ตำนานความหอมกว่า 100 ปี “น้ำอบนางลอย” ทำอย่างไรเมื่อปีนี้ไม่มีวันสงกรานต์!!

ตำนานความหอมกว่า 100 ปี “น้ำอบนางลอย” ทำอย่างไรเมื่อปีนี้ไม่มีวันสงกรานต์!!

“น้ำอบนางลอย” ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำอบแบรนด์แรกๆ ของประเทศไทยที่สร้างตำนานความหอมมายาวนาน กว่า 100 ปี แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิต และประเพณีไทยมาเนิ่นนานจนเป็นที่รู้จักของคนทุกรุ่น ปัจจุบันแม้กาลเวลาเปลี่ยนผ่าน แต่น้ำอบนางลอยยังคงดำเนินกิจการที่สร้างความท้าทายให้กับทายาทรุ่น 4 คุณน๊อต-ดิษฐพงศ์ ธ.เชียงทอง 

ย้อนตำนาน “น้ำอบนางลอย” 100 กว่าปี 

คุณน๊อต เล่าย้อนถึงที่มาที่ไปของน้ำอบนางลอย ให้ฟังว่า “น้ำอบ” ถือเป็นเครื่องหอมที่คนสมัยโบราณนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องประทินผิว การทำน้ำอบจะใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอม นำมาอบ ร่ำ ในน้ำให้มีกลิ่นหอมเย็นเป็นธรรมชาติ ซึ่งต้องทำใช้ทุกวัน เพราะอายุการใช้งานสั้น

โดยหลักฐานการใช้น้ำอบไทย หรือเครื่องหอมแบบไทยมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และต่อเนื่องมาในสมัยอยุธยาตอนปลาย สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 ทรงโปรดปรานการใช้น้ำอบ น้ำปรุงมาก โดยมีการเผยแพร่สูตรให้ประชาชนทั่วไปได้ทำใช้ จนมาถึงรัชกาลที่ 5 เริ่มมีการนำเข้าสินค้าฝรั่ง เช่น น้ำหอมฝรั่ง ซึ่งมีกลิ่นหอมติดทนนาน อายุการใช้งานนาน

ภาพจาก https://nangloy.com/index.html

คุณย่าเฮียง หรือ แม่เฮียง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิธีการปรุงน้ำอบไทยมาจากเพื่อนของท่านจากในวัง จึงได้นำสูตรดังกล่าวมาศึกษาดัดแปลง นำกลิ่นหอมของดอกไม้และสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ มาผสมผสานกับน้ำหอมของฝรั่งที่เริ่มมีความนิยมในสมัยนั้น จนกลายมาเป็น “น้ำอบนางลอย” ที่มีกลิ่นหอมเย็นสดชื่น และมีสีเหลืองอำพัน

“น้ำอบนางลอย” เริ่มจำหน่ายครั้งแรกที่ ตลาดนางลอย ข้างวัดบพิตรภิมุข เขตจักรวรรดิ กรุงเทพฯ โดยในสมัยนั้นยังไม่มีการตั้งชื่อและยังไม่มีตราสินค้า ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้น้ำอบไทยของแม่เฮียงได้รับความนิยมมาก จนลูกค้าแนะนำกันปากต่อปากว่า “น้ำอบไทย ของแม่เฮียง ที่ตลาดนางลอย” และได้เพี้ยนไปเป็น “น้ำอบไทยนางลอย ของแม่เฮียง” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “น้ำอบนางลอย” ในปัจจุบัน

“สมัยก่อนยังเป็นการจำหน่ายด้วยการตวง ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นการบรรจุขวดเพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้น และได้เริ่มทำตราสินค้าขึ้นมา ใช้โลโก้รูปนางฟ้าลอยอยู่บนก้อนเมฆ ถือขวดน้ำอบ เพื่อสื่อถึงคำว่านางลอย ส่วนโทนสีใช้ แดง ขาว น้ำเงิน เพื่อสื่อถึงธงชาติไทย” คุณน๊อต ทายาทรุ่น 4 เล่า

ถึงเปลี่ยนรุ่น แต่ทุกอย่างยังคงเดิม 

ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณน๊อต-ดิษฐพงศ์ ธ.เชียงทอง ได้วางมือจากงานประจำ แล้วกลับมาช่วยกิจการที่บ้านจริงจังในฐานะทายาทรุ่น 4 ถึงขนาดไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ เพื่อนำมาดูแลกิจการ โดยมีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษาธุรกิจในปัจจุบัน

