“ราคาหนึ่งผืน ต่อชีวิตได้หลายวัน” มิสสุรินทร์ ขอเป็นสื่อกลาง ช่วยชาวบ้านขายผ้าไหม

"ราคาหนึ่งผืน ต่อชีวิตได้หลายวัน" มิสสุรินทร์ ขอเป็นสื่อกลาง ช่วยชาวบ้านขายผ้าไหม

 “ราคาหนึ่งผืน ต่อชีวิตได้หลายวัน” มิสสุรินทร์ ขอเป็นสื่อกลาง ช่วยชาวบ้านขายผ้าไหม

คุณโมนา-เมริกา ชนะกิจชินชน วัย 26 ปี เธอคือนางงามจากจังหวัดสุรินทร์ที่ชื่นชอบและคลั่งไคล้ผ้าไหม โดยเฉพาะผ้าไหมจากสุรินทร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ความละเอียด และผ้าทุกผืนล้วนมีเรื่องราว ซึ่งเธอได้สวมใส่ผ้าไหมสุรินทร์ในการประชาสัมพันธ์จังหวัดอย่างจริงจังมาตลอด 1 ปี 

แต่เพราะเกิดโควิด-19 ทำให้ผ้าไหมของชาวบ้านขายไม่ได้ ไม่มีแม้แต่คนรับซื้อ คุณโมนาจึงขออาสาเป็นสื่อกลางช่วยชาวบ้านขายผ้าไหม ด้วยการโพสต์ฝากร้าน ในกลุ่ม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เเละการฝากร้าน

คุณโมนา เผยกับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ว่า สิ่งที่ทำให้เธอคลั่งไคล้ผ้าไหมสุรินทร์ คือ กรรมวิธีการทอผ้าไหมของผู้สูงอายุ ที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยสาวๆ สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นพ่อแม่

“ผ้าโฮล” ผ้าไหมลายพื้นเมืองที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์

“ผ้าไหมสุรินทร์จะมีความโบราณ ไม่เชย ออกเท่ด้วยซ้ำ ทุกอำเภอในจังหวัดสุรินทร์จะมีการเดินแบบผ้าไหมด้วยการให้คนแก่ใส่ผ้าไหมที่ตัวเองทอมาเดินแบบ ปี 2562 ได้รับตำแหน่งนางงามทำให้มีโอกาสไปดูเวทีต่างๆ และได้ศึกษาจริงจัง จนรู้ว่ากว่าจะได้เส้นไหมแต่ละเส้นเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความละเอียดและความใส่ใจ หากทำลายที่ต้องอาศัยความละเอียดจะยากกว่าปกติ กว่าจะได้เต็มผืนใช้เวลานาน บางลายก็คิดขึ้นมาเองไม่เหมือนใคร ทำให้เราเข้าใจเลยว่าทำไมผ้าไหมถึงราคาแพง แต่สมัยนี้รุ่นลูกหลานไม่ค่อยมีใครสานต่อ กลัวว่าการทอผ้าไหมแบบนี้จะหายไป”

โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพทอผ้าไหมเป็นหลัก หรือบางส่วนก็ทำไร่ ทำนา หากเว้นว่างตกเย็นจะกลับมาทอผ้าไหมเป็นรายได้เสริม แต่พอโควิด-19 ระบาด ทำให้คนเฒ่าคนแก่ขายผ้าไหมไม่ได้

“ก่อนหน้านี้มีโอกาสแวะไปหมู่บ้านแกใหญ่ เป็นหมู่บ้านที่ผู้สูงอายุยึดอาชีพทอผ้าไหมเป็นหลัก หลายคนอยู่คนเดียว เพราะสามีเสียชีวิต หรือลูกหลานสร้างหนี้ไว้ต้องหาเลี้ยง ได้เจอกับคุณยายวัย 90 ท่านหนึ่ง แกเดินหลังค่อมตากแดดร้อนๆ มาหาเราที่ศาลาหมู่บ้านพร้อมกับนำผ้าไหมมา 3 ผืน คุณยายบอกว่ามีผ้าเหลืออยู่เท่านี้ และเป็นผืนที่เก็บไว้มานานไม่เคยคิดจะขาย แต่ตอนนี้ต้องนำออกมาขาย เมื่อก่อนเคยได้ยินเขาพูดกันว่า สะสมผ้าไหมก็เหมือนการสะสมทองคำ คำนี้อาจใช้ไม่ได้แล้วในตอนนี้ บางคนถึงกับนำผ้าไหมไปจำนำ”

“ปกติผ้าไหมที่ชาวบ้านทอไว้ จะนำมาขายวันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดนัดผ้าไหม ชื่อตลาดสีเขียว แต่พอเกิดโควิด ตลาดปิด ผ้าไหมขายไม่ได้ และไม่มีคนรับไปขาย หนักมากสำหรับชาวบ้าน เพราะเป็นรายได้หลัก ถ้าขายได้ ผ้าไหมหนึ่งผืนราคา 2-3 พัน สามารถอยู่ได้หลายวัน”

ด้วยเหตุนี้ คุณโมนาเลยขออาสาเป็นตัวกลาง นำเรื่องราวความทุกข์ของชาวบ้านมาเผยแพร่ หวังเป็นสื่อกลางช่วยชาวบ้านหารายได้จากการทอผ้าไหม

“อยากเป็นส่วนหนึ่งช่วยประชาสัมพันธ์ให้ขายผ้าได้ หรือถ้าขายไม่ได้ก็ถือว่าเราได้เอาผ้าสวยๆ มาให้คนกรุงเทพฯ ได้ชื่นชมว่าผ้าไหมสุรินทร์สวยแค่ไหน ตอนนี้มีคนติดต่อเข้ามาเยอะเหมือนกัน อยากช่วยอุดหนุนชาวบ้าน ตอนนี้ขายได้แล้ว 10 ผืน เงินที่ได้นำส่งให้คนทอด้วยตัวเอง สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 088-086-0789”