หนุ่ม ปวช.ใช้เงินเก็บหลักหมื่น เปิดร้านขายข้าว ห่อละ 15 บาท ช่วยเหลือคนรายได้น้อย

หนุ่ม ปวช.ใช้เงินเก็บหลักหมื่น เปิดร้านขายข้าว ห่อละ 15 บาท ช่วยเหลือคนรายได้น้อย

‘ห่อข้าวหอม’ ร้านอาหารชื่อดังจากกระทู้ในพันทิปมาระยะหนึ่ง เป็นร้านขายอาหารเล็กๆ อยู่แถวสำโรง ขายราคาถูก มีเมนูอยู่ 2 อย่าง คือข้าวกะเพราไก่กับข้าวไข่เจียวเท่านั้น

คุณแก้ว-ธนาเทพ ใจพุก วัย 20 ปี

โดย คุณแก้ว – ธนาเทพ ใจพุก เจ้าของร้านควบตำแหน่งพ่อครัววัย  20 ปี เล่าให้ฟังว่า เปิดร้านห่อข้าวหอมมาได้ 1 เดือนกว่า ก่อนจะมาเปิดร้าน เรียนแค่ปวช. และทำงานพาร์ตไทม์เหมือนเด็กคนอื่นๆ ทั่วไป แต่คิดว่า พาร์ตไทม์ เป็นอาชีพที่ไม่มีความมั่นคง สร้างเส้นทางชีวิตที่แน่นอนในอนาคตไม่ได้ อีกทั้งตนเอง เป็นคนชอบทำและชอบทานข้าวกะเพราไก่ และ ข้าวไข่เจียวเป็นประจำ เมื่อไปทานที่ร้านอาหารอื่นๆ รู้สึกว่าเขาเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งวัตถุดิบ ราคา และปริมาณ 

จึงคิดเปิดร้านขึ้นมา โดยตั้งใจไว้ว่าจะไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ต้องใช้วัตถุดิบอย่างดีในการทำ และขายในราคาที่คนทุกฐานะสามารถซื้อทานได้ ตอนเปิดร้านแรกๆ มีเงินทุนเพียง 14,000 บาท จากการทำงานเก็บออมมา 2 ปี

คุณแก้วเล่าต่อว่า ครึ่งเดือนแรกในการขายข้าว ตนเกือบหมดทุนเหมือนกัน วันๆหนึ่งขายได้กำไรน้อยมาก ได้ประมาณ 100 – 200 บาท ซึ่งนับว่าขายไม่ค่อยดีนัก

แต่มีคุณแม่ที่คอยช่วยเหลือ และมี คุณหมี พี่ที่รู้จักตั้งแต่เล็กๆ และนับถือกันเสมือนพี่ชายแท้ๆ คอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาและกำลังใจ ทั้งยังแบ่งพื้นที่ในบ้านให้คุณแก้วได้เปิดร้านทำอาหารขาย และยังช่วยสนับสนุนเงินทุนในส่วนที่ขาด โดยไม่หวังผลตอบแทน เขาจึงรู้สึกนับถือให้ใจพี่ชายคนนี้เป็นอย่างมาก 

ทั้งยังช่วยแนะนำให้ใช้วัตถุดิบดีๆ อาทิ ใช้น้ำมันรำข้าว ที่นอกจากจะไม่มีไขมันทรานส์ ที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนข้าวก็เลือกใช้ข้าวหอมมะลิ, อกไก่บดลอกหนังและไข่ไก่ รวมถึงการนำผักปลอดสารพิษมาใช้ในการทำอาหารขาย มีการใช้กล่องที่ทำจากเยื่อพืชธรรมชาติ และถุงรักษ์โลกที่สามารถย่อยสลายได้เองอีกด้วย

“ผมเห็นว่าข้าวกะเพราไก่ และ ข้าวไข่เจียว เป็นอาหารที่ทั้งกินง่ายและทำง่าย และยังเป็นเมนูที่ผมชอบทำกินเองเป็นประจำ เลยเปิดร้านที่ขายแค่ 2 เมนูนี้  มีราคาขายอยู่ 2 แบบ ถ้าซื้อแบบเป็นห่อ จะราคาที่ 15 บาท ซึ่งก็ได้ข้าวเยอะนะครับ แต่ถ้าจะใส่กล่อง ราคาก็จะขยับขึ้นเป็น 30 บาท เพราะใช้กล่องที่ทำมาจากพวกเยื่อพืชธรรมชาติ ต้นทุนก็เลยค่อนข้างสูง แต่ลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มข้าวเยอะได้เช่นกัน จริงๆ แล้วผมหวังจะมีรายได้ที่เกิดจากธุรกิจเล็กๆ ตรงนี้ของตัวเองนะครับ ซึ่งถ้าไปได้ด้วยดีก็จะสามารถแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ระดับหนึ่ง แต่ที่ผมเลือกขายราคาเพียงเท่านี้ เพราะอยากช่วยเหลือคนมีรายได้น้อย แต่อยากกินให้อิ่มและคุ้มค่าที่สุด จึงไม่ขายแบบหวังกำไรมากมาย ขอแค่ลูกค้ามีความสุข ก็เพียงพอแล้ว ในอนาคตถ้าขายจนได้ทุนคืนแล้วก็อยากจะขยับขยาย เช่าที่เป็นหลักแหล่งเปิดร้านขายน้ำเพิ่ม” คุณแก้ว กล่าว

ข้าวและกะเพราแบบจัดเต็ม ฝีมือคุณแก้ว

นอกจากนั้น คุณแก้วยังรับทำข้าวกล่อง โดยรับตั้งแต่ 1 กล่องขึ้นไป ซึ่งเขาบอกว่า ส่วนใหญ่ลูกค้าจะสั่งมากกว่า 30 กล่องขึ้นไป จนถึงหลักร้อยกล่อง โดยมีคุณแม่และคุณหมี มาช่วยเตรียมวัตถุดิบจัดใส่กล่อง และช่วยทำอาหาร ซึ่งในตอนนี้ มีคิวออร์เดอร์เข้ามาเยอะมาก จนคิวยาวไปถึงกลางเดือนมีนาคมเลยทีเดียว ทำให้ไม่สามารถออกไปเปิดหน้าร้านได้ตามปกติ