สาวป.โทวิศวะสบช่องตลาดสัตว์เลี้ยงมาแรง ผลิตกระโจม-เปลน้องหมา ลูกค้าตอบรับดี

เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้คนในบ้านเรานิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น โดยเฉพาะสุนัข-แมว  ฉะนั้นผู้ประกอบการหน้าใหม่หน้าเก่าทั้งหลายจึงเข้าสู่ตลาดนี้กันอย่างคึกคัก ซึ่งถ้าไปในงานอีเวนท์เกี่ยวกับเจ้าตูบ-เจ้าเหมียว ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรืออิมแพค เมืองทองธานี รวมทั้งในห้างสรรพสินค้าต่างๆ  จะเห็นชัดเลยว่าธุรกิจนี้ยังไปได้ดี อนาคตยังแจ่มใสเพราะเจ้าของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นชนชั้นกลาง-สูง มีกำลังซื้อสูง

สังเกตุได้ว่าผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เริ่มต้นจากการเป็นเจ้าของสัตว์น่ารักเหล่านั้น กระทั่งพัฒนามาเป็นเจ้าของธุรกิจ

อย่างคุณระวิวรรณ ฌายีเนตร หรือคุณนุ่น กับคุณ เบญวรรณ ตานนท์  หรือคุณแหม่ม สองสาววัย 30 ต้นๆ ซึ่งมาร่วมกันทำสินค้าแฮนด์เมดของสุนัขและแมว มีทั้งกระโจม, เปลแมว และผ้าพันคอ ฯลฯ  ชื่อแบรนด์ วิฬาร์มาลิน โดยมักจะออกบูธขายตามงานอีเว้นท์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

เริ่มจากขายผ่านเฟซบุ๊ค

สำหรับคุณนุ่นนั้น จบปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีและการจัดการด้านการขุดเจาะปิโตรเลียมนอกชายฝั่ง สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย  ส่วนคุณแหม่ม  จบปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมีอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ชื่อแบรนด์เก๋ๆนี้  คำว่า”วิฬาร์”มาจากชื่อแบรนด์ของคุณแหม่มที่ทำก่อนหน้านี้ รวมกับมาลิน ชื่อเดิมของคุณแม่คุณนุ่นเอง เลยนำมารวมกันเป็นวิฬาร์มาลิน

แม้แบรนด์ วิฬาร์มาลิน เพิ่งออกสู่ตลาดได้ไม่กี่เดือน แต่ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะนอกจากจะเป็นสินค้าโดดเด่นไม่เหมือนใครแล้ว ยังเป็นงานฝีมือที่หาได้ยากในยุคสมัยนี้ อีกทั้งยังราคาสมเหตุสมผล เมื่อไปออกงานที่ไหนจึงมีลูกค้ามาอุดหนุนตลอด โดยเงินลงทุนที่ร่วมกันลงขัน 1แสนบาท ได้ทุนคืนมาเรียบร้อยแล้ว

คุณนุ่นเล่าว่า ก่อนที่จะมารวมตัวกันเป็นแบรนด์”วิฬาร์มาลิน” (WilaaMalin)  ตัวเองและแหม่มทำงานประจำเป็นวิศวกรบริษัทตามสาขาที่เรียนจบมา แต่ย้อนเวลากลับไปปีที่แล้ว ครอบครัวมีร้านอาบน้ำ-ตัดขนน้องหมาเล็กๆ ทำกันเองง่ายๆ จึงอยากปรับปรุงให้ร้านดูดีขึ้น สะอาดสะอ้าน น่ารักๆ  โดยช่วยปรับปรุงโดยการลงทุน และเพิ่มส่วนเพ็ทช๊อป พร้อมสั่งสินค้าจากจีน และจตุจักรมาลงขายในร้าน เช่นเสื้อผ้า และข้าวของเครื่องใช้น้องหมา/แมว ขณะเดียวกันคิดว่าการแข่งขันค่อนข้างสูง ร้านเป็นแค่ปลาตัวเล็กในตลาด หากไม่มีสินค้าของตัวเอง ก็ต้องคอยวิ่งแข่ง และถูกปลาใหญ่กิน

img_7261

 

