ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
กวยจั๊บดัง ปลื้ม “ชิมช้อปใช้” เพิ่มยอดขาย เสียดายแทนเพื่อนแม่ค้าไม่ใช้สมาร์ตโฟน
นนทบุรี นับเป็นจังหวัดเป้าหมายสำคัญ ของผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเมืองหลวงและมีเงินอยู่ในแอพ “เป๋าตัง” ตามโครงการ “ชิมช้อปใช้” ส่งผลให้บรรยากาศค้าขายในพื้นที่ยามนี้ ดูจะมีความเคลื่อนไหว คึกคักมาเป็นพิเศษ
สังเกตได้จากร้านค้าน้อยใหญ่ในย่านการค้าสำคัญ อย่าง ตลาดท่าน้ำนนท์ ที่แต่ละวันจะมีผู้คนสัญจรผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก ร้านค้าทั้งริมทางและในตัวตลาด อย่าง ร้านกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า เสื้อชั้นใน ฯลฯ ต่างกระตือรือร้น ร้องเรียกลูกค้ากันไม่ขาดสาย แถมนำแผ่นป้ายกระดาษมาห้อยหน้าร้านให้เห็นเด่นชัด ร้านนี้เข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” ด้วย
สังเกตเห็น ร้านกวยจั๊บ “เจ๊ล้วน” เจ้าดังเก่าแก่ ก็ยังห้อยป้ายข้างตู้ ร้านนี้รับ “เป๋าตัง” เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณสุรีย์รัตน์ เอื้อดุลเดชา หรือที่ให้เรียกแบบกันเองว่า เจ๊หมวย ตัวแทนกิจการ ในวัยหกสิบเศษ ให้ข้อมูลโดยแนะนำตัวเป็นการเริ่มต้นว่า ร้านกวยจั๊บ “เจ๊ล้วน” ขายมายาวนานกว่า 50 ปี ตั้งแต่สมัยคุณพ่อของเธอ ประจำอยู่ที่ตลาดท่าน้ำนนท์ ไม่เคยย้ายไปไหน ส่วนชื่อ เจ๊ล้วน นั้น เป็นชื่อของพี่สาว ซึ่งทุกวันนี้ยังลงมาช่วยงานในร้านบ้าง
เมื่อถามว่า ทางร้านเข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” ยุ่งยากมั้ย เจ๊หมวย ตอบคล่องแคล่วว่า ไม่ยากเลย แค่นำแบบฟอร์มมากรอก บอกชื่อร้าน มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงไทย นำบัตรประชาชนไปถ่ายสำเนา แจ้งเบอร์โทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ต โหลดแอพ ยื่นไป อีกไม่เกินสองวัน จะมีเจ้าหน้าที่มาปักหมุดร้านเราว่า ร้านนี้มีแอพถุงเงิน
“เราต้องทันสมัย แม้อายุหกสิบกว่าแล้ว อย่าทำตัวไม่ทันเด็ก แบบนั้นไม่ได้ ลูกค้าบางคนมานั่งกินคิดว่าเราช้า เราบอกคุณแหละช้า บางคนกดไม่เป็น เห็นเรากดเงินเข้ามาแล้ว แต่ไม่ปล่อยเงินมา เลยต้องอธิบาย ถ้าเรารับเงินแล้ว คุณถึงออกจากร้านพี่ได้ ไม่ใช่พอเรากดตัวเลขร้อยหนึ่ง แล้วคุณไม่ปล่อยเงินมา คุณออกไปจากโปรแกรม พี่ก็ไม่ได้ตัง พี่ก็เสียหาย เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งฯ แต่คุณได้เงินกันมาฟรีๆ ใช่มั้ยคะ” เจ๊หมวย อธิบายขั้นตอนการใช้แอพเป๋าตัง-ถุงเงิน ให้เห็นภาพชัด
ถามต่อ “ชิมช้อปใช้” ทำให้ได้ลูกค้าเยอะขึ้นมั้ย เจ๊หมวย ตอบไม่ลังเลว่า เยอะขึ้นจริง แม้ลูกค้าประจำเรามีอยู่แล้ว แต่ลูกค้าบางคนที่ได้แอพ “เป๋าตัง” มา เขาอาจไม่เคยกินกวยจั๊บร้านเรา พอเห็นว่าร้านเราเข้าร่วมโครงการ ก็แวะกิน บางคนบอกไม่เคยมาทาน อร่อยดี
“บอกหลานๆ ว่า โชคดีนะที่มีโครงการนี้ ทำให้เรียกลูกค้าได้เยอะขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง รายรับเพิ่มเห็นชัดเลย สมมติ ปกติขายได้วันละ 4,000-5,000 บาท เราจะได้เพิ่มขึ้นอีก 1,000-2,000 บาท ส่วนมากเป็นลูกค้าใหม่ มาทานเสร็จ ซื้อกลับบ้านกันที 5-6 ถุง” เจ๊หมวย เล่าน้ำเสียงร่าเริง
ก่อนลดเสียงต่ำ พร้อมสีหน้าหม่นลงเล็กน็อย และว่า โครงการนี้อาจดีสำหรับร้านของเธอ แต่รู้สึกสงสารเพื่อนแม่ค้าเจ้าอื่นเหมือนกัน ที่ไม่เข้าร่วมโครงการ เหตุเพราะบางคนไม่ใช้สมาร์ตโฟน ทำให้หลายครั้งเธอต้องไปช่วยเก็บเงินผ่านแอพแทน แล้วก็จ่ายเงินสดของเธอให้เพื่อนแม่ค้าไป
“ช่วยได้ ก็ช่วยกัน อย่างวันก่อน มีร้านตรงหัวมุมโน้น มีลูกค้ามาซื้อของ 500 กว่าบาท แต่ร้านเขาไม่มีแอพถุงเงิน ก็มาบอก เจ๊หมวยช่วยเก็บตังค์ให้ด้วย เสร็จแล้วเราก็จ่ายเงินสดของเราไปให้ เพราะยังไงเดี๋ยวแบงก์ก็โอนให้เราเอง” เจ๊หมวย บอกอย่างนั้น
และว่า กะจากสายตาตนเองแล้ว ทั้งตลาดท่าน้ำนนท์ มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เสียโอกาสไป ช่วงนี้เลยคะยั้นคะยอให้ไปสมัครกัน แม้มีเวลาถึงแค่สิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ
แสดงว่า โครงการ “ชิมช้อปใช้” นี้โดนใจ เจ๊หมวย ยิ้มกว้าง ก่อนบอกสั้นๆ เสียงดังฟังชัด
“ถ้าเขาลงมาระดับล่างก็ถือว่าโอเค แต่ทีนี้ เห็นได้ข่าวว่าไปลงตามห้างกันซะเป็นส่วนใหญ่”