“ผมเข้ามาเรียนรู้งานเรื่อยๆ แต่ยังไม่เต็มตัว เริ่มเข้ามาดูแลกิจการจริงจังเมื่ออายุ 30 ต้นๆ นับเป็นเรื่องที่ท้าทายเหมือนกัน ผมเห็นมาตลอดว่าธุรกิจอยู่ตัวแล้ว ยอดขายจะดีเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ และได้เห็นว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำมาเพื่อดูแลธุรกิจมีอะไรบ้าง คนรุ่นก่อนจะใช้ประสบการณ์ในการบริหารมาตลอด ไม่ได้มีการวางแผนระยะยาว ผมเคยคิดนำทฤษฎีด้านบริหารที่ร่ำเรียนมาปรับใช้ แต่พอทำจริงแล้ว หลายอย่างยังปรับไม่ได้”

คุณน๊อต ยกตัวอย่างให้ฟังว่า สิ่งที่นำทฤษฎีมาปรับใช้ไม่ได้ คือ การประเมินยอดขาย เพราะน้ำอบนางลอยขายได้แค่ช่วงเดียว คือ เทศกาลสงกรานต์ จึงไม่สามารถคิดผลกำไรได้ หากคิดจะดูเหมือนว่าขาดทุน

ภาพจาก เพจ น้ำอบนางลอย

“ถึงจะนำทฤษฎีมาปรับใช้ แต่สิ่งที่ยังคงไว้ยังเกินครึ่ง เริ่มจากตัวผลิตภัณฑ์ เรายังคงไว้ทั้งกลิ่นและรูปลักษณ์แบบดั้งเดิมที่ทำมานานกว่า 100 ปี เพราะแบรนด์เราเป็นภาพจำของทุกคน ส่วนกระบวนการผลิต ณ ปัจจุบันเรายังใช้แรงงานคนถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนล้วนมีความชำนาญ พนักงานที่อยู่กับเราฝ่ายผลิตมีประมาณ 15 คน ฝ่ายจัดส่งอีก 3-4 คน ซึ่งแต่ละคนอายุงานมากที่สุดคือ 40 ปี แต่ในอนาคตอาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร เพราะแรงงานคนหายากขึ้น”

“ตอนนี้ที่ยังไม่นำเครื่องจักรเข้ามาใช้แทนแรงงานคน เพราะผมห่วงว่าเครื่องจักรอาจจะเกินความจำเป็น ด้วยแรงงานคนจะทำได้เรื่อยๆ สมมติทำได้วันละ 100 ขวดต่อวัน 3,000 ขวดต่อเดือน แต่ถ้าหากใช้เครื่องจักรที่ทำได้วันละ 3,000 ขวด กลายเป็นว่ายอดผลิตเกินความต้องการ น้ำอบไทยที่เราผลิตตอนนี้มี 3 ไซซ์ การใช้แรงงานคนแค่นำขวดมาสลับว่าวันนี้จะทำไซซ์ไหน แต่ถ้าเครื่องจักรเราต้องหยุดและเซตเครื่องใหม่ ถ้าตัดสินใจเปลี่ยนต้องคุ้มค่าและทดแทนได้จริงๆ”

3 ขั้นตอนทำ “น้ำอบนางลอย”

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้านางลอย มี 4 ชนิด 1. น้ำอบไทย ที่ผลิตเป็นสินค้าหลัก 2. แป้งหินร่ำ แป้งเม็ดเล็ก กระปุกสีขาว ทำมาจากแป้งหินที่สกัดมาจากหินปูน นำมาหยอดเป็นเม็ดฉีดด้วยน้ำหอมกลิ่นเฉพาะของทางแบรนด์ซึ่งเป็นคนละกลิ่นกับน้ำอบนางลอย มีสรรพคุณ เป็นแป้งเย็น ลดผดผื่น สิว ฝ้าได้ 3. ดินสอพอง ทำมาจากดินขาว เนื้อหยาบกว่าแป้งร่ำ ใช้ผสมของเหลวนำมาพอก คุณสมบัติใกล้เคียงกับแป้งร่ำ ช่วยคลายความร้อนทำให้รู้สึกเย็นขึ้น ชาวบ้านสมัยก่อนนิยมใช้ทาก่อนออกแดด 4. เทียนอบ ใช้อบขนม อบผ้า ใช้วัตถุดิบจากสมุนไพร เช่นเดียวกับที่ใช้ทำน้ำอบไทย