ด้วยเหตุนี้เองเลยเริ่มออกหาไอเดียจากอินเตอร์เน็ต ตามเว็บไซต์ทั้งใน-นอกประเทศ และไปร่วมงานตามงานแสดงสินค้าไอเดียต่างๆ จากจุดเริ่มต้นตรงนั้นทำให้ได้ไอเดียทำผ้าพันคอปักเป็นหน้าน้องหมาน้องแมว พร้อมใส่ชื่อและเบอร์โทร  เสื้อผ้า และบ้านกระโจมออกมาขาย โดยเริ่มจากขายออนไลน์ทางเฟซบุ๊ค และออกบูธขายตามงานต่างๆ งานแรกที่ออกคืองานของโครงการรักษ์แมว ที่ช่วยหาบ้านให้เหล่าน้องแมวจรจัด และให้ร้านค้าต่างๆมาขายสินค้าในงาน ซึ่งในงานนี้เองได้พบกับหุ้นส่วนธุรกิจคือ”แหม่ม”

ตั้งเป้าส่งออกต่างประเทศด้วย

สำหรับคุณแหม่มเล่าถึงแรงบันดาลใจของการทำธุรกิจนี้ว่า จุดเริ่มต้นคือรับแมวมาเลี้ยง 2 ตัว ตัวแรกชื่อสมหญิง ตัวต่อมาชื่อสมคิด วันหนึ่งอยากได้เปลแมวสวยๆ ออกไปหาซื้อตามท้องตลาดก็ไม่มีที่สวยถูกใจ เนื่องด้วยความที่แหม่มส่วนตัวชอบทำงานฝีมือ เลยไปขอยืมจักรเพื่อนมา เปิด Youtube หัดเย็บไปเรื่อย จากนั้นก็ไปหาซื้อผ้า อุปกรณ์ต่าง ๆ มาทำเองตามที่อยากจะได้ ผลงานที่ออกมาสวยถูกใจ และมีคุณภาพดี

“พอทำเสร็จเอาไปแขวน แมวชอบนอนมาก รู้สึกดีใจมากที่แมวชอบในสิ่งที่เราทำให้ แล้วก็โพสต์รูปลงในเฟซบุ๊กเรื่อยเปื่อย ปรากฏว่ามีเพื่อนๆมากดไลค์จำนวนมาก ทั้งมาจ้างให้ทำ ยุให้ทำขาย แหม่มเลยได้ไอเดียลองขายในเฟซบุ๊ก จนเปิดเป็นแฟนเพจ และออกขายตามงานอีเว้นท์ต่างๆ เช่นกัน โดยมีสินค้าเป็นเปลแมว เบาะแมว บ้านกระโจม และอื่นๆ”

คุณนุ่นให้รายละเอียดอีกว่า จากการที่สองคนออกขายสินค้าในงานของโครงการรักษ์แมว และอีเว้นท์ต่างๆ ทำให้รู้จักกันมากขึ้น และคงเป็นเพราะคุยกันถูกคอ พูดภาษาเดียวกัน เพราะเป็นวิศวะทำงานออกแนวลุย ห้าวและถึก ประกอบกับชอบงานผ้างานฝีมือ และทำสินค้าคล้ายๆกัน เลยตัดสินใจมารวมตัวกันเป็นร้านเดียวภายใต้ชื่อวิฬาร์มาลิน เพื่อพัฒนาสินค้าและขยายตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%82%e0%b8%88%e0%b8%a11

สินค้าหลักๆตอนนี้แบ่งเป็น 3 อย่างหลักๆ คือกระโจม, เปลแมว และผ้าพันคอ สินค้าทั้งหมดสามารถสั่งได้ที่เพจของร้าน และยังออกขายตามงานต่างๆ โดยจะแจ้งลูกค้าทางหน้าเพจว่ามีอีเว้นท์ที่ไหนบ้าง เพื่อให้ลูกค้าได้ทราบและตามไปหากสะดวก  ช่องทางติดต่อทางร้าน อย่างเฟซบุ๊ค WilaaMalin  IG: wilaamalin Line: @wilaamalin  Email: [email protected]

“เรามีร้านอยู่หลังห้างพารไดซ์พาร์ค แต่ไม่ใช่ช็อปแบบมีสินค้าวางอยู่บนชั้นให้ลูกค้าเข้าซื้อ คือพวกเราอยากเป็นเหมือนแกลอรี่ไว้โชว์ผลงาน และเป็นเวิร์คช๊อปใช้สร้างสรรค์งานมากกว่า แต่หากลูกค้าท่านไหนอยากมาเยี่ยมเยียน และเล่นกับแมวก็มาได้เลยเพียงนัดกันก่อนเท่านั้น”

