“รัฐมนตรีเศรษฐกิจ” ตำแหน่งสำคัญ รัฐบาลใหม่ อาจต้องสละให้พรรคนอกกลุ่ม

“รัฐมนตรีเศรษฐกิจ” ตำแหน่งสำคัญ รัฐบาลใหม่ อาจต้องสละให้พรรคนอกกลุ่ม

เสร็จสิ้นการเลือกตั้งไปแล้ว รู้ผลอย่างไม่เป็นทางการว่าใครได้รับเลือกตั้ง พรรคไหนมีคะแนนมากที่สุด มีกี่พรรคที่จะรวมกันจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปตามคาดหมายอย่างไรหรือไม่ ทราบกันดีแล้ว แต่จะรู้ผลอย่างเป็นทางการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ คือ วันที่ 24 พฤษภาคม 2562

วันนี้ เดือนนี้ อาจรู้แล้วอย่างไม่เป็นทางการว่า ใครจะรับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเสียงข้างมาก ซึ่งยังต้องมีการเสนออย่างน้อย 2 ชื่อ แต่อย่างมากไม่เกิน 3 ชื่อ ด้วยเหตุที่ในสภาผู้แทนราษฎรมีเพียง 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน อาจมีฝ่ายเป็นกลาง ในที่สุดต้องสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือมิฉะนั้นต้องงดออกเสียง

การงดออกเสียงของพรรคหรือผู้ที่สนับสนุนรัฐบาล เท่ากับคัดค้านรัฐบาล หรือมิฉะนั้นเท่ากับสนับสนุนฝ่ายค้าน ที่บอกว่าคัดค้านด้วยการยกมือค้านหรือสนับสนุนตรงๆ ยังไม่เคยเห็น

การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีความหมายถึงระบอบประชาธิปไตยกลับคืนมาอีกครั้ง การเมือง เศรษฐกิจ กลับสู่มือประชาชนและผู้แทนราษฎร ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล แม้จะรู้ถึงพรรคที่นำขบวน แต่ผลอย่างเป็นทางการต้องรอไปก่อน

ระหว่างนี้หากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากรัฐบาลที่ต้องการให้การเมืองเดินหน้า อาจต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้า ด้วยการยอมเสียสมรรถนะทางการเมืองไปบ้าง เช่น ยอมให้มีพรรคที่ไม่ใช่ขั้วเดียวกันนักเข้ามาร่วมรัฐบาล

โดยเฉพาะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ผู้เป็นรัฐบาล อาจต้องยอมสละให้กับพรรคที่มิได้เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่กลุ่มของตนควบคุมในส่วนของความมั่นคงภายในประเทศ และการต่างประเทศ การเกษตรและการคลัง ส่วนกระทรวงคมนาคมให้พรรคที่ช่ำชองคุมงานต่อ

กระนั้น อย่าลืมอีก 2 กระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

เพราะเลือกตั้งใหม่ มีรัฐบาลใหม่ทีไร ไม่ค่อยให้ความสำคัญของ 2 กระทรวงนี้จริงจังสักที