(ซ้ายบน) เปลือกชะลูด, (ขวาบน) กำยาน, (ซ้ายล่าง) ผงจันทน์เทศ, (ขวาล่าง) สีผึ้ง /ภาพจาก https://nangloy.com/index.html

“น้ำอบนางลอยมี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1. นำสมุนไพรมาอบกับน้ำ คือ เปลือกชะลูด (เปลือกไม้ที่มีกลิ่นหอม) นำมาต้มกับน้ำแรกเพื่อสกัดสีกับกลิ่นอ่อนๆ ของชะลูดให้ลงไปอยู่ในน้ำ จากนั้นนำน้ำต้มชะลูดมาใส่โถอบ แล้วจะนำสมุนไพร กำยาน จันทน์เทศ น้ำตาลทรายแดง ผิวมะกรูด ขี้ผึ้ง มาตำละเอียด ตักใส่ถ้วยตะคัน หรือถ้วยดินเผา ซึ่งจะวางไว้บนแท่นเหนือน้ำ ที่เผาไว้จนร้อนแดง ปิดฝาเพื่อให้ควันอบอยู่ในน้ำ โดยจะอบทั้งหมด 9 รอบให้สีเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนได้สีของน้ำอบนางลอย 2. การปรุงกลิ่น นำน้ำที่อบแล้วจากขั้นตอนแรกถ่ายใส่ในโถบรรจุ ใส่พิมเสนบดละเอียดเพื่อให้มีความเย็น จากนั้นนำหัวน้ำหอมเฉพาะของนางลอยผสมลงไปในน้ำที่อบแล้ว คลุกกับแป้งหินตำละเอียด แล้วค่อยนำแป้งดูดซึมน้ำหอมไปละลายในน้ำอีกที เราจะบอกลูกค้าเสมอว่ากลิ่นหอมของน้ำอบนางลอยอยู่ในแป้ง เมื่อเปิดใช้พยายามเขย่าขวดให้กลิ่นฟุ้งขึ้นมา 3. คือการบรรจุ กรอกใส่ขวด ปิดจุก ปิดฝา ติดฉลากตรงตัว และฉลากตรงคอ บรรจุใส่กล่อง และเตรียมจำหน่ายต่อไป”

สำหรับอายุการใช้งาน คุณน๊อต บอกว่า อายุเฉลี่ยหลังการผลิตหากเก็บไว้ในที่ร่ม ปิดจุก ปิดฝา ไม่มีอากาศเข้าไป จะมีอายุเฉลี่ย 2-3 ปี แต่ถ้าเปิดแล้วจะแนะนำให้ใช้ให้หมด เพราะมีวัตถุดิบบางตัวที่มาจากธรรมชาติ เมื่อโดนอากาศเข้าไปสีจะเข้มขึ้น แต่คุณภาพยังเหมือนเดิม

“เสน่ห์ของน้ำอบไทยอยู่ที่กลิ่น กลิ่นหอมเป็นคุณสมบัติหลักเลยที่เรายังคงไว้” คุณน๊อต ย้ำ

ทำอย่างไรเมื่อปีนี้ ไม่มีวันสงกรานต์!

และเช่นทุกปี ที่ยอดขายของน้ำอบนางลอยจะสูงสุดเมื่อถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ปีนี้กลับไม่เหมือนเคยเพราะผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ปีนี้ประเทศไทยงดจัดงานสงกรานต์ทั่วประเทศทายาทรุ่น 4 ถึงกับบอกว่า ปีนี้ อาการหนัก

“การดำเนินงานของเรา หลังเทศกาลสงกรานต์ ช่วงเดือนมิถุนายน เป็นต้นไปเราจะเปิดไลน์ผลิตยาว เพื่อสต๊อกไว้สำหรับขายวันสงกรานต์ปีหน้า โดยจะเริ่มขายช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และขายดีที่สุดกลางเดือนมีนาคม ลูกค้าส่วนใหญ่คือร้านสังฆภัณฑ์ทั่วประเทศ”

ภาพจาก เพจ น้ำอบนางลอย

“แต่ปีนี้ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดไม่มีเทศกาลสงกรานต์ คุณพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจมาตลอดได้สั่งให้หยุดการผลิตไว้ก่อน เพราะมีแนวโน้มว่าจะขายออกไม่ได้ เนื่องจากหลายที่สั่งปิด แต่เราก็ยังต้องดูแลพนักงาน มีต้นทุนด้านค่าจ้างอยู่ เพราะไม่ใช่ความผิดเขา แต่ผิดที่เราไม่มีงานให้ทำ ฉะนั้นเรายังต้องจ่าย 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม เรายังพยายามแบกรับภาระตรงนี้ไว้ ไม่ถึงกับเดือดร้อนขนาดว่าต้องปิด”

