ผู้เขียน | กนกพร หมีทอง |
---|---|
เผยแพร่ |
อย่าหยอกแรง “อาชีพมาสคอต” กว่าจะได้เงินไม่ง่าย ร้อนจนเป็นลม แถมโดนแกล้งประจำ
เห็นโพสต์จากพีอาร์สาวท่านหนึ่ง เล่าถึงเหตุการณ์ที่เห็นเป็นประจำ “ชอบมีคนแกล้งมาสคอต” รู้มั้ยว่าเบื้องหลังชุดคลุมน่ารัก และท่าทีทะเล้นๆ ที่เห็น ไม่ใช่ตัวการ์ตูนจริงๆ แต่คือคนที่ต้องใช้ความอดทนแบกชุดที่มีน้ำหนักมากถึง 5 กิโลกรัม แถมยังต้องทนกับอากาศร้อน ไหนจะมีคนแกล้ง และสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้อีกด้วย
“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จึงติดต่อขอพูดคุยกับ เก็ตเตอร์-นภดล ผุสดีไชย คือ เด็กหนุ่มวัย 21 ปี ที่หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เลือกที่จะเดินตามแนวทางของตัวเองชัดเจน โดยมีครอบครัวคอยเคียงข้าง หยุดเรื่องเรียนเพื่อหาประสบการณ์ชีวิต ใช้ความสามารถทางการแสดงหาเงินด้วยตัวเอง “ยึดอาชีพมาสคอต” ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้มากกว่าวันละพันบาท
“ผมเคยทำงานประจำมาก่อน เป็นพนักงานเซเว่นฯ แต่เพราะชอบการแสดง เลยหันมาทำอาชีพมาสคอตได้ประมาณ 3 ปี ทำแล้วสนุก ทุกการทำงานผมจะได้แสดงเป็นคาแร็กเตอร์ต่างๆ ดีใจทุกครั้งที่ได้ทำให้คนอื่นมีความสุข” น้องเก็ต บอกถึงที่มาของการทำอาชีพมาสคอต
แต่การทำอาชีพนี้ มีกฎเหล็ก คือห้ามให้คนอื่นเห็นหน้า ทั้งตอนถอด และใส่ชุด ที่สำคัญ ต้องห้ามยืนนิ่ง นั่นคือ สิ่งที่ต้องระวัง
“กฎของการทำงานคือ ห้ามให้คนอื่นเห็นหน้า และห้ามให้รู้ว่าคนในมาสคอตคือใคร เราต้องทำให้คนสนใจโปรดักต์ และต้องทำให้เด็กเชื่อว่า มาสคอตไม่ใช่คน แต่คือตัวการ์ตูนจริงๆ”
คาแร็กเตอร์แต่ละงานแตกต่างกันไป “ทำอาชีพนี้ห้ามยืนนิ่ง ใส่แล้วต้องเอ็นเตอร์เทนคนได้ เราจะโดนบรีฟคาแร็กเตอร์ของตัวละครไว้ก่อนทำงาน ตัวนี้จะเท่ๆ ตัวนี้จะทะเล้นนะ ซึ่งเราต้องอินไปกับตัวละคร และต้องทำให้คนดูอินตามด้วย ตลอดการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่หน้าฉากหรือหลังฉาก เราต้องคีพลุกส์คาแร็กเตอร์นั้นไว้ตลอด” เด็กหนุ่มวัย 21 เล่าถึงการทำงาน
ชุดหนัก อากาศร้อน โดนแกล้งบ่อย แต่ต้องนิ่ง
การทำงานแต่ละครั้ง ต้องแบกชุดมาสคอตที่ใครๆ ต่างมองว่าน่ารัก หนักประมาณ 4-5 กิโลกรัม ยืนทำงานเต็มวัน แต่ก็มีช่วงให้พักบ้าง ในสภาพอากาศร้อนระอุ น้อยครั้งที่จะได้ยืนทำงานในห้องแอร์เย็นๆ
