เทคนิคร้านดัง “ไก่ทอง” เรียบง่ายแต่ได้ใจ เขียนจดหมาย ถึง “คุณลูกค้าที่รัก”

เทคนิคร้านดัง “ไก่ทอง”  เรียบง่ายแต่ได้ใจ  เขียนจดหมาย ถึง “คุณลูกค้าที่รัก”

เรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ในธุรกิจน้อยใหญ่ หลายคนไม่มีใครปฏิเสธ การสร้าง “ความสัมพันธ์กับลูกค้า”  ส่วนจะใช้ “วิธีสื่อสาร” อย่างไรให้ผู้ซื้อเกิดความพึงพอใจสูงสุดนั้น ย่อมขึ้นกับ “ศิลปะการนำเสนอ” ที่แตกต่างกันไปตามแบบฉบับของแต่ละกิจการ

“ไก่ทอง” ร้านอาหารพรีเมี่ยม เกรด ทั้งคุณภาพและราคา เปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี นับเป็นกิจการที่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับลูกค้า มาแต่ไหนแต่ไร

หากใครมีโอกาส ไปอุดหนุน “ไก่ทอง” สาขาแรก  ถนนแจ้งวัฒนะ  ตรงข้ามมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช  อาจชินตากับภาพของ “คุณจิ๋ม – อรุณี มนตรีวัต” เจ้าของร้าน ที่มักเจียดเวลา มาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ คอยประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง บอกเล่าความเป็นมาของร้าน เมนูอาหาร ที่มาของวัตถุดิบ ฯลฯ  และไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณลูกค้าที่ทยอยมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง

“การปรุงอาหารสูตรของไก่ทอง ต้องใช้ใจปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม เรียกว่าคั่ว โขลก ตำ กันสดๆ หลังร้าน เพื่อให้ได้รสชาติมาตรฐานสูตรไก่ทอง เช่น เมนูผัดต่างๆ ที่ต้องใส่พริก ก็ต้องนับจำนวนพริกตามสูตรลงครกตำพร้อมกระเทียมก่อนลงกระทะเท่านั้น ไม่มีการตำเตรียมไว้เป็นอันขาด เมนูยำ ต้องใช้มะนาวแป้นบีบสดๆ เพราะคุณจิ๋มไม่ประสงค์จะให้ลูกค้ารับประทานอาหารรสชาติดี เนื้อสัตว์สด แต่มีกลิ่นเครื่องปรุงรสบูด หรือแม้แต่ของแห้งอย่างพริกป่น ข้าวคั่วก็ต้องคั่วและตำเอง เพื่อกำหนดความสุก ความหอม ความหยาบ ความละเอียดให้ถูกต้องเหมาะสมกับเมนูต่างๆ ตลอดจนข้าวสารที่มีรายละเอียดในการเลือกซื้อมาก”

เหล่านี้ คือ ส่วนหนึ่งของข้อความแนะนำตัวตน “ไก่ทอง” ให้ลูกค้ารู้จัก ที่บันทึกไว้บน เพจ ไก่ทอง

และแม้วันนี้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปแค่ไหน โลกออนไลน์ จะย่อโลกของผู้ซื้อ-ผู้ขาย ให้เข้ามาใกล้กันแค่ปลายนิ้ว

แต่ “ไก่ทอง” ก็ยังเลือกวิธีสื่อสารกับลูกค้าด้วยวิธีการเก่าๆ แต่หลายคนบอก  “คลาสสิก” และ “ได้ใจ” ลูกค้าได้ไม่ยากเลย

โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว กิจการ “ไก่ทอง” มีอายุครบ 20 ปี จึงมีการขยายสาขาไปที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางร้านเลือกใช้วิธี “บอกกล่าว” ความก้าวหน้าของกิจการ ด้วยวิธีดั้งเดิม คือ เขียนจดหมายใส่ซองไม่ปิดผนึก แล้ววางไว้บนจานอาหาร

จ่าหน้าซองไว้ว่า

“ถึง คุณลูกค้าที่รัก”

พร้อมระบุเนื้อความในจดหมาย ไม่สั้น ไม่ยาวเกินไป แต่ใครที่ได้อ่าน เชื่อว่าเป็นต้อง “ยิ้มมุมปาก” แน่นอน

..…………….

