ไม่มีใครแพ้ได้ทุกวัน! เปิดเทคนิคแม่ค้าขนมจีน-หน้าใหม่ในโรงเรียน “ขายยังไงให้รอด”

ขายขนมจีนยังไงให้รอด
ขายขนมจีนยังไงให้รอด

ไม่มีใครแพ้ได้ทุกวัน! เปิดเทคนิคแม่ค้าขนมจีน-หน้าใหม่ในโรงเรียน “ขายยังไงให้รอด”

เป็นกระทู้บนเว็บดัง เรียกเสียงฮือฮาในหมู่คนทำมาค้าขาย ไปเมื่อหลายวันก่อน เกี่ยวกับเรื่องราวความยากลำบากการขายอาหารในโรงเรียน สำหรับ “แม่ค้าขนมจีน-หน้าใหม่” ที่ทำน้ำยาขนมจีนตีนไก่ ไปขายในโรงอาหารของโรงเรียน ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนมาซื้อน้อยมาก จนถึงขายไม่ได้ กระทั่งผู้เป็น “น้องสาว” ได้มาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำ ปรากฏมีผู้คนส่งกำลังใจและมีข้อเสนอแนะหลากหลาย

ล่าสุด “น้องสาว” ของแม่ค้าขนมจีนท่านเดิม ได้เข้ามาตั้งกระทู้บนเว็บดังอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ เป็น “พัฒนาการ” น่าชื่นใจของกิจการร้านขนมจีนในโรงเรียนของพี่สาวเธอ  มีเนื้อหาพอสรุปได้ดังนี้

เริ่มต้นจากการที่เธอผู้เป็นน้องสาว ตั้งคำถาม

“ทำไมทำน้ำยาตีนไก่เหมือนร้านเดิม”

พี่สาวเธอบอก ไม่รู้ว่าเจ้าเดิมทำน้ำยาตีนไก่ วันแรกไปขายก็ขายได้อยู่ พอวันต่อมาก็ทำน้ำยาตีนไก่อีก ก็พอขายได้ พอวันต่อมาลองเอาตีนไก่ออก มีเด็กคนหนึ่ง คนเดิมมาถามหาตีนไก่ พอบอกว่าไม่มี มีแต่ลูกชิ้น เด็กทำหน้าจ๋อย  แล้วเล่าว่า เมื่อวานตีนไก่สองตีนเพื่อนแย่งกินหมดเลย ไม่ได้กิน เลยสงสาร วันต่อมาทำน้ำยาตีนไก่ไปอีก เด็กคนเดิมก็มาซื้ออีก กับเพื่อนอีก 2 คน (เด็กชาย ม.ต้น) พอวันต่อมาเด็กคนเดิมมาบอก ป้าๆ วันนี้ผมอยากกินข้าวราดแกงนะป้า ไม่ได้ซื้อป้าครับ ซึ่งเป็นวันที่ ขายไม่ได้สักจานเดียว

ต่อมาเป็นคำถาม “ทำไมไม่ลองทำน้ำยาอย่างอื่นดู”

พี่สาวเธอบอก คิดอยู่ ว่าจะลองทำกินเองก่อน ตอนนี้ถนัดทำน้ำยาแบบนี้ ถ้าน้ำยาอย่างอื่นยังไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่ ว่าจะทำแบบไหนยังไง เลยทำขายอย่างเดียว

คำถามถัดไป “ลองคุยกับทางโรงเรียนดูว่าขนมจีนให้มีร้านเดิมก็พอ ขอขายอย่างอื่นที่ยังไม่มีขายดีกว่ามั้ย”

พี่สาวเธอบอก ลองคุยแล้ว ขอลองขายข้าวมันไก่ ไม่ก็ กวยจั๊บ หรือเย็นตาโฟ คุณครูบอกว่าเรียกประชุมทุกร้านแล้ว มีสองร้านที่ไม่เห็นด้วย เลยอนุญาตให้แค่ทำยำขนมจีน หรือ ยำมาม่า เพิ่มได้

