“รถเข็นรักษ์โลก” ปฏิวัติ! วงการสตรีตฟู้ด หวังไทยขึ้นแท่น “มหาอำนาจทางอาหาร”

รถเข็นรักษ์โลก
รถเข็นรักษ์โลก

“รถเข็นรักษ์โลก” ปฏิวัติ! วงการสตรีตฟู้ด หวังไทยขึ้นแท่น “มหาอำนาจทางอาหาร” 

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ โดยถือฤกษ์ “วันแห่งความรัก” ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผล เป็นนวัตกรรม “รักษ์โลก” ที่มีความรักให้กับโลกใบนี้ ไม่น้อยกว่าใคร

“รถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีตฟู้ด” คือ นวัตกรรมที่เกริ่นถึง มี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ  หรือ สวทช. รับหน้าที่เป็น “หัวเรือใหญ่”

“ข้อมูลในปี 2560 พบว่ามีธุรกิจร้านอาหารริมทาง หรือ Street Food ของไทยมากกว่า 103,000 ร้านทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าตลาดสูงกว่า 270,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวมากขึ้นทุกปี โดยปัจจุบันธุรกิจ สตรีตฟู้ดของไทยเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 6 – 7 และมีแนวโน้มเติบโตขยายตัวถึงร้อยละ 10 จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก” ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ในฐานะประธานในพิธี เกริ่นนำอย่างนั้น

ก่อนบอกต่อ สตรีตฟู้ด จะมีส่วนแบ่งการตลาดจากการท่องเที่ยว อยู่ที่ร้อยละ 10-20 ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการผลักดันธุรกิจร้านอาหารริมทาง หรือ สตรีตฟู้ดของประเทศไทย ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบ และเป็นประเทศแห่งมหาอำนาจทางอาหาร

ทาง อว.โดย สวทช. จึงริเริ่มและคิดค้นหาทางยกระดับสตรีตฟู้ดไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัยในการบริโภคอาหาร สุขอนามัยและความสะอาดของร้านและผู้ปรุงอาหาร รวมถึงคุณภาพของการให้บริการ และความอร่อย ให้สอดคล้องกับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้ก้าวเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์

“นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มชื่นชอบอาหารสตรีตฟู้ด และอาหารท้องถิ่น ของไทยมากขึ้นทุกปี ดังนั้น การยกระดับคุณภาพและความสะอาดปลอดภัยของอาหารสตรีตฟู้ด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยการพัฒนาอาหารในรูปแบบสตรีตฟู้ด ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ สะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน แต่คงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยไว้ รวมไปถึงการจัดระเบียบจราจร อีกด้วย” รมว.อว. ระบุ

และบอกอีกว่า “รถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีตฟู้ด” นี้ คือ “ผลงานเชิงประจักษ์” ของรัฐบาล  ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งของผู้ประกอบการสตรีตฟู้ดและผู้บริโภค  เมื่อนักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น ผลดีที่จะตามมาย่อมมีมหาศาล แถมยังจะยั่งยืนอีกด้วย

ด้าน ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. โดย ศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม (DECC) ได้ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำเร็จแล้วในวันนี้ และยังมีเป้าหมายส่งมอบนวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลก จำนวนไม่น้อยกว่า 100 คัน ให้กับผู้ประกอบการ   สตรีตฟู้ดได้ใช้งานจริงในการประกอบกิจการ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการและกระตุ้นให้เกิดการใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม

โดยวางรูปแบบการพัฒนาแบ่งเป็น 4 โมเดลหลัก เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ประกอบการสตรีตฟู้ด ดังนี้ 1) รถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี, ถังบำบัดและซิงค์น้ำ 2) รถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี, ถังบำบัดและซิงค์น้ำ +ระบบดูดควัน 3) รถเข็นน้ำหนักเบาพร้อมระบบน้ำดี, ถังบำบัดและซิงค์น้ำ+ ระบบดูดควัน + หัวเตาแก๊ส 2 หัว และ 4) ระบบตู้เก็บความเย็นพร้อมแท่นรับพ่วงข้าง ซึ่งภายใต้โครงการนี้ สวทช. จะทำให้ราคาเป้าหมายของรถเข็นนวัตกรรมรักษ์โลก เป็นราคาที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงได้

“รถเข็นรักษ์โลก เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้น โดยนำเอาความรู้ด้านวิศวกรรมเข้าไปช่วย เพื่อให้อาหารมีความสม่ำเสมอ ทำกี่ครั้งได้รสชาติดังเดิม สามารถขยายร้านค้าและขยายสาขาได้ เหล่านี้จะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสตรีตฟู้ด ทำงานสบายขึ้น ควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ ลูกค้าเองก็ได้ประโยชน์  ทุกคนมีส่วนช่วย ดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทาง” ผอ.สวทช. กล่าว

ขณะที่ คุณปรางมาศ เธียรธนู ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานลูกค้ารายย่อยและองค์กรชุมชน กลุ่มลูกค้าฐานรากและสนับสนุนนโยบายรัฐ กล่าวเสริมว่า ในโครงการนี้ ธนาคารออมสินจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ประกอบการ โดยมีงบประมาณสนับสนุนส่วนหนึ่งเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ใช้รถเข็นนวัตกรรมรักษ์โลกนี้ ในราคาเพียง 20,000 บาท และยังมีแคมเปญเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นแคมเปญพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อผู้ประกอบการภายในโครงการนี้เท่านั้น จำกัดเพียง 100 รายแรก

“คาดว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีบริษัทสตาร์ตอัพ เพื่อมาบริหารจัดการรถเข็นรักษ์โลกสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป และวางแผนขอการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องในด้านความแข็งแรงและความปลอดภัย เพื่อให้เอกสิทธิ์กับผู้ประกอบการที่ใช้รถเข็นนวัตกรรมรักษ์โลกนี้ ได้มีโอกาสที่มากขึ้นในการหาช่องทำเลตั้งในการค้าขายอาหารริมทาง เช่น ได้มีโอกาสจำหน่ายสินค้าในพื้นที่พิเศษที่เคยเป็นข้อจำกัดของอาหารสตรีตฟู้ด เช่น ในพื้นที่ปิด เช่น ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น” ผช.ผอ.ธนาคารออมสิน กล่าว

ท่านใดสนใจ “นวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลก” ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (02) 564-6310 -11  หรือ www.decc.or.th/streetfood