เจ้าของร้านดอกไม้ ปิ๊งไอเดีย หยิบ “หน้ากากอนามัย” มาจัดพวงหรีด หารายได้สู้พิษโควิด!

เจ้าของร้านดอกไม้ ปิ๊งไอเดีย หยิบ “หน้ากากอนามัย” มาจัดพวงหรีด หารายได้สู้พิษโควิด!

พวงหรีดหน้ากากอนามัย – ทุกสิ่งทุกอย่าง สามารถเป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ แม้จะอยู่ในยุคที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ไม่อาจขวาง คุณอมรรัตน์ สุมาลี วัย 56 ปี เจ้าของร้านดอกไม้ ขุนต้น ฟลอริสต์ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้การคิดนอกกรอบ มองหาช่องทางในการทำมาหากิน เธอให้สัมภาษณ์กับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ถึงผลกระทบจากโควิดต่อธุรกิจดังกล่าว

คุณอมรรัตน์ สุมาลี วัย 56 ปี เจ้าของร้านดอกไม้ ขุนต้น ฟลอริสต์ ในจังหวัดอุตรดิตถ์

โดยเธอเล่าว่า ร้านดอกไม้ ขุนต้น ฟลอริสต์ เปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยมักมีลูกค้าที่เป็นหน่วยงานราชการเข้ามาใช้บริการ สั่งพวงหรีด ช่อดอกไม้จากร้านเธอเป็นประจำ ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินมาได้เรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ แต่เมื่อถึงยามที่ไวรัสระบาด แน่นอนว่าร้านรับจัดดอกไม้เล็กๆ ของเธอ ก็เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากทั้งโรคและ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ออกมา

“จริงๆ ช่วง มกรา กุมภา มันยังไม่ได้กระทบมากเท่าไหร่ เพราะอยู่ในช่วงแรกๆ ของการระบาด แต่พอมาเดือนมีนา เมษา มันก็กระทบเราเต็มๆ เพราะปกติจะมีคนมาสั่งดอกไม้ไปอวยพร หรือสั่งไปจัดงานแต่ง บางงานเราก็ลงทุนไปซื้อดอกไม้มาแล้ว ก็โดนขอเลื่อนบ้าง ยกเลิกออร์เดอร์กันไปก่อน มันก็ทำเราขาดรายได้ไปเลย เราก็ไม่อยากโทษใครเนอะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ควบคุมยาก ป้าก็พยายามประคองลูกน้องไว้ เพราะไม่อยากให้เขาออก เขาทำงานกับเรามานาน ถ้ามันจะรอดก็ให้มันรอดด้วยกัน” คุณอมรรัตน์ เล่า

โดยที่ร้าน มีพนักงานประจำอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ชีวิต ที่ในช่วงนี้มีนโยบายให้สลับวันกันมาทำงาน เพื่อช่วยกันเอาตัวรอดในยามลำบากเช่นนี้

“ที่ร้านมักได้รับงานใหญ่ๆ งานวีไอพีมาตลอดค่ะ ตอนนี้นี่แทบจะไม่มีออร์เดอร์เข้ามาเลย น้อยมาก มีแต่งานพวงหรีด ซึ่งเงินที่ได้มามันก็ไม่มากพอที่เราจะอยู่ได้แบบไม่ตัดใครออก บางวันไม่มีงานเข้ามาเลย แต่เรามีลูกน้อง ก็ต้องควักเนื้อตัวเองมาช่วยลูกน้อง ทีนี้ก็มองรอบๆ ตัว เห็นเขาขายเจล ขายแมสก์กันเต็มเลย เราจะไปลงทุนแบบเขาก็ไม่ไหว พอดีร้านเสริมสวยข้างๆ เขาเอาแมสก์มาขาย เราก็เกิดไอเดีย ลองเอามาประยุกต์เข้ากับของที่เรามี ซึ่งมันก็เป็นพวงหรีด ที่ยังพอขายได้อยู่ ก็ไปซื้อของเขามาทำ อย่างน้อยก็ช่วยๆ กันไปในยามนี้ ตอนเราทำก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะขายได้ไม่ได้ ก็เอามาทำ อะไรที่พอทำได้แล้วได้เงิน เราทำหมด มันดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย” เจ้าของร้านรายเดิม ว่ามาอย่างนั้น

หลังจากที่ลองทำพวงหรีดหน้ากากอนามัยออกมา ลูกสาวของคุณอมรรัตน์ลองโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็มีคนสนใจและทักเข้ามาสอบถามอยู่บ้าง รวมถึงคนที่รู้จักกันในจังหวัดก็ช่วยกันโพสต์แนะนำ โพสต์ขาย จึงทำให้ร้านดอกไม้ของเธอ มีออร์เดอร์พวงหรีดหน้ากากอนามัยเข้ามาบ้าง

“ตอนนี้ก็ทำออกมาได้อาทิตย์กว่าๆ แล้วค่ะ ออร์เดอร์ก็ไม่ได้เยอะนะ คนเขาไม่ค่อยอยากใช้ตังค์กัน แต่เราลองทำดู เพราะเราไม่ได้หวังเรื่องเงินเก็บแล้ว รายได้เราลดลงแต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เราหวังแค่พยุงและประคองปากท้องครอบครัวและลูกน้องเราให้รอดก็พอ มีมาตรการ 5 พัน ก็จับลูกน้องลงทะเบียนหมด มันลุ้นกันวันต่อวัน ว่าวันนี้เราจะไปรอดไหม เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ถ้ายังเป็นต่ออีก 2-3 เดือน เราตายแน่นอน ตอนนี้ก็อาศัยเอาตัวรอดไปวันๆ ก่อน” คุณอมรรัตน์ ว่าอย่างนั้น

คุณอมรรัตน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในการทำพวงหรีดหน้ากากอนามัย ไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติมจากเดิมมากนัก เพราะทางร้านไม่ได้ตุนของแต่อย่างใด อาศัยมีออร์เดอร์เข้ามาแล้วจึงไปซื้อวัตถุดิบมาทำมากกว่า

“พวงหรีดร้านเรา ปกติเรตมันจะอยู่ที่ 500, 800, 1,000 ถ้าลูกค้าสั่งให้ใส่แมสก์หรือเจลล้างมือเข้าไป เราก็ลดพวกดอกไม้ลง ให้ราคามันยังเท่าเดิมที่เรารับได้ ลูกค้ารับได้ แต่ก็นะ ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างมันดีขึ้นเร็วๆ” คุณอมรรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

หากใครสนใจ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID : 0815323970

เผยแพร่ครั้งแรก วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2563