วันเดย์ทริป เยือนถิ่นแขก สัมผัสวิถี จีน พุทธ มุสลิม ย่านบางรัก-เจริญกรุง

วันหยุดแถมอากาศไม่ร้อนนัก เส้นทางเศรษฐีออนไลน์พาเที่ยวใกล้บ้าน สัมผัสวิถีชีวิตของชาวเจริญกรุงบางรักกับ 3 วัฒนธรรมที่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ พร้อมฟังเรื่องราวความเชื่อทางศาสนา ทั้งจีน พุทธ และมุสลิม ผสมผสานจนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ของบางรัก ที่ใครได้มาเยือนต้องหลงรัก ไปกับ KTC

เริ่มทริปกันโดยการ พาไปสักการะเทพเจ้า108 พี่น้อง เจ้าแม่ทับทิม ไฉ่ซิงเอี้ยะและบู๊นท๋ากง กันที่ ศาลเจ้าเจียวเองเบียว หรืออีกชื่อคือ ศาลเจ้าบางรัก เป็นศาลเจ้าของชาวไหหลำ ที่อายุเก่าแก่กว่า 150 ปี เป็นที่เคารพของชาวจีน และพ่อค้าแม่ค้าในละแวกเป็นอย่างมาก

ศาลเจ้าแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงโศกนาฏกรรมนักเดินทางชาวจีน108 คน ที่ล่องเรือสำเภามาค้าขายที่บางรัก แต่โดนฆาตกรรมที่เวียดนามเสียก่อน เพราะเกิดการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโจรสลัด ซึ่งภายหลังบรรดาญาติๆของนักเดินทางทั้ง108 คน รวมตัวกันเรียกร้องให้ตรวจสอบ จึงพบว่านักท่องเที่ยวทั้ง108 คนเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด จึงตั้งศาลเจ้าเพื่อเป็นการขอขมา

ศาลเจ้าเจียวเองเบียว จึงขึ้นชื่อในเรื่องการคุ้มครองให้เดินทางปลอดภัย เหล่านักเดินทางจึงมักจะมาขอพรให้เดินทางโดยปลอดภัยกันนั่นเอง

จากนั้นมาต่อกันที่ วัดสวนพลู ชุมชนวัดที่มีสีสันและเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยวัดแห่งนี้มีอุโบสถแบบงานปูนปั้นสีขาว ประดับกระจก ทำให้อุโบสถมีความสวยงาม สบายตา เมื่อเข้าไปสักการะองค์พระประทานด้านในจะพบว่า เพดานอุโบสถทำด้วยไม้เนื้อเนียนสวย ดูเรียบง่าย 

อีกทั้ง กุฎิพระสงฆ์ของวัดสวนพลู มีความโดดเด่นด้วยลายไม้ฉลุ ที่เรียกกันว่า หมู่กุฎิขนมปังขิง”  ได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น มรดกสถาปัตยกรรมในประเทศไทย จากสมาคมสถาปนิกสยามเมื่อปี ..2545 ด้วย

เดินเท้าต่อมาอีกนิด ก็เจอเข้ากับ พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเขตบางรัก ที่ก่อตั้งขึ้นโดย อาจารย์ วราพร สุรวดี ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งต่อมาท่านได้โอนกรรมสิทธิ์และทรัพย์สินทั้งหมดให้กรุงเทพมหานครดูแล

โดยในอดีต ย่านเขตบางรักเป็นย่านตากอากาศ อีกทั้งเป็นชุมชนนานาชาติและย่านธุรกิจที่สำคัญ เนื้อหาในการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จึงเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตของชาวบางกอกที่มีฐานะปานกลาง ในช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่2 (ประมาณปี.. 2480 ถึง.. 2500) ของที่นำมาจัดแสดงส่วนใหญ่ เป็นของที่เคยใช้งานจริงของอาจารย์และครอบครัว

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ประกอบด้วย 4 อาคาร ซึ่งมีการผสมผสานวัฒนธรรมหลายชนชาติเอาไว้ ทั้งไทย จีน ฝรั่ง และแขก อีกทั้งยังมีบรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ ถือได้ว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นปอดของเมืองเลยทีเดียว

ดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนร่มรื่น และสัมผัสวิถีชีวิตชาวบางกอกจนเต็มอารมณ์แล้ว พามุ่งหน้าสู่ ศุลกสถาน แหล่งเรียนรู้ประวัติด่านศุลกากร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้สร้างขึ้น ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตบางรัก ถือเป็นประตูสุดแดนพระนครใต้ในสมัยนั้น

โดยศุลกสถานแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเรียกเก็บภาษีจากพ่อค้าวาณิช ที่เดินทางเข้าออกประเทศ เพราะในช่วงปลายศตวรรษที่19  สยามเปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจแบบผูกขาด ไปเป็นการค้าเสรี โดยเมื่อเรือสินค้าเข้ามาจากปากแม่น้ำ ก็ต้องผ่านจุดตั้งด่านเก็บภาษีสินค้าขาเข้าที่เรียกว่าภาษีร้อยชักสามนั่นเอง

ใกล้ๆกันเป็น มัสยิดฮารูณ ศูนย์รวมใจของชาวมุสลิมย่านบางรัก ชมพิธีละหมาด พร้อมฟังเรื่องราวศาสนสถานกลางของชุมชน ที่ยั่งยืนมากว่าร้อยปี เพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ที่บางเรื่องราวเราเอง ก็อาจยังไม่รู้กัน

หากใครที่ชื่นชอบการเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมแบบนี้ ย่านบางรัก-เจริญกรุง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกใกล้บ้าน ที่น่ามาลองเดินถ่ายรูปเล่นกันดูสักครั้งเหมือนกันนะ