ฟังหลักคิด “พี่วิน” หัวใจติสท์ “ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำงานพร้อมกับสิ่งที่ชอบ”

ฟังหลักคิด “พี่วิน” หัวใจติสท์ “ไม่ใช่เรื่องยาก ที่จะทำงานพร้อมกับสิ่งที่ชอบ”

“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” พาไปรู้จักกับ “พี่วิน” หัวใจติสท์ อย่าง คุณเอก – พิชัย แก้ววิชิต หลังจากเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อยู่พักใหญ่ๆ เกี่ยวกับนิทรรศการภาพถ่ายสุดมินิมอลของเขา ที่เพิ่งจัดไปในพิพิธภัณฑ์บ้านฝรั่ง เมื่อหลายวันก่อน

คุณเอก ย้อนความให้ฟัง เคยเป็นเด็กเข็นผักผลไม้อยู่ตลาดมหานาค จนกระทั่งแฟนตั้งท้องลูกคนแรก ค่าใช้จ่ายมันก็เยอะขึ้น ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านม ค่าจิปาถะ จึงไปสมัครเป็นแมสเซนเจอร์ หวังเพิ่มรายได้ แต่เงินเดือนที่ได้มาก็ยังก็ไม่พอใช้อยู่ดี โชคดีที่คนข้างห้อง รู้จักกับ “หัวหน้าวิน” แถวเขตราชเทวี เขาเลยฝากงานให้ นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 20 กว่าปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังทำอยู่

โลกของวินมอเตอร์ไซค์อย่างคุณเอกไม่ได้กว้างมากนัก ชีวิตที่วันๆ วนเวียนอยู่กับถนน มีแต่ความวุ่นวาย หดหู่ ทางออกของความเครียดที่ดีที่สุดคือ ความสุนทรีจากงานศิลปะ

“ผมชอบดูงานศิลปะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาเสพงานศิลป์แล้วผมรู้สึกเหมือนได้อยู่กับตัวเอง จนผมรู้สึกว่าขาดไม่ได้ นั่นคือชีวิตของผม จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้ผมหันมาถ่ายภาพอย่างจริงจังคือ ตอนที่ผมได้ไปช่วยติดตั้งรูปให้กับช่างภาพ ที่เป็นลูกค้าประจำ ในร้านอาหารตรงถนนพระอาทิตย์ ตอนแขวนรูปช่วยเขาอยู่ ผมก็รู้สึกว่าชอบ นี่คือที่ของเรา จึงเข้าสู่วงการถ่ายรูปอย่างจริงจัง และนั่นเป็นที่มาของการซื้อกล้องตัวปัจจุบันด้วย ตอนนั้นผมเอารถมอเตอร์ไซค์ไปจำนำ เพิ่มเงินเก็บอีกนิดหน่อย แล้วก็ไปถอยกล้องมา ผมคิดว่า การลงทุนกับสิ่งที่ชอบ ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร” คุณเอก บอกยิ้มๆ

คุณเอก – พิชัย แก้ววิชิต

อย่างไรก็ตาม คนหาเช้ากินค่ำล้วนมีข้อจำกัดหลายอย่าง วินมอเตอร์ไซค์เช่นเขาไม่สามารถเดินทางไปถ่ายรูปที่ไกลๆ ได้ สิ่งที่ทำได้คือต้องแบ่งเวลาชีวิตให้ดี ส่วนหนึ่งจัดสรรไปทำเพื่อปากท้อง อีกส่วน เจียดให้กิจกรรมอันเป็นความสุขทางใจ โดยคุณเอก ใช้เวลาวิ่งรถทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ไปจนถึง 10 โมง หลังจากนั้นก็ไปถ่ายรูปจนถึงเที่ยงหรือบ่ายโมง แล้วก็กลับมาส่งผู้โดยสารต่อจนถึง 4 ทุ่ม

วิถีชีวิตและเวลาถ่ายรูปอันแสนน้อยนิด ส่งผลให้มุมมองในภาพถ่ายของคุณเอกเปลี่ยนไปด้วย ตรอกซอยที่ดูเหมือนว่าจะไร้ความสวยงาม กลับเป็นลายเส้นสุดมินิมอลในสายตาเขา

“เวลาจะถ่ายรูป ผมไม่ได้มองว่าสิ่งๆ นั้นคือวัตถุ แต่มองมันเป็นลายเส้นและแสงงาน เช่น ถ่ายบันได ผมจะไม่มองว่ามันคือบันได แต่มองว่ามันคือเส้นๆ หนึ่งที่มีความยึกยักและสวยงามเท่านั้นเอง” คุณเอก บอกอย่างอารมณ์ดี

ถามถึงการจัดนิทรรศการ วินมอเตอร์ไซค์หนุ่ม เผยว่า “เพื่อนสนิทเอารูปถ่ายของผมในอินสตาแกรมให้พี่หนุ่ม – คนดูแลร้านกาแฟในพิพิธภัณฑ์บ้านฝรั่งดู พอพี่หนุ่มรู้ว่ารูปพวกนั้นเป็นฝีมือของผม ซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์ก็ตกใจ และคงจะสนใจด้วย จึงติดต่อมา ถามว่าอยากแสดงงานไหม ผมเลยตกลง จึงเกิดนิทรรศการนี้ขึ้นมา

ก่อนเล่าต่อว่า “แรกเริ่มก่อนจัดนิทรรศการ คนที่ติดตามผลงานส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แต่หลังจากมีข่าวออกไป “กระแสวินมอเตอร์ไซค์ถ่ายรูป” ทำให้คนไทยเริ่มรู้จักเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ผมดีใจมากที่ผลงานของตัวเอง เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน”

จากการสังเกตในงานตลอดทั้งวัน มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมนิทรรศการอย่างไม่ขาดสาย เพราะทุกรูปถ่ายมีเรื่องราวและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนี้ มีหลายขนาดให้เลือกชม ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,500-14,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีแบบโปสเตอร์และโปสการ์ดราคาหลักร้อย ให้ซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย

สอบถามจากพนักงานขาย เผยว่า “วันแรกๆ ขายได้เกือบหมื่น ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและนักศึกษา บางคนมาซื้อทีเดียวถึง 3-4 รูปเลยก็มี อีกอย่างที่ขายดีจะเป็นโปสเตอร์และโปสการ์ด เพราะราคาไม่แพง แถมได้ทุกรูป”

ก่อนจบบทสนทนา คุณเอก ทิ้งท้ายน่าคิด

“เงินเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตก็จริง แต่อย่าใช้ทั้งชีวิตเพื่อหาเงินเพียงอย่างเดียว หากเจอสิ่งที่ชอบ ก็ทำมันให้สุดความสามารถ จริงๆ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่คนคนหนึ่งจะทำงานพร้อมกับการทำในสิ่งที่ชอบ อย่าไปคิดว่ามันยาก จนสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองเยอะเกินไป ไม่งั้นเราก็ไม่พบความสุขที่เราสามารถสร้างมันได้เอง”

สนใจชมภาพถ่ายสุดอาร์ตของคุณเอก สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ instargram : @phichaikeawvichit