“เรียน คุณลูกค้าที่รักทุกท่าน

กราบเรียนคุณลูกค้า ตอนนี้ไก่ทอง ขออนุญาตคุณลูกค้าไปเปิดสาขาภูเก็ต ที่ Central Phuket ฝั่ง Floresta นะคะ จิ๋ม อยากบอกให้คุณลูกค้ามั่นใจว่า ถึงตอนนี้เราจะมีหลายสาขาแต่รับประกันว่าคุณภาพอาหารของทุกสาขาจะยังได้มาตรฐานไก่ทอง เพราะจิ๋มดูแลเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็ยังไปซื้อของที่จำเป็นเข้าร้านเอง คอยแอบไปสแกนครัวกลางและหลังครัวสาขาต่างๆตลอด ตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงกรรมวิธีการปรุง เพราะสองอย่างนี้ส่งผลต่อรสชาติอาหาร

ขอยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ อย่าง พริก พริกจากกัมพูชา กับ พริกจินดาจากเมืองกาญจน์ หน้าตาคล้ายกันมาก แต่ให้กลิ่นและรสเผ็ดต่างกัน พนักงานซื้อผิดประจำ จิ๋มก็ต้องไปเลือกเอง หรือส่งคนที่ไว้ใจได้ไปเลือก นอกจากนี้ของสำคัญๆอย่าง ข้าวสาร ตับ เนื้อหมู ต้องตรวจเช็กตลอด ถ้าได้ของไม่ดีจะไม่เอามาขายเด็ดขาด

เรื่องกรรมวิธีก็ปล่อยไม่ได้ เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ล้วนส่งผลกระทบต่อรสชาติ เช่น พริกแกง ต้องตำเอง เพราะถ้าซื้อสำเร็จรูปจะได้แบบที่หยาบไปแกงแล้วพริกลอยหรือแบบที่ละเอียดจนเหมือนกะปิป่น ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักแกงไทย พริกป่นต้องคั่วเองเพราะถ้าสุกแค่ผิวแต่เมล็ดพริกข้างในไม่สุกก็จะไม้เผ็ดร้อนหอมแรง ข้าวคั่วต้องคั่วเองให้เหลืองกำลังดี ถ้าผิวข้างนอกเหลืองแต่พอตำแล้วพบว่าด้านในเม็ดข้าวยังขาว ถือว่าใช้ไม่ได้ เอามาทำลาบทำน้ำตกจะไม่หอม

จะเห็นได้ว่าทุกขั้นตอนต้องพิถีพิถันและใส่ใจปรุง นี่ละค่ะคือหัวใจของการทำอาหาร ให้อร่อย ซึ่งร้านไก่ทองทำแบบนี้ทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตร เพราะถ้าใช้ชื่อ “ไก่ทอง” แล้ว ไม่ว่าจะสาขาไหน กี่เดือนกี่ปีผ่านไป วัตถุดิบต้องเกรดนี้ รสชาติต้องแบบนี้เท่านั้น ลูกค้าที่เคยอุดหนุนเราตั้งแต่ปีแรกจนปีนี้คงรู้ข้อนี้ดี ซึ่งจิ๋ม รู้สึกขอบพระคุณทุกท่านเสมอที่ให้ความกรุณาร้านของเรามาตลอด 20 ปี และขอตอบแทนด้วยอาหารที่ดีที่สุดเหมือนวันแรกที่เปิดร้าน

สุดท้ายนี้ จิ๋ม ขอความกรุณาลูกค้าให้กำลังใจเรา และหากมีโอกาสอย่าลืมแวะไปเยี่ยมเราที่ภูเก็ตด้วยนะคะ ลูกค้าเท่านั้นที่จะบอกเราได้ว่า มาถึงภูเก็ตแล้วรสชาติจะยังเป็นไก่ทองเหมือนเดิมหรือไม่

                                                                                ด้วยความรักและขอบคุณจากใจ

                                                                                                แม่ไก่ทอง”

เทคนิค “เข้าถึงลูกค้า” แบบตรงไปตรงมา เรียบง่าย แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่อาจได้ผลเกินคาด

กิจการไหน จะลองไปปรับใช้ดูบ้าง…คงไม่เสียหลาย