อดีตพนักงานแบงก์ ผันตัวเป็น “นักปั้นแก้ว” ฝีมือดี งานเนี้ยบ โดนใจต่างชาติ

อดีตพนักงานแบงก์ ผันตัวเป็น “นักปั้นแก้ว” ฝีมือดี งานเนี้ยบ โดนใจต่างชาติ

นักปั้นแก้ว – “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีโอกาสได้ไปเดินตลาดแห่งหนึ่งแล้วไปเจอบู๊ธตุ๊กตาแก้วของสามีภรรยาคู่หนึ่ง สิ่งที่ดึงดูดนอกจากความสวยงามของตุ๊กตาแก้วที่วางไว้ให้เลือกซื้อ ก็เห็นจะเป็น “การสาธิตการปั้นแก้ว” ให้ดูแบบสดๆ นี่แหละ ที่ทำให้ใครต่อใครที่ผ่านมา หยุดดูได้ไม่ยาก

จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปพูดคุยสอบถาม ได้ความว่า คุณมิ้ง-สุนทรี อินบุญมา และคุณโจ-ไสว ชรินทร์รัมย์ วัย 50 ปี สองสามีภรรยาได้ยึดอาชีพการเป็นนักปั้นแก้วมากว่า 30 ปีแล้ว

คุณมิ้ง-สุนทรี อินบุญมา

“อาชีพปั้นแก้ว เป็นอาชีพของทางครอบครัวฝั่งพี่ ก็ทำเป็นกันหมดทั้งปู่ย่าตายายพ่อแม่แล้วก็พี่ พอพี่แต่งงานพี่โจเขาก็เลยพลอยทำเป็นไปด้วย เมื่อก่อนก็ทำเป็นอาชีพเสริม คู่กับการทำงานเป็นพนักงานแบงก์ทั้งคู่ ทำมาได้ 17 ปี ทีนี้พี่โจเขาเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ไม่สามารถทำงานหนักๆ ได้ ก็เลยต้องหันมายึดอาชีพปั้นแก้วเป็นอาชีพหลักแทน” คุณมิ้ง กล่าวอย่างนั้น

เธอกล่าวเสริมอีกว่า ความรู้ทางอาชีพที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า อย่างการเป็นนักปั้นแก้วนี้ ใช่ว่าจะไม่มีคนทำ กลับเป็นอาชีพที่คุณมิ้งเองก็ยอมรับว่า มีคนทำเยอะเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เธอและสามีนำความรู้ในการทำมาหากินที่มี มาปรับทำให้เข้ากับยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะชาวต่างชาติ

“ลูกค้าพี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ เพราะคนไทยไม่ค่อยให้ค่า เขาเห็นว่ามันคือของแต่งบ้าน คือของที่ไม่จำเป็นจะต้องซื้อก็ได้ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งไม่ค่อยซื้อกันเลย เพราะเขาจะเกิดคำถามที่ว่า ซื้อไปทำไม ซื้อแล้วได้อะไร ซึ่งตรงนี้พี่ก็ยอมรับว่ามันเป็นจุดอ่อนและถ้อยคำที่เจอจากคนไทยมาตลอดที่ยึดอาชีพนี้ พี่ก็พยายามจะหาคำตอบตรงนี้ให้ลูกค้าคนไทยเหมือนกัน ต่างกับต่างชาติ พอเขาเห็นเขาก็จะเข้ามาดูแล้วชมต่างๆ นานา ซื้อไปเป็นของแต่งบ้าน เป็นของฝาก พี่มีออร์เดอร์จากต่างชาติเยอะมาก ทั้งเกาหลี จีน ญี่ปุ่น อเมริกา รัสเซียก็มาสั่ง ปีๆ หนึ่งทำส่งต่างประเทศเป็นหมื่นๆ ตัว เพราะเขาจะสั่งเหมาไปขายบ้านเขา” คุณมิ้ง  กล่าว

คุณโจ-ไสว ชรินทร์รัมย์

แนวงานของคุณมิ้งและคุณโจ จะเป็นงานปั้นแก้วเกี่ยวกับสัตว์ และของมงคล โดยใช้แท่งแก้วจากเยอรมนี ออสเตรเลีย ซึ่งมีเนื้อแก้วที่ดี ทำให้งานมีความคล้ายคลึงกับงานปั้นหินอ่อนเป็นอย่างมาก

นอกจากบรรดาสิงสาราสัตว์แล้ว ก็รับทำงานตามออร์เดอร์ที่สั่งมาเช่นเดียวกัน ราคาจึงมีตั้งแต่ 20 บาท ไปจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน

“ตัวที่แพงที่สุดที่เคยทำมาเป็นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ ราคาประมาณหลักแสน ส่วนตัวที่ยาก มันก็ยากทุกงานนะ เพราะถ้าเราทำผิดนิดหนึ่งแล้วแก้วมันร้าว มันก็จะร้าวหมด เท่ากับว่าต้องมานั่งทำใหม่หมด เช่น งานปลาคาร์พที่ลูกค้าญี่ปุ่นสั่ง เขาบอกเอาให้เหมือนที่สุด เราก็ต้องมานั่งศึกษาแล้วว่า ปลาคาร์พพันธุ์นี้ ลักษณะมันเป็นยังไง หรือตัวมังกรเขี้ยวกุด พี่ก็ได้ออร์เดอร์และลิขสิทธิ์อนุญาตให้ทำจากอเมริกา ซึ่งเราก็เป็นเจ้าเดียวในไทยที่ทำได้ ก็ภูมิใจนะ รายได้มันก็ไม่แน่ไม่นอนหรอก เพราะงานมันมีเข้ามาเป็นล็อตๆ ถ้าเฉลี่ยรวมกัน 2 คนก็ประมาณ 3 หมื่น ก็ถือว่าอยู่ได้ เลี้ยงครอบครัวได้ เพราะพี่กับพี่โจก็ไม่ได้มีหนี้สินอะไร” คุณมิ้ง กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฟังดูเหมือนเป็นอาชีพที่ง่าย อีกทั้งยังเป็นนายตัวเอง คุณโจที่กำลังนั่งปั้นกวางอยู่ พูดเสริมขึ้นมาว่า

“งานแบบนี้มันไม่ได้ง่ายนะ ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก อดทนกับไฟร้อนๆ อดทนกับการต้องนั่งที่เดิมเป็นชั่วโมงๆ บางทีนั่งทำมาครึ่งวันยังไปไม่ถึงไหนเลย อย่างเรามันชำนาญแล้ว ถ้าปั้นตัวใสๆ อย่างเดียวก็ 15 นาทีเสร็จ บางวันนั่งทำมาจะเสร็จแล้วแต่เป่าสีผิดหรือเพี้ยน ก็ต้องมาเริ่มใหม่ มือก็ด้านเพราะอยู่กับไฟ แถมเสื้อผ้าก็เป็นรูจากความร้อนหมดแหละหนู” คุณโจ พูดกลั้วหัวเราะ

หากใครสนใจ สามารถเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจ Baan Changtam หรือโทรศัพท์ (089) 039-4809