ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
อยากเจ็บน้อยที่สุด! เลิกร้านกิจการ 20 บาททุกอย่าง…มีทางออกอย่างไรบ้าง
กระทู้น่าสนใจเมื่อไม่กี่วันก่อน ผ่านเว็บไซต์ “พันทิป” เจ้าของกิจการท่านหนึ่ง ออกมาระบุเรื่องราวของตัวเขา ว่า
“พอดี ผมนำของมาจากจีนครับ หลายอย่างเลย ผมลงทุนไปหนักมากๆ เลยครับ หลักล้านบาท เเละ หวังว่ามันจะขายดีครับ ผมจะมาเปิด เป็นร้าน ขายส่ง เเละ ปลีกไปพร้อมๆ กัน เเต่ดันไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะว่า ขายได้วันละ 500 – 2,000 เเต่ 2,000 เดือนนึง จะมีสัก 2-3 ครั้ง ส่วนมากจะ 500 วันๆ ไม่ถึง 500 ก็มี ค่าเช่าที่ ก็เดือนละ 18,000 ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน รวมๆ เดือนนึง ก็ 25,000 ++ ไหนจะค่ารถอีก เงินในบัญชี ก็ กำลังจะหมด ตอนนี้ผมคิดออกเป็น 2 ทางครับ
ทางที่ 1. ผมกะว่าจะไปหาที่ใหม่ เเล้วจะซื้อของจากร้านขายส่งมา เพื่อจะขายต่อ เพื่อให้ของมันครบ (คือตอนนี้ ของที่นำมาจากจีน เมื่อเทียบกับร้าน 20 ผมยังไม่ครบเหมือนเขา) เเต่ผมกลัวว่าที่ใหม่ก็จะไม่รอดเหมือนกัน
ทางที่ 2. ผมกะว่า จะโล๊ะของ นั้นนะสิทำยังไง ผมก็เลยคิดว่า ต้องไปติดต่อร้านขายส่งใหญ่ๆ เเต่ไม่รู้ว่า เขาจะเอารึเปล่า
เพราะของที่ตั้งอยู่ ตรงนี้มันก็ราคาหลักล้านนะ ผมวานผู้รู้ช่วยผมหน่อยครับ ผมมีสองทางนี้ ถ้าพวกคุณมีทางอื่นก็บอกผมได้นะครับ เผื่อจะช่วยผมได้ ขอบคุณมากครับผม”
ถัดมาไม่นาน มีสมาชิกเว็บดังกล่าว ท่านหนึ่งเข้ามาให้ข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ ที่น่าจะเป็น “ทางออก” ให้กับเจ้าของกิจการดังกล่าว ได้ไม่มากก็น้อย สามารถสรุปสาระสำคัญไว้ได้ดังนี้
จุดเด่นร้าน 20 ไม่ใช่แค่ว่าของต้องถูก แต่ของต้องมีครบและมีทุกอย่าง หากใครจะลงทุนแทบไม่ต้องสั่งของจากประเทศจีนเลยก็ได้ รับจากพวกยี่ปั๊วก็พอ แต่ของต้องมีให้ครบ ลูกค้าเดินเข้ามา ต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ ว่าต้องการอะไร ของเรามีมั้ย ไม่มี ก็ต้องรีบหา ซึ่งแต่ละท้องที่ มีความต้องการมากน้อยแต่ละอย่างแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานที่ เช่น เปิดร้านหน้าโรงเรียน ควรจะมีของเล่น เครื่องเขียน กิ๊ฟต์ช็อป เยอะขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าเปิดอยู่หน้าตลาด ควรเน้นพวกถุง ถัง กะละมัง พลาสติก จาน ชาม หรือแม้แต่ของพวกน้ำปลา น้ำมัน น้ำยาล้างจาน ผงชูรส อะไรก็ว่าไป
อย่าเน้นว่าทุกอย่างต้อง 20 บาท เจ๊งมาเยอะแล้ว ต้องเน้นขายทุกอย่าง มีทุกอย่าง ขายทุกราคา มีทั้งเกรด A เกรด B เกรด C ก็ว่ากันไป ซื้อของไม่จำเป็นต้องซื้ออย่างละเยอะๆ เน้นซื้อให้หลากหลาย และอย่าคิดว่าเราชอบจะขายได้ บางครั้งเราชอบแต่ลูกค้าไม่ชอบ ก็มี ส่วนสินค้าเกี่ยวกับเกษตร ควรมีลง ถ้าในท้องที่ที่คุณอยู่มีการทำเกษตร อุปกรณ์การทำเกษตรก็สำคัญ รองเท้าบู๊ต เกษตรแบบนี้ก็จำเป็น ดูลักษณะท้องที่ว่าต้องการอะไร
