| ที่มา | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
Hej Street Beauty ร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ ผุดร้านไซซ์มินิ ตอบโจทย์สาวๆ รักความงาม
สำหรับผู้หญิงแล้ว เรื่องความสวยความงามเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกจำหน่ายเมื่อไร สาวๆ ก็พร้อมที่จะควักเงินในกระเป๋าออกมาซื้อแบบไม่ต้องคิดเยอะ ด้วยเหตุนี้ ส่งผลให้ธุรกิจความงาม เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นธุรกิจดาวรุ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ธุรกิจความงามในประเทศไทยเองก็ครึกครื้นไม่เป็นสองรองใคร มาในรูปแบบ มัลติแบรนด์ แหล่งรวบรวมเครื่องสำอาง สกินแคร์ ชั้นนำไว้ในที่เดียวกัน โดยมัลติแบรนด์ที่สร้างปรากฏการณ์ให้สาวๆ ยอมควักเงินช็อปเป็นแบรนด์แรกๆ คือ EveandBoy ตามมาด้วยการเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่อย่าง Beautrium และ Stardust จากค่าย MPG (แมงป่อง)
Hej Street Beauty มัลติแบรนด์สัญชาติไทย
Hej Street Beauty คือมัลติแบรนด์สัญชาติไทยที่คุณผู้หญิงให้ความสนใจ ชื่อนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจความงามเมื่อปี 2560 ปัจจุบันเปิดให้บริการ 5 สาขา คือ สีลม เซ็นทรัล พระราม 3 เซ็นทรัล หาดใหญ่ เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี และ โรบินสัน ชลบุรี ภายใต้คอนเซ็ปต์ ช็อป ชิล ชาร์จ แชร์ โดยมี คุณเจนนี่-จารุวัลย์ วงศ์เจษฎาสกุล ที่อยู่ในวงการแฟชั่นและบิ้วตี้มายาวนาน ดำรงตำแหน่ง ซีอีโอ ของบริษัท ซีโฟร์ โกลบอล จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TAPAC
“ปัจจุบันไทยมีมัลติแบรนด์ ที่ทุกคนรู้จักหลายแบรนด์ ถ้าเราจะทำมัลติแบรนด์ต้องทำให้แตกต่าง โดยใช้ประสบการณ์จากตัวเองในด้านแฟชั่นและบิวตี้ สร้างแบรนด์ให้ชัดเจน เหมือน Sephora แบรนด์ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จ ขยายสาขาไปทั่วโลก จะทำยังไงให้เราเป็น Sephora เมืองไทย”
ก่อนเล่าถึงที่มาของชื่อ Hej Street Beauty ให้ฟัง คำว่า Hej มาจากคำทักทายในภาษาสวีเดน ซึ่งออกเสียงว่า เฮ้! คล้ายการเรียกและทักทายเพื่อน ต่อท้ายด้วยคำว่า Street Beauty มีเพื่อเปลี่ยนความเข้าใจให้กับคนซื้อเครื่องสำอาง ไม่ต้องไปห้างใหญ่ที่บรรยากาศเงียบเหงา และต้องเจอกับความไม่เฟรนด์ลี่ของพนักงาน
“บรรยากาศแบบนี้ไม่ใช่กับคนรุ่นใหม่ เราต้องสร้างร้านให้ดูสนุก พนักงานเฟรนด์ลี่ Hej Street Beauty จึงวางคอนเซ็ปต์ ช็อป ชิล ชาร์จ แชร์ ให้ตอบโจทย์รุ่นใหม่มากที่สุด ฐานลูกค้าของเราคือ กลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ไปถึงระดับนักธุรกิจ”
ตามคอนเซ็ปต์ ช็อป ชิล ชาร์จ แชร์ ภายในร้าน Hej Street Beauty จะตกแต่งด้วยความทันสมัยสไตล์วัยรุ่น เน้นโทนดำและโทนชมพู เปิดเพลงคลอตลอดวันให้ลูกค้ารู้สึกเพลิดเพลินไปกับการช็อป มีโซน Make up Bar ให้สาวๆ เติมสวยระหว่างวัน โดยเมกอัพอาร์ติสต์มืออาชีพที่จะแวะเวียนไปตามสาขา และทุกวันศุกร์ทางร้านจะแต่งหน้าแบบครบเซตให้กับสาวๆ ฟรี ในกิจกรรม Friday Night Party Free Make-up นอกจากนี้ ยังมีมุมสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการทำเล็บ Nail Bar เมื่อซื้อชุดทำเล็บ ทางร้านจะติดเล็บให้สาวๆ แบบมืออาชีพฟรีทันที มุมนี้เหมือนร้านทำเล็บย่อส่วนเลยก็ว่าได้ และสำหรับสาวๆ ที่มากับแฟน หรือเพื่อน ทางร้านจะมีมุมให้นั่งรอ มี WiFi และที่ชาร์จแบตโทรศัพท์ไว้รองรับ
