”อัมสเตอร์ดัม” เมืองจักรยาน เหม็นเบื่อนักท่องเที่ยวเต็มที

”อัมสเตอร์ดัม” เมืองจักรยาน เหม็นเบื่อนักท่องเที่ยวเต็มที

นักท่องเที่ยวที่มาอัมสเตอร์ดัม ได้ยินชื่อเสียงความเป็นเมืองจักรยาน ก็พากันคลั่งไคล้อยากปั่นจักรยานบ้าง ทั้งที่อยู่บ้านตัวเองไม่เคยปั่น แต่มาปั่นที่อัมสเตอร์ดัม และต้องมีเซลฟี่เป็นประจักษ์พยานให้โลกรู้

คนอัมสเตอร์ดัม ที่ปั่นจักรยานจริงในชีวิตประจำวัน จึงต้องเผชิญกับความอลเวงของจักรยานที่นักท่องเที่ยวปั่นชิล ปั่นเพื่อเซลฟี่ ปั่นตามแต่ใจอยากเหมือนอยู่สนามหลังบ้านตัวเอง แต่คนอัมสเตอร์ดัมเขาต้องใช้ชีวิตปกติ เขาเบื่อมากมาย

อัมสเตอร์ดัมมีประชากร 800,000 คน แต่มีนักท่องเที่ยวปีละ 18 ล้านคนน่ะ คิดดู ที่ปั่นจักรยานกระจายระเหเร่ร่อน หรือที่ไปถ่ายเซลฟี่ในแปลงดอกทิวลิปของเขาจนป่นปี้ปีแล้วปีเล่า ก็เกินกว่าครึ่งของจำนวนนี้

สิ่งที่ทำให้เขาอิดหนาระอาใจ จนไม่อยากจะต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกต่อไปก็คือพฤติกรรมน่ารำคาญ ไม่มีกาลเทศะ หยาบคาย วุ่นวายของนักท่องเที่ยว ที่หนักหนาขึ้นมาในระยะหลายปีที่ผ่านมา

รายได้จากการท่องเที่ยวประเทศเขาไม่ใช่น้อย ปีละ 8 หมื่นกว่าล้านยูโร เขาเสียดายอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากทำลายความสงบสุขของผู้คนของเขาเพื่อรายได้พวกนี้

เขาคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวของอัมสเตอร์ดัมจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปีละ 18 ล้านคนในปัจจุบัน เป็น 42 ล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า เรียกว่ามากกว่า 50 เท่าของประชากรของเขาเลย

ถ้าไม่ทำอะไร ชีวิตสงบสุขของพวกเขาจะไม่เหลือ และอัมสเตอร์ดัมจะเป็นนรก

ปัญหานักท่องเที่ยวล้นเกินนี่ไม่ได้เกิดเฉพาะอัมสเตอร์ดัม มันเกิดขึ้นกับเมืองท่องเที่ยวในยุโรปหลายเมือง อย่างเวนิสนั่นก็อ่วมอรทัยอยู่ แต่รัฐบาลอิตาลี อยากได้เงินมากกว่ารัฐบาลเนเธอร์แลนด์ คนเวนิส โวยมาหลายปีแล้วเหมือนกัน แต่รัฐบาลเฉยเพราะยังอยากได้เงิน

เนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจเอาความสงบสุขของบ้านเมืองตัวเองไว้ มากกว่าจะหิวแต่เงิน ตอนนี้องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเนเธอร์แลนด์หยุดโฆษณาประเทศตัวเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว เขาประกาศวิสัยทัศน์ 2030 ที่จะเน้นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ไม่ใช่โฆษณาแหล่งท่องเที่ยว

นอกจากนั้นเขามีแผนจัดการกับนักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมวุ่นวาย ด้วยการควบคุมหรือก็สั่งปิด บรรดาที่พักหรือแหล่งบริการที่เปิดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ อันนี้พอเข้าใจกันง่ายว่าหมายถึงนักท่องเที่ยวจากไหน

นอกจากนั้นเขาก็พยายามกระจายนักท่องเที่ยวให้ไปแหล่งอื่นบ้างไม่ใช่กระจุกอยู่แต่อัมสเตอร์ดัม

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ ตัวอักษร I AMSTERDAM ที่เคยเป็นแหล่งถ่ายเซลฟี่สำคัญ อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (RIJKS MUSEUM) ที่ใครต่อใครที่มาอัมสเตอร์ดัมก็ต้องแวะถ่ายรูป ไปกระจุกแออัด วุ่นวายทั้งวัน บางคนมาถ่ายรูปอวดโลกเฉยๆ แล้วไม่สนจะเข้าไปพิพิธภัณฑ์ทั้งที่เขาเก็บงานศิลปะชั้นนำของโลกไว้ รวมทั้งงานของแวนโก๊ะ และแร็มบรันต์

ตอนนี้เขายกไอ้ตัวอักษรสัญลักษณ์สูง 2 เมตรนี้ออกไปแล้ว พวกสิงห์เซลฟี่หมดสิทธิ์ เขาบอกว่าจะเอาไปไว้ย่านที่ไม่มีใครไป ใครอยากตามไปเซลฟี่ก็เชิญ แต่เขาไม่ให้มาตกคลั่กกันหน้าพิพิธภัณฑ์อีกแล้ว

นอกจากนั้น ย่านเรดไลต์ หรือย่านที่เขาอนุญาตให้มีกิจการค้าประเวณีถูกกฎหมาย และกลายเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องแวะไปดู เขาก็ควบคุมไม่ให้เปิดร้านรวงอะไรเพิ่มเติม

 

รัฐบาลสั่งงดการส่งเสริมการท่องเที่ยวในย่านโสเภณีนี้ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา (อาชีพโสเภณีในเนเธอร์แลนด์ถูกกฎหมายตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา) ระบุว่าไม่อยากให้บรรดาโสเภณีถูกปฏิบัติเป็นสินค้าท่องเที่ยว เขาให้โอกาสทำธุรกิจในย่านนี้ไปจนถึงต้นปี 2020 หลังจากนั้นจะสั่งหยุดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวโดยสิ้นเชิง

ร้านขายสินค้าที่จับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวถูกแบน พวกให้บริการที่พักระยะสั้นก็ถูกห้าม เรียกว่าเขาไม่สนใจจะให้นักท่องเที่ยวเข้าไปวุ่นวายเลย

เดินเที่ยวอัมสเตอร์ดัมในยามนี้ จึงพึงสงบ สำรวม และรู้สถานภาพตนเอง กับตระหนักในความรู้สึกของเจ้าของบ้านให้จงดี แล้วจะมีชัย