“แอร์เย็นๆ ไม่ค่อยมีครับ ส่วนมากเป็นงานกลางแจ้ง บางชุดหนัก 4-5 กิโล ยืนเต้นกลางแดดร้อน ชุดมาสคอตมีพัดลมระบายอากาศ คล้ายพัดลมระบายอากาศของคอมพิวเตอร์ ส่วนมากผมจะปิดไปเลย เพราะช่วยอะไรไม่ได้มาก อาศัยหายใจเข้าลึกๆ หายใจทางปาก พกผ้าไว้เช็ดไม่ให้เหงื่อไหลมาบังตา”
เหนื่อยพอตัว จนบางครั้งถึงกับเป็นลม “ทำงานแรกๆ ไม่ได้เตรียมตัว ข้าวไม่ได้กิน คิดว่าใส่มาสคอตไม่มีอะไรมาก แค่ใส่ชุด แล้วออกไปยืนเต้นแค่นั้น จำได้เลยวันนั้น เป็นลม ล้มไปเลย เข้าใจแล้ว กลับไปฟิตร่างกาย ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายก่อนใส่ชุด กินข้าวกินน้ำให้เยอะไม่ต้องกลัวจุก ช่วยได้มาก”
ความลำบากอีกอย่างคือ ชุดมาสคอต ใส่แล้วจะมองเห็นไม่ชัด น้องเก็ต อธิบายว่า ใครที่เห็นมาสคอตเต้นเก่งๆ ซ้ายทีขวาทีได้ เพราะก่อนเริ่มงานคนใส่มาสคอตเขาดูสถานที่ไว้ก่อนแล้ว ว่าตรงไหนมีอะไรบ้าง ต้องเดินไปตรงไหน เป็นภาพโฮโลแกรมในหัว ทำให้เคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดอันตราย
แต่ก็มีบางครั้ง ที่ความน่ารักของชุดมาสคอตเป็นเหตุ ไม่ใช่แค่มีคนเข้ามาเล่น มาขอถ่ายรูป แต่มีคนเข้ามาแกล้ง น้องเก็ต บอกว่า โดนบ่อยมากๆ
“คนชอบมันเขี้ยว เพราะเป็นตัวละครที่ชอบ แต่คนสวมชุดอ่ะเดินลำบาก มีครั้งหนึ่ง ใส่ชุดแมวเดินอยู่ดีๆ มียายคนหนึ่งเดินมาต่อยหน้า ดังตึบ หัวหมุนเลย คนที่เดินอยู่ด้วยก็ตกใจ แล้วเตือนคุณยายว่าอย่าทำแบบนี้อีก ผมก็พยายามนิ่งไม่ตอบโต้ เพราะถ้าโมโหแล้วจะลงยาก อยู่ในช่วงการทำงาน ต้องรักษาตัวโปรดักต์ไว้”
ไม่ได้มีแค่กรณีเดียว 3 ปีที่ผ่านมา เจอคนแกล้งอยู่หลายครั้ง “ผมยืนอยู่กลางแจ้ง มีมาสคอตหลายตัว มีครอบครัวพ่อแม่ลูกเดินมา ชุดที่ผมใส่รั้งตรงเป้านิดหนึ่ง ก็ให้ลูกมาดึง ไม่ได้ดั่งใจ พ่อเลยมาดึงเอง ผมจุกมาก แต่ต้องคีพลุกส์คาแร็กเตอร์” น้องเก็ต เล่าถึงประสบการณ์สุดช้ำที่เคยเจอ
ในแต่ละเดือนน้องเก็ตจะรับงาน 7-8 งาน ผ่านบริษัทที่คอยหางานให้อีกที รายได้วันละ 1,000 บาทขึ้นไป
“ส่วนใหญ่แล้วงานที่รับ จะเป็นงานเปิดตัวสินค้า งานคอนเสิร์ต แต่ละงานจะมีคาแร็กเตอร์แตกต่างกันไป รายได้คุ้มค่าเหนื่อย จำได้ว่าทำแรกๆ ประสบการณ์น้อย ได้เงินไม่เยอะ แต่ทำไปเรื่อยๆ ประสบการณ์มากขึ้นคนก็ยอมที่จ่ายเงินจ้างงานเรา ช่วงเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน โรงเรียนเปิด งานจะเยอะมาก”
ท้ายนี้ น้องเก็ต บอกว่า “ถ้าเห็นมาสคอต อย่าหยอกแรง ห้ามใจไว้ก่อน นึกถึงคนข้างในด้วยว่า ร้อนแล้วยังมีคนมาแกล้งอีก แต่ถ้าเข้ามาเล่น จับมือ กอด ถ่ายรูป บอกได้ ผมยินดีมากๆ”