คำถามต่อมา “ถ้าเลิกขายเลยไม่ได้หรือ”

พี่สาวเธอบอก ทำสัญญาไว้ 1 ปี ที่ต้องขายขนมจีน ปีหน้าถึงจะประมูลขายข้าว หรือก๋วยเตี๋ยวได้ ถ้ายกเลิกจะไม่ได้เงินคืน

น้องสาว สงสัยต่อ “เกี่ยวมั้ย ว่าเป็นร้านใหม่ เด็กนักเรียนเลยไม่มากิน”

พี่สาวเธอบอก  ร้านขายก๋วยเตี๋ยวข้างๆ เล่าว่า วันแรกที่มาขาย ขายได้ 200 กว่า เกือบ 300 ชาม ทั้งที่มีเจ้าเดิมขายอยู่ก่อนแล้ว วันต่อมาก็ขายได้ เขาบอกว่า ถ้าพี่ขายก๋วยเตี๋ยว หรือข้าว ก็ขายได้ทุกวันเหมือนกันแหละ เพราะเด็กชอบก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวมากกว่าขนมจีน

เมื่อขอให้ ลองเรียกเด็กให้มาทาน

พี่สาวเธอบอก ก็ชวนมากินนี่แหละ ก็ยิ้มนะ ไม่ได้หน้าบูดหน้าบึ้ง แทนตัวว่าป้านี่แหละ เรียกเด็กน้อยว่าลูกๆ

น้องสาวคนเดิมเจ้าของกระทู้ดังกล่าว เผยต่อว่า  เข้าใจความรู้สึกของพี่สาว เป็นอย่างดี ก่อนลากลับ ยังบอกให้พี่สาว ไว้ว่า “สู้ๆ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครที่จะแพ้ได้ทุกวัน”

กระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ เธอได้รับข่าวว่า พี่สาวกลับไปขายของที่โรงเรียนอีกครั้ง แต่คราวนี้มี “เทคนิค”ใหม่ๆ มาเรียกลูกค้าด้วย อาทิ  ทำน้ำยาตีนไก่เหมือนเดิม แต่ลดปริมาณตีนไก่ลง เพิ่มเนื้อเป็นชิ้นๆ มากขึ้น ปรับรสชาติ จากเดิมใส่เครื่องแกงเยอะ ลดเครื่องแกงลง ไม่เผ็ด ออกรสหวานนิดๆ ถ้าใครไม่กินตีนไก่ ก็ไม่ตักให้ ตักให้แต่เนื้อๆ, ทำน้ำยาแบบอื่นเพิ่ม มีน้ำยาแกงเขียวหวาน น้ำยาหวาน, เพิ่มปริมาณเส้นจากเดิม, แจกลูกอมคนเม็ดสองเม็ด ให้หยิบเอาเองได้เลย, มีป้ายโปรโมชั่น มา 4 คน จ่าย 3 คน เท่ากับว่า จานนี้จ่ายคนละ 15 บาท และเด็กๆ ที่มาซื้อ เขียนชื่อหย่อนในกล่อง ไว้จับฉลากแจกรางวัลเล็กๆ น้อยๆ และ จับฉลากกินฟรี 3 จาน ทุกสัปดาห์

น้องสาวแม่ค้าขนมจีน โพสต์ต่อว่า เทคนิคค้าขายแบบใหม่ ของพี่สาวเธอ สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง คือ วันแรก มีเด็กๆ เดินมายืนมุงดู เพื่ออ่านป้ายกันเยอะ วันแรกนี้ขายไม่หมด (เส้นขนมจีน 6 กิโล) วันถัดมา เตรียมเส้นไป 7 กิโล เหลือกลับ 2 จาน วันถัดๆ มา ขายหมด ล่าสุดเพิ่มเส้นวันละ 1 กิโล

อ่านกระทู้ต้นฉบับ : ขนมจีนป้าพัน(ทิป)

https://pantip.com/topic/38955799?utm_source=facebook&utm_medium=pantip_page&utm_content=Boom&utm_campaign=38955799