท้จริง ทำให้สามารถกลับมาผลิตผลไม้อบแห้งในรูปแบบที่ลูกค้าต้องการได้เป็นอย่างดี

“ก้าวต่อไปในการพัฒนาของสวนผลอำไพ ในนามบริษัท ผลอำไพฟรุตตี้ไทย จำกัด คือ การนำพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ มาแปรรูปเป็นพริกแกงแห้งสำเร็จรูป เพราะเครื่องแกงเป็นส่วนประกอบสำคัญของครัวไทย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการทำแกง แต่ไม่มีเวลาทำเครื่องแกง โดยแค่เทเครื่องแกงลงหม้อที่มีน้ำเดือด เติมเนื้อสัตว์พร้อมรับประทาน”

สำหรับการทำ “แกงส้มสับปะรดกุ้ง” อันเป็นแกงส้มกึ่งสำเร็จรูป คุณชัยวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ทำเพราะ 1. มีวัตถุดิบสับปะรดตราดสีทองอบกรอบขายอยู่แล้ว และมีชิ้นเล็กๆ เหลืออยู่มาก มองว่าน่าจะนำมาใช้เพิ่มมูลค่าได้เลย 2. เคยทดลองเอาสับปะรดอบกรอบทำแกงส้มแล้วรู้ว่าทำได้ จากนั้นจึงเริ่มทดลองทำน้ำพริกแกงส้มสดๆ แต่ทิ้งไว้ได้เพียง 5 วันรสชาติเสีย จึงนำไปป่นให้ละเอียดและมาอบด้วยตู้อบสุญญากาศ 70 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้เก็บไว้ได้นานหลายเดือน

ขณะที่ใบมะกรูด ที่ต้องทำให้สีเขียวสวย และมีกลิ่นหอมระเหยยังคงอยู่ ก็ต้องอบด้วยตู้อบสุญญากาศอุณหภูมิเดียวกันแต่ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษๆ และกุ้งอบ ใช้กุ้งสดปอกเปลือกและเข้าตู้อบอุณหภูมิ 70-75 องศาเซลเซียส 3-4 ชั่วโมง จะกรอบ ฟู เมื่อนำไปต้มคงความสดและเนื้อนุ่ม ไม่เหนียว

สรุปแล้วเครื่องปรุงยังคงความสดใหม่ แต่ว่าสับปะรดต้องพันธุ์ตราดสีทองเท่านั้นที่คุณภาพได้ทั้งความหวานเข้ม อมเปรี้ยวเล็กน้อย กรอบ น้ำไม่มาก เห็นได้ชัดว่าสับปะรดตราดสีทองชิ้นเล็กๆ เป็นต้นทุนจากที่เก็บไว้ นำมาขายได้กิโลกรัมละ 250 บาท ขายเป็นชุดละ 35 บาท โดยในซองนี้แบ่งเป็นเนื้อสับปะรดอบแห้งถึง 50 กรัม นอกนั้นเป็นกุ้งอบแห้งและพริกแกง ซึ่งที่ผ่านมากระแสตอบรับจากลูกค้าดี โดยมีวางจำหน่ายในร้านขายของฝากในจังหวัดตราด อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สับปะรดตราดสีทองราคาแพงขาดตลาด จึงต้องหยุดผลิตไปสักพัก แต่จะผลิตได้ในเร็วๆ นี้

ส่วน “น้ำพริกแกงป่าอบแห้ง” นั้น คุณชัยวัฒน์ บอกว่า ขายซองละ 30 บาท มีจุดเด่นตรงที่ใช้สมุนไพรพื้นบ้านและเห็ดในพื้นที่รวม 20 ชนิด ซึ่งไม่มีในพื้นที่อื่น อย่างเช่น กระวาน และหญ้ากระต่ายจามที่มีกลิ่นหอม เป็นสูตรโบราณของจังหวัดตราด โดยผลิตจากโรงงานแปรรูปที่อยู่ในบริเวณเดียวกับสวน เป็นโรงงานเล็กๆ ที่สร้างด้วยงบประมาณ 5 ล้านกว่าบาท รวมเครื่องจักรต่างๆ ด้วย และได้เครื่องหมาย อย. เรียบร้อยแล้ว

img_4590

ปีหน้าขอขึ้นราคาบุฟเฟ่ต์ผลไม้

เจ้าของสวนผลอำไพ บอกด้วยว่า ปีนี้การจัดบุฟเฟ่ต์ผลไม้ทำได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 2 เดือนกว่าเท่านั้น คือเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน มีนักท่องเที่ยวมาได้แค่ 1,000 กว่าคน เนื่องจากผลผลิตล่าช้าและมีปัญหาฝนแล้ง ขณะที่ปีก่อนๆ ภูมิอากาศปกติ จะเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเข้าชมได้หลายเดือน รับได้กว่า 3,000 คน อีกอย่างปีนี้เจอปัญหาราคาทุเรียนแพง ตกกิโลกรัมละ 100 บาท ในขณะที่ 1 คน ต้องใช้ทุเรียนประมาณ 1 กิโลกรัม (รวมเปลือกด้วย) ดังนั้น ในปีหน้าคงจะต้องเพิ่มราคาต่อหัวนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการบุฟเฟ่ต์ผลไม้ของสวนจากที่คิดอยู่คนละ 150 บาท

%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%9c%e0%b8%a5%e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%9e555

อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ใช่หน้าผลไม้ แต่ปกติสวนผลอำไพก็จะมีผู้คนมาศึกษาดูงานตลอด อย่างที่เกริ่นแต่แรก เพราะเป็นสวนเกษตรอินทรีย์ อีกทั้งยังนำพืชผักผลไม้มาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าด้วย ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วมีเกษตรกรบ้านเราจำนวนน้อยที่จะสามารถทำแบบคุณชัยวัฒน์ได้ เพราะการแปรรูปต้องมีโรงงานที่ได้มาตรฐาน ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนหนึ่ง และด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในยามผลผลิตล้นตลาด ทางราชการจึงได้ช่วยสนับสนุนคุณชัยวัฒน์ในการซื้อห้องเย็นมาเก็บวัตถุดิบ

สนใจผลไม้แปรรูปของสวนผลอำไพ หรือต้องการจะไปศึกษาดูงานเกษตรอินทรีย์ ติดต่อสอบถามคุณชัยวัฒน์ ได้ที่ โทรศัพท์ (081) 656-3841