ขายของตามต้องการลูกค้า เราจะขายได้ สินค้าที่ได้ขายเรื่อยๆ พวกอุปโภค บริโภค ก็สำคัญ ยาสระผม สบู่ น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นต้น พวกนี้กำไรไม่มาก แต่สามารถดึงลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ ได้ บางร้านยังขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ หมวกกันน็อก ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับรถ ยังขายได้
สรุปเน้นแต่ละอย่าง ไม่ต้องลงของเยอะ แต่เน้นให้มีและครบ เดินเข้ามาต้องซื้อของออกไป ลูกค้ามาหาอะไร ถ้าไม่มี ต้องรีบหามาขาย การทำร้านให้น่าเดินก็สำคัญ เพราะร้านโล่งๆ ดูไม่ค่อยน่าเดิน เพราะคนคิดว่า ไม่มีอะไร แต่ร้านดูจัดรกๆ นี่ บอกเลย ขายดีมาก รกแต่ต้องไม่สกปรกนะ
“ร้านไม่ต้องมีขนาดใหญ่โตก็ได้ ร้านตามตึกแถว 1- 2 ห้อง ก็สามารถทำให้คนเข้าเยอะได้ ไม่มีอะไรมาก ของต้องครบ และดูแน่นๆ ร้าน ก็เท่านั้นเอง ไม่ใช่มีแค่ชั้นวางของ อยู่ 2-3 ตัว และเอาอะไรไม่รู้มาห้อย มันก็ขายไม่ได้ค่ะ ราคาสำคัญมั้ย อันนี้ เราว่า มีผลบ้าง แต่ไม่เท่าไหร่ ของบางอย่างเขาไม่ได้ซื้อประจำ ราคาก็ไม่สำคัญ แต่ของบางอย่างใช้ประจำ ราคาก็จำเป็น เพราะฉะนั้น หน้าที่คุณไม่ใช่ขายอย่างเดียว ต้องสืบตลาดรอบข้าง ว่าเขาขายกันเท่าไหร่ อ้อ เตือนอีกอย่าง คุณขายตามราคาตลาดก็ได้ ไม่ใช่ขายตัดราคา เพราะว่า คุณจะเพิ่มศัตรูการค้าทันที และคุณจำไว้ เมื่อคุณตัดราคาคู่แข่งคุณได้ คู่แข่งคุณเขาอยากขายเขาก็ตัดราคาคุณอีก ไม่จบไม่สิ้น สุดท้ายไม่เหลืออะไรกันเลย” สมาชิกผู้ให้คำแนะนำว่าอย่างนั้น
และยังบอกด้วยว่า ที่เธอมีคำแนะนำได้ในหลายประเด็นนี้ เนื่องจาก เคยเป็นเซลส์ขายของ 20 อยู่ทั่วประเทศ ขายมาตั้งยุคบูมๆ จนตอนนี้ หลายร้านก็ปิดตัวไปเยอะ อยู่ไม่ได้ก็มี (ที่อยู่ไม่ได้ เพราะไม่พัฒนาร้าน และอีกอย่างคือมันโกงและปิดร้านหนีไป) ส่วนที่อยู่ได้ ก็เพราะเหตุผลที่ แนะนำไปร้านต้องมีทุกอย่าง มีครบ บางร้านไม่ได้ใหญ่เลย แค่ 2 ห้องแถวเอง แต่เติมเดือนละเป็นแสน บางร้านใหญ่โต แต่ของโล่งร้านเลยก็มี เพราะร้านดันใหญ่ไป ของต้องแน่นเยอะ พอร้านดูโล่ง คนก็เลยไม่ค่อยอยากเข้า
“สินค้าที่นำเข้ามาจากจีนเองและเอามาตั้งขายเอง ก็มีความเสี่ยง เรื่อง สคบ. มอก. อย. ฯลฯ ถ้าเป็นพวกของเล่น เครื่องมือช่าง พวกนี้ ต้องมี มอก. ถ้านำเข้ามาเอง ต้องไปขออนุญาตให้ถูกต้อง เพราะไม่ถูกต้อง จะมีผลทางกฏหมายทันที ส่วนสินค้าของใช้ทั่วไปเรื่อง ฉลากสินค้า ยิ่งจำเป็น ฉลากสินค้ามีข้อบังคับอยู่ 9 ข้อในฉลาก คุณต้องรู้ และต้องปิดฉลากสินค้าให้ครบทุกชิ้น เพราะถ้าไม่ติดจะเข้าข่ายเรื่องกฎ ของ สคบ. ทันที” เป็นคำแนะนำต่อมา จากสมาชิกท่านเดิม