“สต๊อกที่เหลือยังเก็บไว้ขายได้ในปีหน้า โชคดีที่ว่าอายุการใช้งานอยู่ได้นาน 2-3 ปี ในแต่ละปีปกติกจะขายได้ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ที่ผลิตไว้ จึงยังมีสต๊อกเก่าที่นำมาขายข้ามปีได้”

ถามคุณน๊อต ถึงผลิตภัณฑ์ของเขา นอกจากวันสงกรานต์แล้ว สามารถใช้ในช่วงไหนได้บ้าง

“ตั้งแต่สมัยโบราณ น้ำอบอยู่ได้ทุกเทศกาล เพราะเริ่มมาจากใช้บนร่างกาย แต่คนนิยมใช้มากที่สุดช่วงวันสงกรานต์ เพราะถือเป็นวันปีใหม่ไทย เป็นเทศกาลงานมงคล แต่จริงๆ แล้วอยู่ได้ทุกเทศกาล งานบุญ งานบวช งานแต่ง เป็นสิ่งที่อยู่ในประเพณีไทยมานาน แต่ด้วยความที่ใช้ได้ทุกเทศกาลทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้าไปอยู่ในงานอวมงคลต่างๆ จนหลายคนคิดว่า น้ำอบเป็นสิ่งไม่มงคล ไม่กล้านำมาใช้ในงานมงคล”

เทียนหอมนางลอย ภาพจาก เพจ น้ำอบนางลอย

“และปัจจุบันนี้ยุคสมัยเปลี่ยน เด็กรุ่นใหม่มักมองว่าเป็นของโบราณ มีแต่รุ่นตายายที่ใช้ เพราะเหตุนี้ผมถึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา คือ เทียนหอมอโรม่า จริงๆ มีมานานแล้วแต่เราเพิ่งมาทำสูตรของเราเอง มีสองกลิ่น คือ น้ำอบ และแป้งร่ำ เริ่มจากเล็กๆ เพื่อทดลองตลาด ฟีดแบ็กที่ได้กลับมาค่อนข้างดี ทำให้เรารู้ว่า ยังมีคนที่ชอบกลิ่นของเราอยู่ ค่อยๆ นำเสนอไป” ทายาทรุ่น 4 เล่าถึงความตั้งใจ

กลยุทธ์สำคัญพา “น้ำอบนางลอย” อยู่คู่คนไทยนาน 100 กว่าปี

ถึงปัจจุบัน “น้ำอบนางลอย” ที่เรารู้จักกันได้กลายเป็นตำนานสร้างกลิ่นหอมมานานกว่า 100 ปี แล้วทำอย่างไรถึงได้อยู่คู่คนไทยมานานขนาดนี้

“ผมพยายามคงคุณภาพไว้ให้เหมือนเดิมมากที่สุด เพราะเรารู้แล้วว่าความยืนยาวคือตัวผลิตภัณฑ์และคุณภาพ เราจะไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์ที่เป็นภาพจำของผู้บริโภค ผมภูมิใจที่มีคนมองเราไม่ใช่แค่สินค้า แต่มองเราไปถึงตำนาน ประวัติ ทุกคนสนใจเรื่องราว อาจจะขายได้ไม่ดีเท่าสินค้าแบรนด์อื่น แต่คนสนใจสตอรี่เรา มีความสุขที่ได้อ่านความทรงจำของทุกคนว่าผลิตภัณฑ์ของเราไปสร้างความสุขความทรงจำให้เขายังไงบ้าง”

ท้ายนี้ คุณน๊อต ทายาทรุ่น 4 ย้ำกับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ว่า “ผมกับคุณพ่อจะพูดคุยกันเสมอว่า น้ำอบนางลอย ไม่ใช่แค่กิจการ แต่เป็นวัฒนธรรมที่ควบคู่สังคมไทยมานาน เราทุกคนภูมิใจ ไม่ใช่แค่เราขายของ แต่ผลิตภัณฑ์ของเราอยู่คู่กับเทศกาลสงกรานต์ ยังมีคนนึกถึง เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ยังไม่หายไป เป็นสิ่งที่เราอยากอนุรักษ์ไว้”