และสำหรับแบรนด์สินค้าที่เป็นพาร์ตเนอร์ คุณเจนนี่ บอกว่า Hej Street Beauty มีแบรนด์ให้ลูกค้าเลือกช็อปราว 400 แบรนด์ แบ่งเป็นแบรนด์ไทยประมาณ 20 แบรนด์ ที่เหลือคือแบรนด์ดังระดับโลก ที่ทุกคนรู้จัก
“แต่ละสาขาจะลงสินค้าไม่เหมือนกัน ต้องดูกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก อย่างสาขาสีลม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน จะนิยมซื้อทั้งแบรนด์ไทย และแบรนด์ระดับโลก โดยจะมีพนักงานดูแลลูกค้า ซึ่งผ่านการอบรมมาแล้วทั้งสเต็ปการเข้าหา สเต็ปการขาย การแนะนำเมมเบอร์ แนะนำโปรโมชั่น และการปิดการขาย”
มัลติแบรนด์ไซซ์มินิ
นอกจากสาขาทั้ง 5 ที่เปิดให้บริการแล้ว ซีอีโอสาว บอกว่า Hej Street Beauty ยังมีไซซ์มินิ ซึ่งเปิดให้บริการแล้วที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เซ็นทรัล ระยอง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เป็นบู๊ธตั้งอยู่ในพื้นที่ห้าง เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย รวมทั้งสร้างความอยากรู้ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้
“เราต้องการขยายสาขา ไม่ว่าพื้นที่นั้นจะเล็กหรือใหญ่ เราลงหมด แต่ถึงจะย่อไซซ์ แต่ความเป็นมัลติแบรนด์ยังมีอยู่ เราอาจจะต้องโฟกัสแต่ละสาขาให้มากขึ้น ดูว่าเหมาะกับโปรดักต์ไหน ซึ่งสามารถวางจำหน่ายสินค้าได้กว่า 500 ชนิด หากไม่มีสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ก็สามารถสั่งทางออนไลน์ได้เช่นกัน ตอนนี้สัดส่วนการซื้อออฟไลน์ยังได้รับความนิยมมากกว่า เพราะเครื่องสำอางต้องมาลองเทสต์สินค้าที่ร้าน คนที่ซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อซ้ำ”
แบรนด์ไทยอยากเข้ามาขายทำยังไง
คุณเจนนี่ ยอมรับว่า ปัจจุบัน มีเอสเอ็มอีหน้าใหม่ เข้ามาทำแบรนด์เครื่องสำอางจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนทำงาน นักศึกษาจบใหม่ มีเข้ามาสอบถามเรื่อยๆ ว่าจะนำแบรนด์ของตัวเองเข้ามาขายต้องทำอย่างไร ขายแฟรนไชส์หรือไม่ บ้านมีตึกแถวอยู่ต่างจังหวัดสามารถไปเปิดได้หรือไม่ แน่นอนว่าแฟรนไชส์เป็นหนึ่งในแผนธุรกิจที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่ต้องรอให้ระบบทุกอย่างนิ่งในระดับหนึ่ง คาดว่าจะเปิดแฟรนไชส์ได้ปี 2563 และหากอยากนำแบรนด์มาขาย สินค้าต้องได้คุณภาพ มี อย. รวมทั้งต้องนำสินค้ามาให้ทดลองก่อน
สำหรับในอนาคต Hej Street Beauty ยังคงเน้นขยายสาขาให้มากขึ้น ปักหมุดตามหัวเมืองใหญ่ ในเร็วๆ นี้จะเปิดให้บริการสาขาที่เดอะมอลล์ โคราช นอกจากนี้ ยังเล็งเปิดในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประเทศแรกที่ตั้งใจไว้คือ เวียดนาม เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคใกล้เคียงกัน