คุณนุ่นบอกว่า บ้านกระโจมมีหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่เล็กสุดสำหรับกระต่าย ไปจนถึงใหญ่สุดสำหรับผู้ใหญ่เข้าไปนั่งได้ ราคาขึ้นกับไซส์ ดังนี้ S 1190, M 1390, L 1590, XL 2100, XXL 3100 & Extra 5400 บาท  เปลแมว 350 บาท  ผ้าพันคอ 80 – 360 บาท

คุณนุ่นเล่าถึงที่มาที่ไปของการทำกระโจมขายว่า เริ่มจากแมวที่เลี้ยง ตอนแรกซื้อเบาะมาให้แมวนอน ปรากฏว่าไม่นอนเลย รู้สึกโมโห ว่าเสียเงินแล้วทำไมไม่นอน แต่แมวมีพฤติกรรมอยู่อย่างหนึ่งคือชอบเข้าถุงมาก เลยจัดการเอาเบาะใส่ถุงมัดปากเจาะรูด้านข้าง ปรากฏว่าแมวชอบมาก คิดว่าคล้าย ๆ กระโจม จากนั้นเลยลองหาไอเดียจากอินเตอร์เน็ต ลองผิดลองถูก ลองวาดแบบดรออิ่งโดยใช้วิชาความรู้ทางวิศวกรรม จากนั้นซื้อผ้าและอุปกรณ์มาขึ้นเป็นต้นแบบหลังแรก และปรับปรุงมาจนถึงปัจจุบัน มีลายและสีให้เลือกมากมาย

img_6194

สำหรับลูกค้าวิฬาร์มาลิน คุณนุ่นบอกว่า มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ฐานลูกค้าชาวไทยค่อนข้างมีฐานะ ชอบงานมีเอกลักษณ์ และยินดีจ่าย เพราะต้องยอมรับว่าบ้านกระโจมสัตว์เลี้ยงค่อนข้างมีราคา และไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐาน ส่วนลูกค้าชาวต่างชาติมีทั้งที่พักหรือมาเที่ยวในประเทศไทย และที่สั่งซื้อออนไลน์ .ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ชอบมาก ทั้งสีสัน และคุณภาพผ้า โดยลองจับเนื้อผ้า และตรวจสอบดูความแข็งแรง ซึ่งไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่ยังคงทนทานอีกด้วย

“สินค้าทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นกระโจม เปลแมว และผ้าพันคอ เราผลิตเองทั้งหมด ตั้งแต่เดินเลือกซื้อผ้า ตัด ปักและเย็บ ไปจนแพ็คพร้อมขาย พวกเรามีทีมเย็บของพวกเราเอง ทำให้ง่ายต่อการดีไซน์ออกแบบ และการควบคุมคุณภาพ ในส่วนกำลังการผลิต ขั้นตอนหลักที่ต้องใช้ความชำนาญและ QC อย่างหนักคือเรื่องเย็บ เราทีทีมช่างจำนวนหนึ่งที่ทำงานของเราอย่างเดียว และก็มีอีกกลุ่มที่เป็นมือปืนมาช่วยช่วงงานเยอะ”

%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a7

คุณนุ่นยังเล่าถึงฟีดแบ็กจากการออกงานเพ็ทเอ็กซ์โปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อไม่นานมานี้ว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่แบรนด์วิฬาร์มาลินมาออกงานเพ็ทเอ็กซ์โป  ซึ่งถือเป็นงานใหญ่มาก ยอดขายในงานค่อนข้างดีเลยทีเดียว ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น และยังมีลูกค้าตามมาสั่งซื้อในเพจภายหลังจากจบงานเรื่อยๆ และที่สำคัญได้ลูกค้าต่างประเทศ และลูกค้าขายส่งในประเทศที่อยากซื้อสินค้าไปขายต่อ เพื่อไปวางตามโรงแรมสุนัขและแมวต่างๆ นอกจากนี้การที่ไปออกบูธงานใหญ่ ๆ เป็นการเปิดประตูให้ได้พบเจอลูกค้าที่น่ารัก ได้รับฟังคำแนะนำติชมเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ

