“ข้าวหมกไก่ซัลมา” ของหรอยปากพนัง ยึดหลัก “ขอแค่ตั้งใจ ทุกอย่างจะสำเร็จ”

ปากพนัง เป็นชื่ออำเภอหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานและยังเป็นเมืองคมนาคมทางน้ำที่สำคัญ ทำให้เกิดประเพณีวัฒนธรรมที่เก่าแก่และไม่เหมือนที่ใดในโลก ได้แก่ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราช

โดยมีความเป็นมาสืบเนื่องมากว่า 700 ปี จากตำนานที่เล่ากันว่า ในปี พ.ศ. 1773 ขณะที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์ของนครศรีธรรมราช กำลังสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์อยู่นั้น ชาวเมืองอินทปัตย์ซึ่งกำลังเดินทางไปนมัสการพระธาตุที่ศรีลังกา ได้ถูกพายุพัดจนเรือแตกและมีผู้รอดชีวิตเพียง 10 คน มาขึ้นฝั่งที่เมืองปากพนัง พร้อมด้วยผ้าขาวผืนยาวที่มีภาพพุทธประวัติเขียนไว้ เรียกกันว่า “ผ้าพระบฏ”

ชาวเมืองปากพนังจึงนำมาถวายพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช และพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้โปรดให้นำผ้าดังกล่าวขึ้นห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 และตั้งแต่นั้นมาจึงทำต่อเนื่องกันจนกลายเป็นประเพณีสำคัญของชาวพุทธสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน

นอกจากจะมีประเพณีเก่าแก่ที่สำคัญแล้ว ปากพนัง ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญในอดีต ทำให้มีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าขึ้นมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารอร่อยที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง หนึ่งในนั้นคือ “ข้าวหมกไก่” อาหารที่หลายคนคุ้นเคยแต่อาจจะมีเพียงไม่กี่ร้านที่ทำได้อร่อยและหลายคนติดอกติดใจ หนึ่งในนั้นคือ “ร้านซัลมา” ปากพนัง

วันนี้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีโอกาสดีได้มาชิมข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ และซุปวัว ของอร่อยของที่นี่ที่ได้รับการบอกกล่าวปากต่อปากว่าเป็นของเด็ดพลาดไม่ได้

 คุณซัลมา-วรวรรณ อยู่เกตุ เจ้าของร้านซัลมา เปิดเผยว่า เปิดร้านมาตั้งแต่ พ.ศ. 2549 นับเป็นเวลา 13 ปีแล้ว

“เดิมเป็นคนปากพนังนี่แหละมาจากหมู่บ้านแสงวิมาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านส้มโอหวาน และได้มาพบรักกับสามีที่นี่ จึงมาเปิดร้านและใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่อร้าน คือ ซัลมา เพราะเป็นชื่อที่พ่อตั้งให้ ก็สู้มาทุกทางทั้งการเป็นเกษตรกร เคยเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ทำนา แม้กระทั่งทำนากุ้ง ก็เคยทำมาแล้ว

“เมื่อก่อนขายไข่เป็ดไข่เค็ม พอดีเพื่อนหาแม่ค้าขายข้าวหมกเลยไปลองขายดูในละแวกใกล้เคียงกัน เพื่อนๆ เปิดร้านขายอาหารใกล้ๆ กันมีทั้งหมด 9 ร้าน ปรากฏว่าเราอยู่ได้ร้านเดียว นอกนั้นต้องเลิกกิจการหมด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” อาจเป็นเพราะเราตั้งใจทำมาก สูตรอาหารของร้านจะใส่ใจทำเป็นพิเศษจึงอยู่มาได้ยาวนาน” คุณซัลมา บอก

