ฟิล์ม รัฐภูมิ ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาแมสก์ หลังยอดขายเพิ่มกว่า 30%

ฟิล์ม รัฐภูมิ ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาหน้ากากอนามัย หลังยอดขายเพิ่มกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ปรับตัวหากอนาคตคนเลิกใส่ เน้นทำลายแฟชั่นมากขึ้น

ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ดารา-นักร้องวิสัยทัศน์ไกล ขายแมสก์หรือหน้ากากอนามัย ( แมสก์คิวต์ Mask Cute) ตั้งเเต่ 5 ปีที่เเล้ว ช่วงนั้นคนไทยยังไม่ตื่นตัวเรื่องปัญหาฝุ่น PM2.5 ล่าสุดมีไวรัสโคโรนามาอีก เรียกว่าตอนนี้สินค้าขายดีเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ย้ำไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคา เน้นแมสก์ใส่สบายไม่รัดหู ลายแฟชั่น แพ็กเกจจิ้งน่ารัก ถอดซักได้  

ฟิล์ม รัฐภูมิ เล่าว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้วมีโอกาสไปประเทศจีน ไปเห็นว่าอากาศที่ประเทศจีนแย่มาก มีฝุ่น PM2.5 เยอะ จึงมองว่าอีกไม่นาน PM2.5 เข้าประเทศไทยแน่นอน เพราะพื้นที่ใกล้กัน จึงมองว่าถ้าฝุ่นเข้ามาไทย คนไทยจะรับมือกันยังไง เพราะหน้ากากอนามัยที่วางขายตามตลาด ส่วนใหญ่ประสิทธิภาพไม่สามารถกันฝุ่น PM2.5 ได้ ฉะนั้น จึงเริ่มลงมือทำหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นที่เล็กขนาด PM2.5 



หลังจากที่นักร้องหนุ่มเห็นโอกาส เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินกว่าหลักล้าน ปรากฏช่วงแรก ผลตอบรับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จึงคิดหาวิธีทำอย่างไรให้สินค้าติดตลาด

“ช่วงแรกแมสก์ขายไม่ดี ผมจัดกิจกรรมออกบู๊ธ โปรโมตตามงานอีเว้นต์ ในระหว่างจัดกิจกรรมก็พยายามบอกทีมงานให้ความรู้กับลูกค้า ว่าสินค้าสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้อย่างไร ฝุ่นอันตรายอย่างไร และสามารถการันตีได้เลยว่า แมสก์คิวต์ ได้รับใบอนุญาตว่าสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้” 

หลังจากนักร้องหนุ่มเริ่มบุกตลาด เจ้าตัว เล่าว่า ลูกค้ามองที่ความเป็นแฟชั่นมากกว่าการป้องกันฝุ่น เพราะหน้ากากอนามัยจะมีลวดลายแฟชั่น ประกอบกับนักแสดง นักร้องนิยมสวมใส่กัน “แมสก์ คิวต์” จึงเป็นที่นิยมด้านแฟชั่นเพิ่มมากขึ้น

“ช่วงแรกลูกค้ายังไม่คำนึงเรื่องฝุ่น เเต่มองว่าแมสก์คิวต์มีลายสวย ผมเลยออกแบบลวดลายเองทั้งหมด 6 แบบ และภายในแผ่นหน้ากาก ยังมีแผ่นกรอง เป็นฟิลเตอร์เพื่อกรอง PM2.5 รวมไปถึงแผ่นใยสังเคราะห์เพื่อกรองฝุ่นอีก 1 ชั้น และแผ่นคาร์บอนเพื่อกรองเชื้อโรคได้อีก สามารถถอดซักได้ตลอดระยะเวลาการใช้งาน เพื่อช่วยลดการเกิดขยะเพิ่มอีกด้วย”
ล่าสุดไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 กลับมามีค่าเกินมาตรฐาน และมีไวรัสโคโรนาระบาด ทำให้มียอดสั่งซื้อจากลูกค้ามากขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ 

“ขณะนี้คนไทยตื่นตัวเรื่องฝุ่นและไวรัสโคโรนามากขึ้น ซึ่งหากในอนาคตปัญหาฝุ่นและปัญหาไวรัสได้รับการแก้ไข ลูกค้าบางรายอาจจะเลิกใส่แมสก์ แต่เชื่อว่ายังมีลูกค้าบางรายที่ยังใช้อยู่ ในอนาคตจึงวางแผนไว้ว่าจะเพิ่มลวดลายและรูปแบบแมสก์ ให้เป็นแฟชั่นใช้งานง่ายมากขึ้น” 

ด้านราคาจำหน่าย หนุ่มฟิล์ม บอกว่า “หลายคนอาจจะมองว่าโอกาสนี้เป็นช่วงจังหวะที่จะขึ้นราคา เพราะความต้องการของลูกค้ามีมากขึ้น แต่ผมยืนยันว่าจะไม่มีทางเพิ่มราคาเพื่อเอาเปรียบลูกค้าแน่นอน เคยขายในราคา 100 บาท ก็ยังจะคงราคานี้อีกต่อไปเรื่อยๆ เพราะจุดประสงค์แรกที่ทำ ก็เพราะกลัวว่าคนไทยจะได้รับอันตรายมากกว่า”

ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์