วางแผนผลิตสินค้าตกแต่งบ้าน

เธอพูดถึงคู่แข่งในตลาดว่า  มองว่ายังน้อย ที่เห็นมีแค่ 2-3 เจ้า คงเพราะเป็นงานแฮนด์เมดด้วยเลยทำค่อนข้างยาก โดยงานของวิฬาร์มาลินค่อนข้างเด่นกว่าที่มีในตลาดทั่วไปด้วยสีสัน และลายผ้าแพทเทิร์นที่พยายามหามาตลอด เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น และไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่

คุณนุ่นเล่าถึงปัญหาอุปสรรคของธุรกิจนี้ว่า ปัญหาหลักคือเรื่องส่งออก ตั้งแต่แพกเกจจิ้งของสินค้า ไปจนถึงการทำเอกสาร และการขนส่งเพื่อส่งออก ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่ จึงต้องหาข้อมูลความรู้มาก  ยกตัวอย่างเช่น มีลูกค้าชาวอังกฤษแนะนำเรื่องถุงผ้าใส่กระโจม  ทั้งที่คิดว่าถุงผ้าคือที่สุด ดีงาม เหมาะกับบ้านกระโจม และให้อารมณ์ความเป็นแฮนด์เมดสุดๆ แต่ลูกค้ากลับบอกว่าไม่เหมาะกับการส่งออกไปยังต่างประเทศ เพราะไม่ปกป้องตัวสินค้า และไม่สะดวกต่อการขนส่ง ซึ่งตรงนี้ทำให้ได้คิด และหาวิธีเพื่อพัฒนาต่อยอดการบรรจุผลิตภัณฑ์ต่อไป เท่ากับเปิดมุมมองสู่ตลาดโลกเลยทีเดียว

 สำหรับแผนธุรกิจสองสาวแจกแจงว่าพวกเราอยากส่งออกลุยตลาดโลก เราวางตัวเองไว้ทั้งเป็นผู้ผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และขณะเดียวกันก็เป็น OEM ด้วย แต่คงต้องเลือกลูกค้า และประเทศที่จะส่งออก เพื่อให้ไม่มีการแข่งขันทางด้านราคากันเอง ขณะเดียวกันเราก็คงยังออกตามงานอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จัก และสร้างฐานกลุ่มลูกค้าที่ติดตามและรักในงานของพวกเรา ถ้าเป็นไปได้อยากออกงานในต่างประเทศด้วย เพื่อให้ได้ลูกค้าที่มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งออนไลน์ เพราะโลกออนไลน์ไม่เคยหลับ พวกเรายังคงใช้ช่องทางนี้โปรโมทและจำหน่ายสินค้าไปเรื่อยๆ”

review-6

 นอกจากนี้จะไม่หยุดเฉพาะวงการสัตว์เลี้ยง มองว่ากระโจมเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง ดังนั้นอยากขยายตลาดออกไปสู่ตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน

คุณนุ่นสรุปประสบการณ์จากการทำผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในช่วงไม่กี่เดือนว่า ธุรกิจนี้มองว่าจะง่ายก็ไม่ง่าย จะยากก็ไม่ยาก ดังนั้นต้องจับให้ถูกจุด เพราะสินค้าเป็นอะไรที่เรียกว่า “คนใช้ไม่ได้ซื้อ” จะทำอย่างไรให้สัตว์เลี้ยงชอบใช้ แต่ความสวยงามต้องเตะตาจนคนเลี้ยงควักกระเป๋าซื้อ แม้ตลาดจะใหญ่แค่ไหน ถ้าทำของออกมาไม่ถูกใจก็ไม่มีประโยชน์ อย่างไรก็ตามมั่นใจมากว่าด้วยความตั้งใจจริง การคิดแบบวิศวกรรม และการวางแผนอย่างมีระบบ จะช่วยให้แบรนด์วิฬาร์มาลินไปถึงฝันได้แน่นอน

นับเป็นผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงอีกรายที่เติบโตและขยายตลาดได้ในระยะเวลาไม่ถึงปี โดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นหน้าร้านก่อนที่จะตระเวนออกบูธขายตามงานอีเว้นท์ต่างๆ ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