และยังเปิดเผยถึงเคล็ดลับของร้านซัลมาว่า ความตั้งใจเป็นสำคัญ เราขายข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ และได้สูตรมาจากญาติของพ่อ เขาสอนให้ทำในวันเปิดร้านและก็ทำเองมาตลอดเลย ปรับปรุงสูตรมาเรื่อยๆ ที่มัดใจลูกค้านอกจากเมนูข้าวหมกไก่ ยังมีเมนูซุปวัว ซุปไก่ ข้าวมันไก่ และข้าวกล่อง เพราะที่ร้านจะใช้เครื่องแกงทำเองทั้งหมด กะปิก็ใช้ของที่บ้านทำเพราะเราทำนากุ้งมาก่อน จะรู้ว่ากุ้งอะไรเอามาทำกะปิได้อร่อย ของดีเป็นอย่างไร สูตรเครื่องแกงของร้านนี้จึงมาจากความตั้งใจ ทำให้ลูกค้าติดอกติดใจ

โดยเฉพาะข้าวหมกไก่ คุณซัลมา บอกว่า เครื่องจะคั่วเอง ทำเอง ใช้สมุนไพรอย่างดีมาทำเครื่องข้าวหมกไก่ บางครั้งลูกค้าก็สั่งเมนูผสมผสานกัน เช่น ข้าวหมกไก่เนื้อเปื่อย ข้าวอัญชันหมกไก่ ฯลฯ

สำหรับกลุ่มลูกค้าจะเป็นคนทั่วไปและข้าราชการทั้งอำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร ลามไปถึงอำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง ลูกค้ามีหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น สถานีอนามัย อบต. โรงเรียน ฯลฯ

ส่วนรายได้ คุณซัลมา แย้มให้ฟังว่า “ก็อยู่ได้ หลักหมื่นบาทต่อเดือน หากเป็นช่วงเทศกาลจะมีรายได้ดีมาก ลูกค้าจะสั่งยกหม้อไปเลี้ยงกัน ทั้งงานบุญ งานเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ ราคาข้าวหมกไก่มีตั้งแต่หม้อละ 1,500 ไปถึง 6,000 บาท แล้วแต่จำนวนที่ลูกค้าต้องการ”

คุณซัลมา บอกอีกว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะบอกปากต่อปากกันไป พอเอาไปเลี้ยง อบต.หนึ่งก็มีสั่งเข้ามาอีก อบต.หนึ่ง พอไปเลี้ยงโรงเรียนหนึ่งก็จะสั่งต่อๆ กันไปเกือบทุกโรงเรียน ทำงาน 10 กว่าปี อุปสรรคที่ร้านไม่มีเลย ขายดีมาตลอด แม้เศรษฐกิจไม่ดีก็ยังขายดีจนส่งลูกสองคนเรียนจบ สมความตั้งใจ

เมื่อถามว่าในอนาคตจะมีใครมารับช่วงกิจการต่อหรือไม่ คุณซัลมา บอกว่า “มีลูกชายมารับช่วงต่อ จะถ่ายทอดสูตรให้ เราจดบันทึกไว้ทุกสูตรที่ทำอย่างละเอียด จุดเด่นของร้านนอกจากข้าวเม็ดสวยอร่อย เครื่องแกงทุกอย่างทำเองแล้ว เวลาทำแต่ละครั้งจะตวงตามสูตร ทำให้อร่อยเหมือนเดิมทุกครั้งที่กิน”

ก่อนบอกทิ้งท้ายว่า “ทุกวันนี้ยังมีคนสนใจมาขอเรียนทำข้าวหมกไก่กับเราด้วย ก็สอนนะ บางคนประสบความสำเร็จ บางคนก็ไม่สำเร็จ คิดว่าเหล่านี้ต้องมาจากความตั้งใจเป็นสำคัญ”

สนใจแวะไปชิมข้าวหมกไก่ ข้าวมันไก่ ซุปไก่ ซุปวัว ฯลฯ ที่ร้านซัลมา แวะไปชมภาพความอร่อยกันก่อนได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ร้านซัลมา ปากพนัง หรือหากใครจะแวะไปชิมของจริง ร้านซัลมาจะเปิดทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00-15.00 น. โทรศัพท์จองล่วงหน้าได้ที่ (084) 056-4538

หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2563